บทที่7 คุณดินแก่

1745 คำ
ดวงตาคมกริบเหลือบมองร่างบางที่นำเสื้อผ้ามาทาบกับลำตัวตัวแล้วตัวเล่าก่อนจะลุกขึ้นก้าวเข้าไปหา “เลือกไม่ถูกเหรอ?” “ค่ะ สีนี้ก็สวย ตัวนั้นก็ดูใส่สบาย คุณดินช่วยนาเลือกหน่อยสิ” “ถ้าชอบก็เอาทั้งหมดเลยก็ได้นี่ ทำไมต้องเลือก” ถามจบก็หยิบชุดที่ดูสวยและใส่สบายอีกหลายชุดยื่นให้กับพนักงาน เนตรนลินจะอ้าปากค้านก็ต้องหุบปากฉับเมื่อปฐพีหันมาสั่งทางสายตา เขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองไม่ใช่น้อยเลย จะฟังเธอบ้างก็ไม่ได้ “จะเอาชุดไหนอีกไหม?” “ไม่ค่ะ” คนดื้อเอ่ยอย่างแสนงอน ปฐพีกำลังทำตัวเป็นสายเปย์ ซื้อเสื้อผ้าให้นับสิบตัวแต่เธอไม่ได้พอใจเลยสักนิด เธอต้องการแค่สองตัวเท่านั้นเอง ทำไมถึงทำตัวสิ้นเปลืองแบบนี้นะ “งั้นเอาเท่านี้ล่ะ” ปฐพีหันไปบอกแก่พนักงานก่อนจะยื่นบัตรเครดิตให้และจูงมือหญิงสาวออกจากร้านไป “จะพาไปไหนอีกคะ?” “ไม่ไปเอาของที่ห้องเหรอ?” ปฐพีไม่ตอบแต่ส่งคำถามใหม่ให้แทน เมื่อพูดอย่างนี้เนตรนลินจึงได้แต่เงียบไม่กล้ามีปากมีเสียง ใช้เวลาไม่นานปฐพีก็พาหญิงสาวมาถึงคอนโดมิเนี่ยมที่หญิงสาวอยู่มาตั้งแต่กลับมาเมืองไทยจนกระทั่งเมื่อเช้าวานนี้ แต่ไม่ทันได้เข้าไปด้านในเนตรนลินก็ต้องกำหมัดแน่นเมื่อหันไปเห็นเสื้อผ้าข้าวของของเธอกองอยู่ใกล้ ๆ กับป้อมยาม “อ้าวคุณ มาแล้วเหรอ พอดีเลย” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนี่ยมเอ่ยทักเมื่อเหลือบมาเห็น “คุณหญิงวาริณีให้คนขนของคุณออกมาจากห้อง มาแล้วก็เอาไปเถอะผมว่าจะเอาไปทิ้งอยู่พอดี” “จริง ๆ เล้ย ไปทำอะไรให้คุณหญิงท่านโกรธนะถึงได้โดนดีแบบนี้” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ่นลอย ๆ ก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่น เนตรนลินได้แต่นิ่งปฐพีขยับเข้ามาลูบไหล่ปลอบพร้อมกับสั่งลูกน้องเก็บข้าวของของหญิงสาวไปก่อนที่เจ้าตัวจะพาหญิงสาวกลับมาที่รถ “นาไม่คิดเลยว่าเขาจะทำกับนาขนาดนี้” หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่น เธอรู้สึกเจ็บปวดแทบจะรับไม่ไหว ทำไมมีแต่เรื่องเข้ามากระทบใจเธอแบบนี้กันนะ เธอไม่เข้าใจเลย ไม่คิดเลยว่าคุณหญิงวาริณีจะเกลียดเธอขนาดนี้ หญิงชราคนนั้นไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย “นา ฟังฉันนะ อีกไม่นานคนคนนั้นจะได้รับกรรมที่เขาทำกับแม่เธอแล้วก็เธออย่างแน่นอน คนคนนั้นจะเจ็บปวดจากลูกสะใภ้ที่หล่อนปลื้มนักปลื้มหนากับหลานชายหลานสาวที่รักนักรักหนา เธอไม่ต้องไปสนใจสิ่งที่เขาทำกับเธอหรอกนะ เดี๋ยวเขาจะโดนยิ่งกว่าแน่นอน” ปฐพีบอกแล้วก็ยื่นมือมากุมมือให้กำลังใจ “ไม่นอยด์นะเด็กดี” “ดูดู้ พูดอย่างกับนาเป็นเด็กน้อยแหน่ะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับมีสีหน้าดีขึ้น “ก็เด็กอยู่นะ เด็กดื้อขี้แยด้วย” “นาไม่เด็กแล้วนะคะ” เนตรนลินเถียงด้วยท่าทีไม่ยอมรับ “แต่ก็อายุน้อยกว่าฉันตั้งสิบปี” “คุณดินแก่ต่างหากล่ะไม่ใช่นาเด็ก” “นี่เธอว่าฉันแก่เหรอ” คนเพิ่งถูกหาว่าแก่ถามอย่างไม่พอใจทีเล่นทีจริง “ก็แก่ไหมล่ะ” “ไม่แก่ซะหน่อย” ปฏิเสธเสียงแข็ง “แก่ค่ะ” “ไม่” “แก่ แก่ แก่” หญิงสาวย้ำพร้อมกับหัวเราะคิกคักกับตัวเอง “แก่แล้วนะคุณลุง” “เธอนี่มัน...” คนถูกเรียกคุณลุงเอ่ยเพียงแค่นั้นเมื่อสู้ไม่ได้ ถึงแม้จะน่าเจ็บใจไม่น้อยที่ถูกหาว่าแก่แต่ก็ไม่โกรธเมื่อได้เห็นรอยยิ้มสดใสขึ้นของหญิงสาว เขาต้องการก็แค่นี้นี่ล่ะ “กลับบ้านกันเลยไหม?” “อืม ก็ดีค่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบรับก่อนที่จะยิ้มกริ่มและขยับเข้าไปใกล้ “ไปเลยค่ะคุณลุง” “นี่” “คิก” เมื่อเห็นเจ้าพ่อโกรธแล้วค้อนใส่หญิงสาวก็ได้แต่หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข เธอไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้ของปฐพีมาก่อนเลยก็ว่าได้ ดู ๆ ไปแล้วก็น่ารักน่าหมั่นเขี้ยวเสียจริง นี่คือเจ้าพ่อมาเฟียที่ขึ้นชื่อว่าโหดนักโหดหนาในลาสเวกัสจริงเหรอเนี่ย อย่างกับคนละคนเชียว หลังจากเข้ามาอยู่ในบ้านคีรีราชโภคินเนตรนลินก็ได้รู้จากคุณหญิงประภาพรและปีย์วราว่าปฐพีนั้นเป็นคนค่อนข้างบ้างานจนไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน ด้วยความเป็นห่วงทั้งสองคนจึงไหว้วานให้เธอกล่อมให้ปฐพีพักเสียบ้าง คืนวันนั้นหญิงสาวจึงไม่ว่าง่ายอย่างเช่นคืนแรกเธอชงกาแฟมาให้กับชายหนุ่มพร้อมกับยืนอยู่ข้าง ๆ “มีอะไรให้นาช่วยไหมคะ?” “ไม่ต้องหรอก เธอไปนอนเถอะ” ปฐพีปฏิเสธพร้อมกับยกกาแฟขึ้นมาดื่ม รสชาติกลมกล่อมของกาแฟทำให้ปฐพีรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นจนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมคนชงในใจ “ไม่ค่ะ นาไม่นอนหรอก นาจะเข้านอนพร้อมคุณดินค่ะ” หญิงสาวบอกก่อนจะหยิบงานของชายหนุ่มมาอ่านอย่างถือวิสาสะ “อันนี้รีบไหมคะ อันไหนไม่รีบเนี่ยก็เอาไว้ก่อนดีกว่านะ คุณดินควรมีเวลาพักบ้าง” “ฉันต้องรีบเคลียร์ก่อนไปลาสเวกัส” “ยังอีกตั้งหลายวัน ทำวันละนิดก็ได้ หรือไม่ก็เอารวดเดียวให้จบเลยวันต่อ ๆ ไปจะได้พักเต็มที่” หญิงสาวบอกก่อนจะเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ “มา เดี๋ยวนาช่วย” “แน่ใจว่าช่วยได้?” “อย่ามาดูถูกนะ เห็นมีพรสวรรค์เป็นบาริสต้าแบบนี้ก็เถอะอย่าลืมสิ นาก็จบบริหารมาเชียวนะ” “ถ้าอย่างนั้นช่วยจัดโต๊ะให้หน่อยแล้วกัน แฟ้มไหนเซ็นต์แล้วเอาไปตรงนั้น” ชายหนุ่มบอกก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารที่ต้องตรวจและเซ็นต์อนุมัติ เนตรนลินทำตามที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่เกี่ยงงอนก่อนจะกลับมานั่งให้กำลังใจข้าง ๆ โดยไม่รบกวน เกือบ4ทุ่มปฐพีจึงเงยหน้าจากงานและปิดเอกสารเล่มสุดท้ายก่อนจะหันมามองคนข้าง ๆ ที่หลับไปกว่าชั่วโมงยังไม่พอ ยังอาศัยไหล่เขาเป็นหมอนเสียด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่จำความได้เขาไม่เคยมีใครมานั่งให้กำลังใจข้าง ๆ แบบนี้มาก่อนเนตรนลินเป็นคนแรกที่ทำแบบนี้และเขาก็รู้สึกดีมาก ๆ ที่มีเธออยู่ตรงนี้ “นา นา” “หือ” เธอครางตอบเบา ๆ แต่ไม่มีทีท่าจะตื่นปฐพีจึงต้องอุ้มร่างบางไปวางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน “หลับเป็นเด็กเชียวนะ” ชายหนุ่มพึมพำแต่ไม่ทันได้ลุกไปทำอย่างอื่นดวงตาหวานก็ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย “งานเสร็จแล้วเหรอคะ?” เธอถามมาอย่างงัวเงียและยกมือขึ้นขยี้ตา “เสร็จแล้วล่ะ นอนต่อเถอะ” เขาตอบพร้อมกับหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้แต่คนที่เมื่อครู่ตาปรือตอนนี้กลับมองเขาตาแป้ว “ไม่นอนฉันจะไม่ให้เธอนอนนะ มาทำตาแป้วใส่แบบนี้น่ะ” “ไม่ให้นอนได้ด้วยเหรอ?” หญิงสาวถามอย่างไม่เข้าใจแต่ก็เพียงไม่นานก็เข้าใจในบัดดลเมื่อชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ได้สิ” พูดจบปฐพีก็ยื่นริมฝีปากมาประกบกลีบปากบางอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่อ่อนโยนพาให้เนตรนลินอ่อนลง ในตอนนี้เธอได้สัมผัสกับจุมพิตแรกในชีวิต สมองของหญิงสาวขาวโพลนและว่างเปล่าแต่ก็ซาบซ่านและรู้สึกซู่ซ่า หัวใจก็เต้นระรัว อย่างประหลาด “เธอพร้อมจะมีลูกหรือยัง?” ชายหนุ่มถามหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง “ลูก? คุณดินอยากมีลูกเหรอ?” “อายุฉันสมควรจะมีหรือยังล่ะ?” เขาถามกลับ เนตรนลินเงียบไปด้วยวัยวุฒิของปฐพีแล้วเหมาะสมที่จะมีลูกมีครอบครัวตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ “เรื่องฉันอยากมีหรือไม่ไม่สำคัญหรอกนะ สำคัญที่เธอพร้อมหรือยังมากกว่า ถ้าไม่พร้อมฉันก็พร้อมที่จะหยุด” ปฐพีเอ่ยพร้อมกับจ้องมองริมฝีปากที่เขาผละออกอย่างเสียดาย เขาอยากจะสร้างครอบครัวมีลูกน่ารัก ๆ ไว้สืบสกุลแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเอาแต่ใจตัวเองจนไม่สนใจคนที่เขาเลือกมาเป็นแม่ของลูก เนตรนลินจะพร้อมที่จะตั้งท้องหรือไม่และพร้อมจะเป็นแม่คนหรือยังไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องตัดสิน แต่เป็นเธอที่เป็นคนตัดสินใจ “ทะเบียนสมรสก็จดแล้ว...คุณดินก็เป็นสามีนา นาแล้วแต่คุณดินค่ะ” หญิงสาวเอ่ยทั้งที่ในใจนั้นกล้า ๆ กลัว ๆ ชีวิตเธอจากนี้ไปเธอตัดสินใจแล้วว่าจะแล้วแต่เขา...แต่ถ้าเขาอยากมีลูกจริง ๆ ก็ต้องทำอย่างว่ากัน หญิงสาวรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก ครั้งแรกของเธอนั้นเนตรนลินจดจำอะไรไม่ได้เลยแต่รู้อย่างหนึ่งก็คือเจ็บ แล้วครั้งต่อ ๆ ไปล่ะ? มันจะไม่เจ็บเหมือนครั้งแรกหรือไง “กลัวใช่ไหม?” อยู่ ๆ ปฐพีก็ถามราวกับอ่านใจหญิงสาวออกก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบแก้มเนียนนุ่ม “อย่ากลัว มันไม่ได้น่ากลัวแบบนั้นหรอก” “แน่เหรอคะ?” “เรื่องแบบนี้พูดเฉย ๆ ไม่ได้หรอก มันต้องพิสูจน์” เขาเอ่ยแค่นั้นก็ยื่นริมฝีปากเข้ามาจูบเธออีกรอบในขณะที่มือนั้นไล้เลื้อยไปตามร่างกายอย่างแผ่วเบาก่อนจะเริ่มลงมือพิสูจน์ให้เนตรนลินได้รู้ด้วยความนุ่มนวล ปฐพีค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเพราะไม่อยากให้คนอ่อนประสบการณ์เกิดความกลัวและมอมเมาคนไม่ประสีประสาด้วยลีลาที่นุ่มนวลและเร้าร้อนอยู่ในทีให้หลุ่มหลงจนไม่อาจถอนตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม