“เงียบจัง” น่านน้ำในชุดนอนกางเกงขายาวเสื้อแขนยาวลายคิตตี้สีชมพู นั่งกอดหมอนใบใหญ่บนเตียงกว้าง บรรยากาศบ้านไร่ช่างวังเวงน่ากลัวจริง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มืดไปหมด หญิงสาวถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ในวันนี้ มือบางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่พอเหลือบดูเวลาแล้ว หญิงสาวก็ได้แต่นั่งตาละห้อย
“ดึกป่านนี้หลับกันหมดแล้วล่ะ เฮ้อ!” น่านน้ำเอนตัวลงนอน กว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็ใช้เวลานานนักหนา ทำให้แปดนาฬิกาในวันแรกของการทำงาน น่านน้ำยังคงนอนหลับไม่รู้สึกตัว เนื่องจากการเดินทางไกลและมาเจอสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น ซึ่งแตกต่างจากอากาศในเมืองหลวง ทำให้ร่างกายของเธอปรับสภาพไม่ทัน หญิงสาวจึงเข้าสู่โหมดไข้สูงและตัวร้อนจี๋
ก๊อกๆ
“คุณน่านน้ำ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อน แล้วตามด้วยเสียงทุ้มตามมา น่านน้ำพยายามปรือตาขึ้น แต่ทำไมหนังตาเธอมันถึงหนักอึ้งอย่างนี้ หญิงสาวไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพาร่างตัวเองลงจากเตียงเลย
ภูชิตขมวดคิ้วมุ่น เขาเคาะประตูอีกครั้ง หากแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่อยู่ข้างใน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกลับไปที่ห้องตนเอง หยิบกุญแจสำรองมาไขกุยแจเปิดประตูห้องออก
“คุณน่านน้ำ” ภูชิตที่ตอนนี้จัดการหนวดเคราออกจากใบหน้าหล่อคมเข้มแล้ว ยืนอยู่ข้างเตียงมองดูใบหน้าหญิงสาวที่โผล่พ้นผ้าห่มมา เธอยังนอนหลับตาพริ้ม ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ผู้หญิงนี่จริงๆเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าหนูไอกับคุณธีร์แนะนำมา ผมคงไม่ตัดสินใจรับคุณมาทำงานหรอก เฮ้อ!...คุณน่านน้ำ” หญิงสาวที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มขยับตัวเล็กน้อย เธอพยายามปรือตาขึ้นมองหน้าคนที่เข้ามาปลุก ใบหน้าหล่อคมเข้มชวนหลงใหลนี่คือใครกัน นี่เธอตายแล้วเหรอ ที่นี่คือสวรรค์ใช่ไหม เธอถึงได้เห็นเทพบุตรสุดหล่อขนาดนี้
“น้ำตายแล้วหรือนี่ ฮือๆ น้ำยังไม่ได้แต่งงานเลยนะ เพิ่งอกหักมา จะมาตายได้ยังไง น้ำตายไม่ได้ ฮือๆ” น่านน้ำหลับตาเพ้อ น้ำตาไหลรินอาบสองแก้ม ภูชิตตกใจกับอาการของหญิงสาว ชายหนุ่มจึงใช้หลังมือสัมผัสที่หน้าผากมน แล้วก็ต้องถอนหายใจแรง
“ไม่สบายนี่นา...แตงอ่อน...อ้าว! ไม่อยู่นี่นา เอาไงล่ะทีนี้” นางแตงอ่อนคือแม่บ้านคนเดียวที่เขาไว้ใจให้ขึ้นมาบนเรือน เมื่อก่อนเคยให้เด็กสาวมาทำความสะอาดดูแล แต่เด็กสาวมักสอดรู้สอดเห็นในทุกเรื่อง เขาจึงต้องเปลี่ยนคนขึ้นมาดูแลเรือนให้ จนลงตัวเป็นนางแตงอ่อนที่ดูจะถูกใจเขาเป็นที่สุด เพราะไม่มายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวของเขา
ภูชิตเป็นหนุ่มใหญ่ที่ยังโสด อีกสองปีอายุก็จะขึ้นไปแตะเลขสี่แล้ว หากแต่ด้วยความที่เป็นคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอและหน้าตาที่ดูอ่อนกว่าวัย ทำให้เขามีทั้งสาวน้อยสาวใหญ่แวะเวียนมาหาไม่ขาด ไร่ภูชิตเป็นสิ่งที่เขาภูมิใจนักหนา เพราะเขาสร้างมันมากับมือ บิดาจากไปตั้งแต่เขายังเด็ก และมารดาของเขาก็เพิ่งจากไปไม่กี่ปีนี้เอง แต่อย่างน้อยมารดาของเขาก็ได้เห็นได้ภาคภูมิใจกับลูกชายคนเดียว
ภูชิตกลับเข้ามาในห้องของน่านน้ำอีกครั้ง พร้อมกับกระปุกยาในมือและแก้วน้ำ คนงานในไร่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้ชาย ครั้นจะไปเรียกคนงานผู้หญิงขึ้นมา เขาก็ไม่ชอบที่จะให้ใครมาวุ่นวายบนเรือนมากนัก แล้วลูกน้องคนสนิทที่คอยดูแลรอบๆเรือนก็มีแต่ผู้ชายวัยฉกรรจ์ทั้งนั้น ภูชิตจึงตัดสินใจดูแลหญิงสาวเอง
“คุณน่านน้ำ ทานยาก่อน” ร่างใหญ่นั่งลงบนเตียงข้างๆ เมื่อรออยู่ครู่หนึ่ง แต่กลับไม่มีอาการตอบรับใดๆของหญิงสาว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจใช้วงแขนแกร่งช้อนร่างเล็กของน่านน้ำลุกขึ้นนั่ง คนตัวเล็กนั่งโงนเงนไม่มีแรง แล้วก็เอนศีรษะไปซบอกกว้างของคนดูแลจนได้ ภูชิตเขย่าร่างของน่านน้ำเบาๆ
“ทานยาก่อนคุณ” มือใหญ่เทยาออกจากกระปุกสองเม็ด ก่อนพยายามป้อนเข้าปากเล็ก แล้วยกแก้วน้ำแตะริมฝีปากบาง ชายหนุ่มบีบปากของน่านน้ำให้เผยอออกเล็กน้อย แล้วค่อยๆกรอกน้ำลงไปช้าๆ
“แค้กๆ” น่านน้ำแหวะทั้งยาและน้ำออกมาทั้งหมด คนใจดีที่ป้อนยาให้ถึงกับตกใจ ก่อนจะเบ้หน้าเพราะทั้งน้ำที่พ่นออกจากหญิงสาว และน้ำในแก้วที่เขาถืออยู่หกเปื้อนทั้งตัวเขาและคนไข้
“นี่คุณ!” ภูชิตตวาดเสียงดัง น่านน้ำลืมตาขึ้นอย่างยากเย็น เมื่อเห็นใบหน้าเทพบุตรอยู่ใกล้แค่คืบ หญิงสาวยกมือไหว้ขอโทษอย่าสำนึกผิด
“ขอโทษค่ะพี่เทพบุตร...น้ำกินยาเม็ดไม่เป็น เอ่อ...ขอเป็นยาน้ำได้ไหมคะ” ภูชิตเกือบหลุดขำไปกับชื่อที่น่านน้ำใช้เรียกเขา ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างระอาใจ นี่แหละสาเหตุที่เขาอยากได้ผู้ชายเท่านั้น อะไรดลใจให้เขารับผู้หญิงคนนี้มาทำงานนะ เฮ้อ! ยาน้ำจะเอามาจากไหนล่ะแม่คุณ ก็เห็นมีแต่เด็กนะกินยาน้ำ แล้วไร่นี้ไม่มีเด็กสักคน ภูชิตวางร่างของน่านน้ำลงบนที่นอน จ้องมองใบหน้าเนียนยังคงหลับตาพริ้ม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สวยโดดเด่นจนต้องเหลียวหลังมอง เหมือนผู้หญิงหลายๆคนที่เขาเคยควง หากแต่เครื่องหน้าทุกอย่างของเธอกลับดูหวานน่ารักลงตัว มองยังไงก็ไม่น่าเบื่อ ใบหน้านวลเนียนรูปไข่ แก้มอิ่มแดงเรื่อ จมูกรั้นเชิดๆ หน้าผากมนนูนเนียน ไหนจะริมฝีปากแดงแจ๋จากพิษไข้ ดูอวบอิ่มน่าจูบจัง
อ้าว! นี่ลูกน้องนะไอ้ภูชิต จะมาเสียคนตอนแก่แล้วไหมล่ะ