ตอนรักหรือลวง
กระทั่งถึงเช้าวันหยุดที่ต้องลงมาทำอะไรต่อมิอะไรในบ้านก่อนจะออกไปช่วยลุงกับป้า แม้ใจไม่อยากไปเมื่อต้องนั่งร่วมรถกับคนสวนหนุ่ม แต่ก็คงจะทำอย่างที่คิดไม่ได้แน่
และเพียงก้าวแรกที่เดินลงมาชั้นล่างแล้วมีเขาเดินเข้ามาทางหลังครัวเท่านั้น วิวรรญาก็เดินหนีแล้ว แต่ลินก็วิ่งตามอย่างรวดเร็วจนคว้าเอวคอดเอาไว้ได้ทัน
เคราะห์ดีที่บ้านอยู่ในสวนลึก เคราะห์ดีที่ประตูหน้าบ้านไม่ได้เปิดไว้ วิวรรญาจึงโล่งใจเรื่องจะมีใครมาเห็นเข้า
“นายลินปล่อยฉันนะ”
อีกครั้งที่น้ำเสียงสั่งออกมาเหมือนจะร้องไห้มากกว่าจะใช้อำนาจ
“ไม่ปล่อยจนกว่าคุณแจมจะให้ผมอธิบายก่อน”
เขาส่งเสียงแข็งไปหาและไม่มีทีท่าว่าจะทำตาม
“ไม่! ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น ปล่อยฉันนะนายลิน”
มิหนำซ้ำยังรัดแขนแน่นจนอีกคนขยับแทบไม่ได้ และเมื่อเขาไม่ยอมมือบางจึงพยายามดึงแขนเขาออกพร้อมกับดิ้นรนเอาตัวรอด ปากก็ส่งน้ำเสียงอ้อนวอนไปด้วย
“นายลิน ปล่อยฉัน...”
แต่เสียงนั้นก็ถูกกลืนหายไปด้วยริมฝีปากอุ่นอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนลินจะมั่นคงไม่หวาดหวั่นหรือหวาดระแวงเหมือนครั้งก่อนๆ แล้ว ด้วยอยากจะเข้าข้างตัวเองเหลือล้นว่าดอกฟ้าที่เขากำลังโน้มดึงลงมาหาตัวเองนั้น
ก็มีใจปฏิพัทธ์ต่อเขาอยู่ไม่มากก็น้อย และยิ่งมั่นใจมากขึ้นเมื่อกายสาวอ่อนระโหยโรยแรงจากอานุภาพจุมพิตของเขา จนเข่าอ่อนแทบจะทรุดลงพื้น
เขาจึงเพิ่มแรงวงแขนให้รัดเอวคอดขึ้นอีก ก่อนจะละจากริมฝีปากนุ่ม เพื่อให้ได้จ้องมองดวงหน้าขาวนวลเนียนที่กำลังหลับตาปี๋หนีอายอยู่ จึงย่อกายลงเล็กน้อยแล้วช้อนเอาร่างเบาหวิว
พาเดินไปหาชุดรับแขกตัวยาวแล้ววางลงอย่างแผ่วเบา กระนั้นคนในอ้อมแขนก็ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาและมองมาหาเขา แก้มนุ่มจึงถูกหอมลงไปอย่างตั้งใจ
แล้วเบียดกายแข็งแรงเข้ากับกายอ่อนแรงจนแผ่นหลังนุ่มติดพนักพิง ดวงตาคู่สวยถึงได้ลืมขึ้นมาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหลือเกินในความคิด
ลินใช้หลังมือเกลี่ยไปมาตามผิวแก้มนุ่มควบคู่กับก้มลงไปหอมหลายต่อหลายครั้งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยคำที่สิงอยู่ในใจมานานนม
“ผมรักคุณ”
วิวรรญาไม่อยากเชื่อหูว่าจะได้ยินคำนี้เปล่งออกมาจากปากเขา ความสงสัยใคร่อยากรู้ เรียกร้องให้จ้องมองเขาอย่างค้นหา ว่ามันมีความจริงหรืออะไรแอบแฝงอยู่กันแน่
“ผมรู้! ว่าคนต่ำต้อยอย่างผม ไร้อนาคต ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี ไร้สมบัติพัสถานอย่างผม ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอ่ยคำนี้ออกมาให้คุณได้ยิน แต่ผมก็ห้ามหัวใจไม่ให้รักคุณไม่ได้ ถึงผมจะพยายามทำแล้วก็ตาม แต่ผมก็ทำไม่เคยได้ ใจผมมันจะขาดลงให้ได้ เพียงแค่คิดว่าจะไม่มีสิทธิ์แม้เพียงแค่จะรักคุณ”
“นายลิน!!!”
และเมื่อกระจ่างใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด เหมือนที่หวาดกลัวตั้งแต่แรก ก็ถูกความสงสารแล่นเข้ามากระทบใจอย่างหนัก แค่เพียงได้เห็นใบหน้าหงอยเหงาเศร้าสร้อยของเขา
“ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าคุณจะรู้สึกยังไงกับผม และไม่เคยหวังว่าดอกฟ้าอย่างคุณแจมจะโน้มลงมาหาหมาวัดอย่างไอ้ลินคนนี้ ไอ้ลินที่กำพร้าแม่ มีพ่อก็เอาเวลาและความสนใจไปให้เมียใหม่กับเรื่องทำมาหาเลี้ยงปากท้องหมด จนไม่เคยจะคิดถึงความรู้สึกของลูกอย่างว่าจะเป็นยังไง จะพูดไปชีวิตผมก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียว ถ้าพ่อไม่ยอมหยิบยื่นอะไรให้ ผมก็เป็นเพียงผู้ชายที่ไม่มีอะไรติดตัวเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ผมถึงไม่กล้าแม้แต่จะคิดรักใคร หรือดึงใครเข้ามาในชีวิต แต่พรหมลิขิตก็ทำให้ผมมาพบคุณและรักคุณ ผมรู้ว่าผมเหมือนคนเนรคุณต่อคุณลุงคุณป้า ที่ท่านอุตส่าห์ไว้เนื้อเชื่อใจให้ดูแลหลานสาวของท่านที่กำลังจะแต่งงานกับผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างคุณปาลิน แต่ผมก็เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่ง ที่เผลอใจรักคุณเข้าไปแล้ว และพร้อมจะรับกับความเจ็บปวดถ้าความรักของผมเดินทางไปได้แค่ได้รักคุณเพียงฝ่ายเดียว แต่ผมก็จะไม่เสียใจที่ได้รักคุณ ได้มาใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆ คุณ และได้รู้ว่าคุณไม่ได้รังเกียจคนไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างผม แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว”
“นายลิน! หยุดพูดนะ ฉันไม่เคยจะรังเกียจนายเลย ฉันไม่ได้วัดคุณค่าของคนเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น แต่นายก็รู้ว่าฉันไม่อยู่ในฐานะที่จะมองใครได้อีกแล้ว”
เพราะทนฟังถ้อยคำอันน่าสงสารของเขาไม่ได้เลยต้องห้ามปรามไว้
“ผมรู้ครับ และผมก็จะไม่ขออะไรจากคุณเลย นอกจากความสุขเพียงแค่ไม่กี่วันที่จะได้อยู่ใกล้ๆ คุณ ได้ดูแลคุณ ได้มอบสิ่งดีๆ เท่าที่ไอ้ลินผู้ต่ำต้อยคนนี้จะทำได้ ผมขอแค่นี้ครับ วันที่คุณแจมจะต้องไปหาเขา ผมก็จะยืนยิ้มส่งด้วยความยินดี ที่จะได้เห็นผู้หญิงที่ผมรัก กำลังจะไปมีชีวิตใหม่ ชีวิตที่มีความสุขและสดใสกว่าอยู่ใกล้ๆ ไอ้ลินคนนี้”
วิวรรญาถึงกับแนบแก้มไปกับอกกว้างของเขาเมื่อความสงสารเข้ามาเล่นงานอีกระลอก แต่มันก็ยังมีความอบอุ่นแผ่กระจายอยู่ทั่วร่าง เมื่อมีวงแขนแข็งแรงกอดรัดเอาไว้แนบแน่นและเนิ่นนาน สองหนุ่มสาวต่างนั่งฟังเสียงหัวใจของกันและกันกระตุกเต้นอยู่เงียบๆ นานนับชั่วโมง
“ใกล้ถึงเวลาที่ผมต้องไปช่วยคุณลุงคุณป้าแล้ว คุณแจมจะไปกับผมหรือเปล่าครับ”
เขาก้มลงไปมองเจ้าของดวงหน้าที่ยังคงแนบแก้มนุ่มอยู่กับอกอุ่น และเมื่อได้รับการพยักหน้าตอบเขาจึงค่อยๆ คลายวงแขนออก
“งั้นต้องทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไป คุณเอาผ้าไปซักเลยก็ได้ผมจะกวาดบ้านถูบ้านให้เอง”
เมื่อหน้าที่มีให้ต้องผละจากร่างนุ่ม เขาก็จำต้องฝืนใจอย่างยิ่ง วิวรรญาเองก็ต้องทำแบบเดียวกัน จึงรีบเดินขึ้นบ้าน แล้วกลับลงมาพร้อมตะกร้าเสื้อผ้าของทุกคน