ตอนที่ 8

1143 คำ
“ก็ได้ครับ ผมจะให้โอกาสคุณแล้วกัน พรุ่งนี้เราจะเริ่มงานกันจริงๆเสียที หวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์อะไรให้ต้องเลื่อนวันเริ่มงานอีกนะครับ” น่านน้ำคลี่ยิ้มกว้าง ยิ้มหวานบนในหน้าเนียนกับแววตาสดใสบ่งบอกว่าดีใจสุดขีด ทำให้หัวใจของภูชิตกระตุกวูบไหวอีกแล้ว “ขอบคุณมากค่ะ น้ำสัญญาว่าจะทำงานให้สุดความสามารถเลยค่ะ” ภูชิตพยักหน้ารับ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป เมื่อประตูห้องถูกปิดลง “คุณได้อยู่ต่อนะจ๊ะ คุณน่านน้ำ” น่านน้ำบอกกับตัวเองแล้วลุกขึ้นกระโดดโลดเต้น โดยไม่สนใจเสื้อคลุมที่หล่นไปกองอยู่กับพื้น เธอกระทืบเท้ากรี๊ดในลำคอ ดีใจที่ยังมีโอกาสอยู่พิชิตใจเจ้านายหนุ่ม ร่างเล็กหมุนตัวอย่างมีคนมีความสุขสุดๆ จนไม่ได้ยินเสียงประตูที่เปิดออกอีกครั้ง “เอ่อ...คุณน่านน้ำผมรอทานขะ...” ภูชิตอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้าที่ได้เห็น น่านน้ำหยุดทุกการเคลื่อนไหวอ้าปากค้างตาโตและรีบหันหลังให้คนที่โผล่หน้าเข้ามา ภูชิตรีบดึงประตูปิด เขาหอบหายใจแรงราวกับเด็กหนุ่มเพิ่งเคยเห็นเนื้อนวลสาวครั้งแรก “ขะ...ขอโทษครับ ผมรอทานข้าวนะครับ” น่านน้ำรีบวิ่งไปกดล็อกประตู ก่อนที่จะเอ่ยเสียงแผ่วเบาออกไป “ค่ะ” หัวใจเธอเต้นโครมคราม วันนี้เธอเสียสาวทางสายตาไปสองครั้งแล้วนะ “คุณภูชิตต้องรับผิดชอบ น้ำถือว่าน้ำเป็นของคุณแล้ว” มือเล็กกำแน่น ใบหน้านวลเชิดขึ้น ความมุ่งมั่นฉายชัดอยู่ในแววตา ภูชิตเดินกลับเข้าห้องตัวเอง เขาใช้สายน้ำเย็นชำระล้างความรู้สึกร้อนรุ่มในร่างกาย ใบหน้าคมเข้มกระตุกยิ้มแล้วส่ายศีรษะกับตัวเอง “บ้าไปแล้ว ไอ้ภูชิตเอ๊ย! หึๆๆ” วันแรกของการลงมือทำงานเป็นจริงเป็นจัง หลังจากมาเหยียบไร่ภูชิตสองคืนกับอีกหนึ่งวัน ซึ่งพอได้ลงมือทำงานน่านน้ำก็แทบไม่มีเวลาว่าง ให้คิดถึงเจ้านายหนุ่มหล่อพ่อเทพบุตรเอาเสียเลย ระบบการจัดการบัญชีที่ถูกวางไว้อย่างดีเยี่ยมทำให้หญิงสาวทำงานได้ง่ายก็จริง แต่ตัวเลขที่มีที่มาจากหลายทางและรายจ่ายที่ละเอียดอ่อนหลายๆด้านก็เล่นเอาน่านน้ำถอนหายใจไปหลายเฮือกอยู่เหมือนกัน “พักทานข้าวก่อนก็ได้นะครับคุณน้ำ”ภูชิตกลับมาเข้ามาภายในห้องทำงานอีกครั้งในเวลาเกือบบ่ายโมง หลังจากที่เขาออกจากบ้านไปสำรวจความเรียบร้อยภายในไร่แต่เช้า และเลยเข้าไปติดต่องานเมือง ชายหนุ่มตัดสินใจเรียกชื่อเล่นของลูกน้องคนใหม่ เพราะเมื่อคิดทบทวนความสนิทชิดเชื้อแล้ว เธอกับเขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันสักหน่อย ออกจะใกล้ชิดกันไปถึงไหนแล้วจริงๆนะ น่านน้ำเงยหน้าขึ้นละสายตาจากโน้ตบุ๊คตรงหน้า หญิงสาวยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะก้มลงสนใจกับงานตรงหน้าต่อ และตอบบทสนทนากับเขาทั้งๆที่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น “น้ำยังไม่หิวค่ะ ขอเคลียร์งานให้เสร็จก่อนนะคะ” น้ำเสียงราบเรียบและอาการไม่สนใจตัวเอง ทำให้ภูชิตรู้สึกขัดอารมณ์แปลกๆ ก็ในเมื่อเขาพอเดาได้ว่าน่านน้ำพึงพอใจเขาเองอยู่มิใช่น้อย และหลายครั้งที่เขารู้ว่าหญิงสาวทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตนเอง นั่นมันทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด แต่พอเธอมีงานให้ทำอยู่ตรงหน้า เขากลับกลายเป็นคนที่ไม่มีความหมายเอาเสียเลย “แต่ผมหิว” น่านน้ำชะงักมือที่กำลังเคาะบนแป้นพิมพ์โน้ตบุ๊ค คิ้วเรียวขมวดมุ่นเงยหน้าสบตาเจ้านายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ สาบานว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ “เอ่อ...เชิญคุณภูชิตตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวน้ำหาอะไรง่ายๆกินเองก็ได้ค่ะ” แต่แล้วนิ้วเรียวเล็กที่กำลังจะลงมือคีย์งานต่อก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อน้ำเสียงทุ้มที่เจือไว้ด้วยความไม่พอใจออกคำสั่งที่ค่อนข้างเอาแต่ใจออกมา “คุณน้ำต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนผม” ปากบางจิ้มลิ้มเผยอค้าง คิ้วเรียวขมวดมุ่น นัยน์ตาคู่สวยเบิกโตขึ้นกว่าปกติและจ้องมองเจ้านายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ “คือผมหมายความว่า เราสองคนควรทานข้าวพร้อมกันตอนนี้เพราะมันเลยเวลามานานแล้ว” น่านน้ำพยักหน้ารับ ยิ้มแบบงงๆ แต่ก็ยอมลุกจากเก้าอี้เดินตามชายหนุ่มออกจากห้องทำงานไป โรงครัวของไร่อยู่ห่างจากเรือนหลังใหญ่ของเขาเกือบสองกิโลเมตร จึงจำเป็นต้องใช้รถในการเดินทาง น่านน้ำขมวดคิ้วมุ่นขณะนั่งเคียงข้างเจ้านายหนุ่ม ภูชิตสังเกตตั้งแต่ที่หญิงสาวขึ้นนั่งบนรถแล้ว จนใกล้จะถึงโรงครัว เขาก็อดใจที่จะถามไม่ได้ “มีอะไรหรือเปล่าคุณน้ำ ผมว่าคุณกำลังทำหน้าตาสงสัยอะไรบางอย่างอยู่นะ” น่านน้ำหันกลับไปมองเสี้ยวหน้าคนถามที่กำลังบังคับรถ ไปตามทางภายในไร่ “น้ำว่าเราน่าจะทานอาหารกันที่บ้านนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาทำงาน มาทานที่โรงครัว ไหนจะต้องขับรถมาเปลืองค่าน้ำมัน แล้วก็ใช้เวลาเดินทางอีก ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ถ้าเราต้องเดินทางมาที่โรงครัวทุกวัน ลองเอาเวลาที่เราเสียไปในแต่ละวันมารวมกันแล้ว มันจะกลายเป็นเวลานานเป็นปีเลยนะคะ” “คุณน้ำหมายความว่าจะให้คนเอาอาหารไปให้ทานที่บ้าน...” น่านน้ำหันขวับจ้องหน้าคนพูดอย่างเอาเรื่อง “ไม่ใช่ค่ะ!” น้ำเสียงไม่พอใจของน่านน้ำทำให้ภูชิตเลิกคิ้วสูง หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอไม่ได้ต้องการความสะดวกสบาย แต่เธอไม่อยากให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ “น้ำหมายความว่า เราควรกินอะไรง่ายๆในมื้อกลางวัน อย่างเช่นต้มมาม่าใส่ไข่ ผัดมาม่าใส่หมู หรือ...” “พอๆ คุณน้ำ ไอ้อะไรง่ายๆของคุณ ผมว่ามันง่ายเกินไปนะ เอาอย่างนี้แหละดีแล้ว” น่านน้ำเผลอค้อนให้ชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว ภูชิตส่ายศีรษะกับความคิดของหญิงสาว รถคันใหญ่ของภูชิตแล่นมาจอดอยู่ด้านข้างโรงครัว คนงานหลายคนมองมายังสองร่างที่ก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงครัวพร้อมกัน น่านน้ำสังเกตเห็นภูชิตทักทายคนงานอย่างเป็นกันเอง รอยยิ้มจริงใจของเขาส่งผลให้ประกายเทพบุตรในตัวเปล่งปลั่งแผ่รัศมีจนเธอเองเผลอมองด้วยแววตาชื่นชม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม