EP 64

1106 คำ
ไม่ต่างจากอีกคนนัก ที่นั่งในรถนิ่งๆ มาแทบจะตลอดทาง หรือจะพูดให้ถูกวันทั้งวันก็แทบจะไม่ปริปากพูดกับใครถ้าไม่จำเป็น เพราะมีเรื่องบาดตา บาดใจให้เห็นเมื่อเช้า และไม่รู้จะเอ่ยปากบอกใครได้บ้าง โดยเฉพาะกับพ่อ ด้วยตอนนี้บริษัทยังต้องพึ่งเม็ดเงินจากครอบครัวเขาอยู่มาก กิจการกำลังขยายตามแผนงานที่ผู้บริหารวางไว้ พ่อก็พึงพอใจเป็นอย่างมากที่ลูกสาวคนนี้ทำงานแทนได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ‘พ่อดีใจนะที่แจมเรียนรู้งานได้เร็ว และขยันทำงานเพื่อกิจการของเรา ถ้าไม่ได้แจมพ่อคงจะแย่แน่ๆ’ วิวรรญาปลาบปลื้มใจมาก กับคำชื่นชมและรอยยิ้มอันไร้ความกังวลของพ่อที่มีให้เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ตอนลูกกับผู้ช่วยมือเอกเข้าไปรายงานความคืบหน้าให้ถึงบ้าน ‘เพราะแจมเหลือคุณพ่อคนเดียวแล้วค่ะ ต่อไปนี้แจมจะรักคุณพ่อให้มากๆ รักมากกว่าที่เคยรักแม่อีกค่ะ แจมรู้ว่าคุณพ่อจะไม่มีวันทิ้งแจม เหมือนที่แม่ทิ้งไปไงคะ’ วินาทีนั้นเองที่ลูกผู้อาภัพได้ประจักษ์ถึงความรักที่ผู้พ่อมีให้มาโดยตลอด แม้จะไม่ได้อยู่ด้วย แต่พ่อก็ส่งลูกไปอยู่กับลุงป้าผู้ใจดี รักลูกคนนี้ปานประหนึ่งลูกของเท่าเอง และพ่อก็ยังส่งเสียให้ร่ำเรียนจนจบ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว กับพ่อที่แต่งงานใหม่ มีลูกใหม่ และมีงานให้บริหาร ให้แก้ไขปัญหาสารพัดจนล้นมือ ‘เครื่องที่ติดตั้งใหม่ก็ทำเงินเพิ่มให้ได้มากเหมือนกัน พ่อว่าแจมให้ทางนั้นติดตั้งเพิ่มอีกก็ได้นะ ถ้ากำลังการผลิตไม่พอกับออร์เดอร์ลูกค้าน่ะ’ และทุกอย่างรุดหน้าไปได้ด้วยดี โดยมีกองทุนคอยหนุนหลังไว้ จะหยิบจับมาใช้จ่ายก็ไม่ขาดมือนัก ถ้าจะต้องเอ่ยบอกพ่อ และจะขอหย่าขาดจากเขา ทุกอย่างที่ตัวเองลงทุนทำมาก็คงจะสูญเปล่า “ขอบคุณค่ะคุณธีร” วิวรรญาส่งยิ้มให้ผู้ช่วยหนุ่มและยืนรอให้รถเลี้ยวออกจากหน้าบ้านก่อนค่อยเดินเข้าบ้านไป แต่ก็อดหันไปมองโรงจอดรถไม่ได้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ของเขายังอยู่ เลยรีบเดินขึ้นห้อง เพราะยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาตอนนี้นัก ในใจก็พยายามบอกกับตัวเองว่าให้อดทน และจะต้องไม่คิดถึงเรื่องหย่าในตอนนี้ จนกว่าภาระกิจที่รับปากกับพ่อไว้จะประสบผลสำเร็จ เพราะพ่อและลุงป้าคือคนสำคัญคนเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ ส่วนแม่นั้นวิวรรญาตระหนักแล้วว่า ลูกคนนี้ไม่มีค่า ไม่มีราคา หรือไม่มีความสำคัญใดๆ ต่อแม่อีกเลย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน รวมไปถึงอนาคตด้วย ‘ติ๊ดๆ ๆ ติ๊ดๆ ๆ ติ๊ดๆ ๆ’ วางกระเป๋าสะพายได้ มือถือก็ส่งเสียงร้องบอกว่ามีข้อความเข้ามา วิวรรญารีบกดดู เบอร์ไม่คุ้น แต่ก็กดเปิดดูอยู่ดีว่าใครส่งอะไรมาให้ ‘ไม่เห็นต้องทำอะไรเลยนี่ จะหย่าทำไมให้โง่ แกก็อยู่แบบนี้ อยู่ไปอย่างนี้ล่ะ รอดูทีท่าเมียแกก่อนสิว่าจะเอายังไง’ ‘เอางั้นเหรอครับป๊า’ “ใช่! แล้วนี่เมื่อไหร่จะกลับบ้านล่ะ ค่ำมืดแล้ว รถที่แกซื้อให้ทำไมเมียแกไม่ขับ จะต้องให้ไอ้ผู้ช่วยนั่นมารับส่งตลอดเลยหรือไง คนรู้คงได้ขายหน้าตาย ว่าสะใภ้ ‘พลชนะชัยชาญ’ ไปอี๋อ๋อกับคนระดับลูกจ้าง ทิ้งขว้างผัวที่เป็นทายาทเศรษฐีพันๆ ล้าน รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น” ‘พูดไม่ออกล่ะสิ...’ ร่างทั้งร่างชาด้านไปทั้งตัว เมื่อคลิปเสียงนี้ดังก้องอยู่ในหูไม่รู้หาย น้ำตาไหลพรั่งพรูมาไม่ขาดสาย กับน้ำเสียงอันเย้ยหยันของพ่อสามี สายน้ำจากฝักบัวช่วยราดรดกายที่ร้อนรุ่ม ใจที่ร้อนรนได้เป็นอย่างดี เมื่อวิวรรญาเดินไปยืนอยู่ใต้มัน ด้วยไม่รู้ว่าจะทำยังไง จะเอายังไง จะพูดยังไง กับใครได้รับรู้ ให้เข้าใจได้กับสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้ สามีที่พึงจะเป็นที่พึ่งพิงให้ กลับแปรเปลี่ยนไปอยู่ฝ่ายพ่อ กลับทิ้งขว้างเมียให้ต้องเผชิญกับปัญหา แม้การแต่งงานจะไม่ได้มาจากความรัก แต่อย่างน้อยๆ วิวรรญาก็วาดหวังว่าจะได้เห็น หรือได้ยินเขาลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีให้เมียบ้าง แต่เขากลับเงียบ กลับปล่อยให้พ่อเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเมียและครอบครัวเมียได้หน้าตาเฉยๆ แถมยังควงผู้หญิงที่เขาร่วมหลับนอนเมื่อคืนนี้ออกไปข้างนอกอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ เมื่อเมียคนนี้บังเอิญไปยืนอยู่หน้าต่างมองลงไปเห็นเขาเดินเคียงคู่ก็ชู้รักใหม่เข้าอย่างจัง แม้ไม่รู้ว่าทั้งสองจะไปไหนไปทำอะไร แต่ก็คงจะพากันไปสำเริงสำราญตามประสาของใหม่ๆ ของซิงๆ ที่เพิ่งจะถูกเปิดลิ้มลองได้ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นแน่ ‘อดทนไว้นะแจม เพื่อพ่อที่เธอมีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น พ่อไม่เหลือใครแล้วนอกจากเธอ’ ‘อดทนไว้ อย่าเสียใจ อย่าร้องไห้ และอย่าแคร์เขา’   แต่วิวรรญาไม่เคยล่วงรู้มาก่อนว่าความอดทนของคนเรานั้น มันเป็นอะไรที่ทรมานเหลือจะต้านทานได้ ห้วงเวลาแต่ละวันนั้นก้าวเดินไปอย่างเชื่องช้าเต็มที เมื่อมีความทุกข์ใจ จากชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีหยิบยื่นให้ด้วยความจงใจ ผ่านท่าทีหมางเมิน ท่าทีเฉยเมย ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับความผิดพลั้งของตัวเอง ไม่ดิ้นรนมาอธิบายหรือปรับความเข้าใจใดๆ หรือนั่นจะไม่ใช่ความพลั้ง หากแต่เป็นความจงใจของเขาต่างหาก จงใจที่จะให้เมียคนนี้ต้องเจ็บปวดทุกครั้ง เมื่อก้าวเข้าบ้านมาหลังเลิกงาน แล้วเห็นสามีควงอีกสาวออกไป และไม่เคยแม้แต่จะกลับมานอนห้อง หรือถ้ามาก็ดึกดื่นค่อนคืนเข้าไปแล้ว ความบาดหมางคลางแคลงใจไม่ได้รับการเยียวยา หากแต่มีบาดแผลที่ใหม่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน คืนแล้วคืนเล่า วันแล้ววันเล่า จากอาทิตย์หนึ่ง กลายเป็นสองสาม และสี่ที่ทั้งสองต่างหันหลังให้กันโดยสิ้นเชิง ประหนึ่งมิใช่คู่ผัวตัวเมียกันอีกต่อไปแล้ว 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม