ตอนที่ 2
ณฟ้าตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารและดูแลพ่อของเธอ อาการพ่อของเธอนั้นยังทรงตัว ท่านมีอาการคล้ายอัมพาตครึ่งตัว สมองมีการตอบสนองช้ากว่าปกติแต่ถึงอย่างนั้นยังไม่หนักถึงขั้นติดเตียง ท่านยังลุกขึ้นนั่งได้และสื่อสารได้ในคำสั้น ๆ
“คุณพ่อตื่นแล้วเหรอคะ”
“ฟ้า...ลูก”
“ฟ้าทำข้าวต้มปลาของโปรดคุณพ่อมาให้ด้วยนะคะ”
รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวย ณฟ้าพยายามซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายในใจ ไม่ต้องการให้พ่อของเธอเห็น
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ตักข้าวต้มในถ้วยป้อนให้พ่อของเธออย่างระมัดระวัง
“ค่อย ๆ นะคะคุณพ่อ”
“บอ บอ บริษัท”
ณฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่พ่อพูดออกมา เมื่อวานเธอไปหาเจ้าหนี้คนนั้นของพ่อแล้ว เธอไม่ได้จะไปขอให้เขายกหนี้ให้ แต่จะไปขอผ่อนผันเพราะเธอเองก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้างจากการทำงานในต่างประเทศ และ การขายขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนเรียน
น่าเสียดายที่เขาคนนั้นไม่อนุญาติให้เธอเข้าพบ วันนี้เธอเลยตั้งใจจะไปหาอีกครั้ง
“บริษัทเรียบร้อยดีค่ะ คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ”
หลังจากจัดการดูแลพ่อเรียบร้อย ณฟ้าจึงกลับไปดูมัฟฟินที่อบไว้ในห้องครัว โชคดีที่เตาอบขนมของเธอยังใช้งานได้ อุปกรณ์ทำขนมอื่นๆก็ยังคงสภาพดีอยู่ด้วย นั่นเป็นเพราะมลคอยดูแลให้อย่างดี
“หอมน่าทานมากเลยค่ะคุณฟ้า”
“ป้ามลลองทานสิคะ”
“ป้าทานได้เหรอคะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ ป้ามลของฟ้าเป็นเชฟฝีมือดีที่สุดในชีวิตฟ้าแล้ว ป้ามลช่วยทานแล้วติชมหน่อยนะคะ”
“ได้เลยค่ะคุณฟ้า”
มลเอ่ยด้วยรอยยิ้ม มลนั้นเป็นแม่บ้านของที่นี่มานานหลายสิบปี ตั้งแต่ณฟ้ายังเล็ก และแม่ของเธอยังอยู่ ณ ตอนนั้นบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความสุข จนกระทั่งจินลดาเข้ามา แม่บ้านคนอื่นก็พากันลาออก เหลือเพียงมลซึ่งเหตุผลที่เธอไม่ออกเพราะต้องการดูแลณกรณ์ และณฟ้านี่แหละ
“อร่อยมากเลยค่ะคุณฟ้า”
“จริงเหรอคะ”
“ค่ะ อร่อยแบบหาทานที่ไหนไม่ได้เลยค่ะ”
มลไม่ได้พูดเอาใจ เธอเอ่ยชมจากใจจริง ขนมของณฟ้ามีรสชาติดีมาก อร่อยกว่าร้านดังหลายร้านด้วยซ้ำ
“ขอบคุณค่ะ รักป้ามลที่สุดเลย”
ณฟ้าและมลช่วยกันแพ็กขนมลงบรรจุภัณฑ์เนื่องจากณฟ้าตั้งใจนำไปแจกพนักงานคนอื่นด้วยเพื่อตอบแทนที่ทุกคนดูแลเธออย่างดีเมื่อวาน
ตึก Diamond Grand
เป็นอีกวันที่ณฟ้ามาที่นี่ การปรากฏตัวของเธอยังเป็นที่สนใจเช่น เมื่อวาน อาจด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของเธอที่แลดูหวานละมุน แต่ก็คงความสง่าไว้ เธอเดินเข้าไปในตึกพร้อมด้วยถุงใส่ขนมถุงใหญ่ เป้าหมายของเธอวันนี้ยังเหมือนเดิมคือต้องการพบเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งนี้
“สวัสดีค่ะ ติดต่อขอพบคุณฌอนค่ะ”
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ”
เลขาติดต่อเข้าไปในห้องไม่นาน ลูกน้องคนสนิทคนเดิมของฌอนก็เดินออกมา
“สวัสดีครับคุณณฟ้า”
“สวัสดีค่ะคุณเซฟ”
“เอ่อ พอดีคุณฌอนติดลูกค้าคนสำคัญอยู่ คุณณฟ้าสะดวกรอไหมครับ”
“สะดวกค่ะ นี่ขนมค่ะ ณฟ้าทำมาให้ทุกคนเลยค่ะ”
ณฟ้าเอ่ยบอกด้วยเสียงหวานอย่างสุภาพ
ระหว่างรอเข้าพบฌอน ณฟ้าแจกจ่ายขนมที่ทำมาให้พนักงานคนอื่นโดยมีเซฟคอยช่วย
“ขอบคุณมากนะคะคุณณฟ้า สวยแล้วยังใจดีอีก”
พนักงานต่างเอ่ยชื่นชมหญิงสาว และเมื่อได้ชิมขนม ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“อร่อยมาก”
บรรยากาศด้านนอกแลดูสนุกสนานจนคนในห้องที่แอบดูอยู่นึกอิจฉา เขาเผลอมองรอยยิ้มบนในหน้าสวยนั่นโดยไม่รู้ตัวนานหลายนาที
จนหญิงสาวหุ่นเร้าใจที่กำลังเปลือยกายรออยู่ในห้องถึงกับร้องเรียก
“คุณฌอนขา พอลล่ารอคุณฌอนมาลงโทษอยู่นะคะ”
“ผมไม่มีอารมณ์แล้ว กลับไปเถอะ”
“ว่าอะไรนะคะ!”
“แต่งตัว แล้วออกไปซะ”
ฌอนยื่นคำขาด ขณะที่ยังจับจ้องรอยยิ้มของณฟ้าอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่เลิกความคิดที่ว่าเธอหน้าเงินเหมือนครอบครัวของเธออยู่ดี
“ทำแบบนี้คงแสแสร้งสินะ”
ชายหนุ่มปิดประตูที่แง้มดูหญิงสาว เขาเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานโดยไม่สนใจสาวสวยที่กำลังแต่งตัวด้วยใบหน้าบึ้งตึงสักนิด
พอลล่ามองตามหลังฌอนแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ เธอไม่ได้อยู่ในสถานะต่อรองอะไรกับคนอย่างฌอนได้อยู่แล้ว เลยต้องทำใจเก็บข้าวของเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป
ทุกคนด้านนอกกำลังทานขนม พูดคุยกันสนุกสนานต่างหยุดกิจกรรมของตัวเองเมื่อประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก พร้อมด้วยร่างสูงเพรียวของนางแบบสาวที่กำลังเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“มองอะไรกันยะ”
พอลล่าตวาด เธอเดินกระฟัดกระเฟียดตรงไปยังลิฟต์ ไม่สนใจใครทั้งนั้น ลับหลังเธอพนักงานเลยเริ่มเมาท์กัน
“โดนคุณฌอนไล่ออกมาแน่”
“ฉันเป็นคุณฌอนก็ไม่ชอบหรอกผู้หญิงแบบนี้ สวยแต่หน้าแต่นิสัยแย่มาก”
เสียงพูดคุยเงียบอีกครั้งเมื่อประตูบานใหญ่เปิดออก พนักงานต่างหันไปทางผู้ชายที่เดินออกมาจากห้องทำงาน แล้วก้มหน้าทักทายด้วยท่าทางสุภาพ
ฌอนเดินมาหยุดตรงหน้าเซฟ และณฟ้าพร้อมทั้งหยิบถุงใส่ขนมขึ้นมาดู
“นี่เป็นเวลาพักรึไง?”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเจ้าของบริษัทอย่างฌอน ทำให้พนักงานทุกคนรีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ณฟ้ากำลังจะเอ่ยทักทายฌอนแต่เขาขัดขึ้นเสียก่อน
“คุณฌอนคะคือ...”
“เซฟ วันนี้ฉันไม่รับแขกนะ”
เซฟมองณฟ้าด้วยความรู้สึกเกรงใจ เห็นใบหน้าสลดของเธอก็แอบสงสารอยู่เหมือนกันแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ในเมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านาย
“ครับคุณฌอน”
“อืม แล้วห้ามใครเข้าไปรบกวนเด็ดขาด”
พูดจบเพียงเท่านั้น ฌอนก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานโดยไม่สนใจมองณฟ้าแม้แต่น้อย หญิงสาวเองทำได้เพียงมองตาม ครั้นจะให้ดันทุรังคุยกับเขา เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
“ผมต้องขอโทษคุณณฟ้าด้วยนะครับ ช่วงนี้คุณฌอนงานเยอะจริง ๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าอย่างนั้นณฟ้าขอตัวก่อนนะคะ”
ร่างสูงใหญ่นั่งมองขนมในมืออยู่นานหลายนาที หน้าตาของมันแลดูสวยกว่าขนมปกติ
“เฮอะ สวยแค่หน้าตารึเปล่า”
ขนมชิ้นพอดีคำถูกหยิบเข้าปาก สัมผัสแรกที่เขาได้รับคือความหวานละมุนของขนม รสสัมผัสที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อนทำให้ชิ้นต่อไปถูกหยิบเข้าปากอย่างต่อเนื่อง รู้ตัวอีกทีขนมหมดถุงเสียแล้ว
“รับเพิ่มไหมครับคุณฌอน”
ดวงตาคมเหลือบมองลูกน้อง เขาบอกปัด ทำทีไม่สนใจขนมนั่น
“ไม่ละ เลี่ยนเกินไป”
เซฟเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คนที่บอกว่าเลี่ยนแต่กลับเพิ่งทานไปคนเดียวหมดถุงได้อย่างไร
“เอ่อ ผมขออนุญาตถามได้ไหมครับคุณฌอน”
“อือ”
“ทำไมคุณฌอนถึงไม่ให้คุณณฟ้าเข้าพบเหรอครับ”
“เฮอะ เธอก็คงมาขอกู้เพิ่ม หรือไม่ก็ผ่อนผันหนี้เหมือนแม่ของเธอ นั่นแหละ ฉันไม่มีความจำเป็นต้องให้พบ”
“ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ” คิ้วเข้มเลิกขึ้น มองลูกน้องด้วยสายตายาก จะคาดเดา เซฟจึงรีบอธิบายต่อ
“คือผมว่าคุณณฟ้าต่างจากคุณจินลดานะครับ อีกอย่าง ผมรู้มาว่าคุณจินลดาไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเธอนะครับ”
“ไม่ใช่แม่แท้ ๆ?”
“ใช่ครับ แม่ของคุณณฟ้าเสียไปหลายปีแล้ว ส่วนคุณณฟ้าเองเพิ่งกลับจากต่างประเทศ ผมคิดว่าเธอไม่น่าทราบเรื่องหนี้ที่แม่เลี้ยงของเธอกู้ไปเล่นพนันหรอกครับ”
นี่เป็นสาเหตุหลักที่ฌอนผูกใจเจ็บกับครอบครัวของณฟ้า เนื่องจากเขามาสืบรู้ตอนหลังว่าจินลดาโกหกเขาว่ากู้เงินไปช่วยเหลือบริษัท แต่กลับไปเล่นการพนันแทน
ฌอนหลับตาลงอย่างใช้ความคิด หลังจากไล่ลูกน้องออกไปด้านนอก ใบหน้าหวานละมุนของณฟ้ายังแจ่มชัด อีกทั้งรสชาติ ความหอมหวานในปากเองยังคละคลุ้งช่วยให้เขาผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาด
ถ้าหากณฟ้าไม่ได้เข้าหาเขาเพราะหวังเงินเหมือนแม่เลี้ยงของเธอ แล้วสิ่งที่เธอต้องการคืออะไร อีกอย่างเธอยังมาทำดี แจกขนมให้พนักงานของเขาอีก ถ้าคนเราไม่ได้หวังผล จะทำแบบนี้ไปทำไม คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวของฌอน เขาถอนหายใจออกมาแล้วพึมพำกับตัวเอง
“ณฟ้า เธอต้องการอะไรกันแน่”