“ตั้งใจเรียนนะคะ”
เสียงอ่านข้อความที่ด้านหลังทำเอาหัวใจของภัทรวรินทร์หายวับก่อนจะรีบพับกระดาษเก็บอย่างไว ยัดใส่หนังสือแทบไม่ทัน
“เขียนให้ใคร มีแฟนแล้วหรือ”
“ใช่ที่ไหนกัน มีคนจ้างให้พราวทำต่างหาก”
“จริงหรือ” เพื่อนซี้หรี่ตามองจับผิด “ไหนเอามาให้ครีมดูหน่อย”
“ไม่ได้ ของลูกค้าเอาให้ดูได้ไง”
“อ้อ ช่วยเก็บความลับลูกค้าหรือ”
“อือ”
“ครีมมีเรื่องอะไรยังเอามาบอกพราวตลอดเลยมี แล้วถ้าพราวมีอะไรแล้วไม่เล่าให้ครีมฟัง อย่างเช่นคบใครอยู่ หรือมีแฟนแล้วแต่ไม่ยอมเล่าให้ครีมฟังนะ ครีมงอนจริง ๆ ด้วย”
ยิ้มอ่อนใจกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตนเอง
ฐิติชญามีนิสัยเอาแต่ใจ
จริงที่อีกฝ่ายมักนำเรื่องส่วนตัวมาเล่าให้ฟังเสมอ แต่ตนเป็นคนไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังนี่นา
เด็กสาวมองหน้าเพื่อนที่สนิทที่สุดของตนเองแล้วก็คิดว่าคงยังไม่เล่าให้ฟังในตอนนี้ เพราะระหว่างเธอกับฐิรดลไม่ใช่แฟนกันเสียหน่อย
ก็แค่ เขาเอาเสื้อผ้ามาซ่อมที่ร้านของน้าเธอ
ก็แค่ เคยไปเดินที่งานวัดด้วยกันแล้วเขาก็แค่ซื้อตุ๊กตาให้
แล้วก็แค่ แค่เขาโทรศัพท์มาคุยด้วยทุกวันหลังเลิกเรียนเท่านั้นเอง
ภัทรวรินทร์สองจิตสองใจว่าจะเล่าให้เพื่อนฟังดีไหม แต่แล้วก็ตัดสินใจว่ายังก่อน เอาไว้ให้มีอะไรมากกว่านี้ก่อนก็แล้วค่อยเล่าให้เพื่อนฟังคงไม่สาย ฐิติชญาเป็นคนมีเหตุผล ถึงตอนนั้นเพื่อนของเธอต้องเข้าใจอย่างแน่นอน
สายตาแบบที่มองแล้วรู้กันส่งมาให้ภัทรวรินทร์ เลยต้องหลอกล่อเพื่อนคู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะวิ่งไปรับลูกแล้วถึงได้ทำคะแนนสุดท้ายปิดเกมได้อย่างสวยงาม
ฐิติชญาร้องวี้ดด้วยความดีใจแล้ววิ่งเข้าไปกอดเพื่อนรักแน่น ยกจากพื้นโยกไปโยกมาด้วยอาการดีใจสุดขีด
“เก่งมากเลยพราว”
“ใช่พราวที่ไหนกันเก่ง ถ้าครีมไม่เซทลูกให้ เราก็ไม่ชนะหรอก”
เพื่อนที่อยู่อีกฟากแกล้งโวยว่าให้แข่งใหม่ แต่แล้วฐิติชญาก็หัวเราะเบา ๆ ทวงเรื่องขนมและน้ำที่อีกฝ่ายท้าไว้ว่าจะเลี้ยง แล้วดึงเอาเพื่อนซี้เพื่อนสนิทที่สุดที่ตนยกตำแหน่งให้ภัทรวรินทร์ พากันไปล้างมือ ล้างหน้าที่ก๊อกน้ำข้างสนามด้วยกัน
คนอื่น ๆ ลงไปแข่งที่สนามต่อจากนั้น ส่วนคนที่นั่งดูข้างสนามก็ยังคงนั่งคุยกันอยู่ แล้วเสียงคุยก็ดังขึ้นตรงข้างมณีนาถนี่เอง
“สองคนนี้เคยทะเลาะกันบ้างไหมเนี่ย”
“แกหมายถึงใคร”
“ก็พราวกับครีมนั่นไง สองคนนั้นเคยทะเลาะกันบ้างไหมวะ”
“ไม่เคยหรอกมั้ง สองคนนี้สนิทกันจะตาย ไม่เห็นเคยทะเลาะกันเลยนี่นา”
มณีนาถมองไปยังเพื่อนสองคนที่ถูกกล่าวถึงด้วยสายตาริษยา พวกนั้นดูจะสนิทสนมกันมาก ๆ แล้วก็ไม่เคยลากตนเข้าไปอยู่ในความสนิทสนมนั้นด้วยเลยสักครั้งเดียว ไม่ว่าตนจะทำอย่างไรก็ไม่เคยเข้าไปในวงล้อมของสองคนนั้นได้ หากว่ามีหนทางใด ที่จะทำให้สองคนแตกคอกันได้ สาบานตรงนี้เลยว่าตนจะทำ
“พราว”
ภัทรวรินทร์ชะงักมือที่กำลังจดย่องานแล้วหันไปยังต้นตอของเสียง มองหามณีนาถเพราะเมื่อครู่นี้เพื่อนยังนั่งจดงานด้วยกันอยู่เลย แต่แล้วหายไปไหนก็ไม่รู้
ก่อนจะหมุนหน้าไปยังต้นตอของเสียงเรียกเมื่อครู่นี้ พอเห็นว่าใครก็ค่อยหันหน้ากลับมาที่งานตรงหน้าอย่างเดิม อีกฝ่ายรีบพาตัวเองมานั่งที่ฝั่งตรงข้ามแล้วพูดขึ้นว่า
“เราเองสินะที่ชื่อพราวน่ะ”
ภัทรวรินทร์วางปากกาในมือลงแล้วมองยังคนถามด้วยสายตาแปลกใจ เธอเคยเห็นเขาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกท้ายซอยเปลี่ยว ร้านที่ ฐิรดลพาไปกินในคืนนั้น คืนงานกาชาด
อีกฝ่ายเป็นพี่มัธยมปลายที่คล้ายจะเกเรนิด ๆ แต่ก็เป็นที่คลั่งไคล้ของเด็กผู้หญิงในโรงเรียน รวมทั้งฐิติชญา แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ
“ใช่ค่ะ”
“พี่ชื่อเอ” เขาแนะนำตัวเองแบบง่าย ๆ กับเธอ
ยิ้มรับ ไม่ได้ถามอะไรเขากลับไป หันไปมองรอบ ๆ ก็พบว่าตัวเองกลายเป็นเป้าสายตาของคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นไปแล้วด้วย คงเพราะหนุ่มฮอตของโรงเรียนมานั่งคุยด้วยนี่ละมั้ง
ว่าแล้วก็รีบเก็บของรวบเอาเข้าไปใส่ในกระเป๋า ตั้งท่าจะไปจากตรงนี้ แต่โดนจับมือเอาไว้เสียก่อน
“จะไปไหน”
เอถามพร้อมกับรั้งข้อมือของเธอ จากที่คนมองแค่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของแถบนั้น กลายเป็นทุกคนมองมาที่เธอกับเอครบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะนาทีนี้
เธอรีบดึงมือตัวเองออกจากมือของเธอ บอกด้วยเสียงตึง ๆ ไปว่า “มีรายงานต้องทำให้เสร็จค่ะ”
ท่าทางหนุ่มฮอตดูไม่สบอารมณ์นัก เขาดึงมือให้เธอนั่งลงพร้อมบอก “พี่อยากได้การ์ดสวย ๆ ซักสิบใบ ได้ข่าวว่าเราทำสวย ขายใบเท่าไรนะ”
พอได้ยินแบบนั้นเด็กสาวก็ค่อยเข้าใจในตอนนั้นเองว่าที่แท้เอก็แค่อยากได้การ์ด น่าจะบอกดี ๆ แต่แรก แล้วถึงได้ถามเขากลับไปแบบไม่เต็มเสียงนัก
“อยากได้แบบไหนคะ บอกมาเลยค่ะ มีหลายราคา นี่ไงตัวอย่าง ถ้าจะทำสิบใบราคาก็คุยกันได้ค่ะ”
“ขายเก่งนะเรา” เอว่ายิ้ม ๆ
“คือแบบนี้นะ พี่ไม่มีแบบในหัวหรอก เลยอยากให้เราออกแบบให้หน่อย พอดีว่าพี่น่ะแอบชอบรุ่นน้องในโรงเรียนอยู่ เลยไม่รู้ว่าแบบไหนถึงจะสวย เรามีแบบไหนแนะนำพี่บ้างล่ะ”
แอบชอบรุ่นน้องเป็นสิบ ๆ คนเลยหรือ