ตอนที่ 5 คุณสองบาทเขาเป็นคนใจดีเพราะเขาจะสอนแฮมสเตอร์

1906 คำ
ผัดผักบุ้งไฟแดงหอมฉุยหอมทั้งกระเทียมทั้งพริกหน้าตาน่าอร่อยคล้ายร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ตอนที่คุณสองบาทตักอาหารใส่จานเขาก็บอกให้แฮมสเตอร์ไปเคลียร์โต๊ะกินข้าวซะ จะได้นั่งกินดีๆ แฮมสเตอร์ก็ไปทำ "หุงข้าวแล้วใช่ไหม?" "หุงแล้วครับ" คนตัวโตเปิดหม้อหุงข้าวดู ข้าวในหม้อร้อนเพราะพึ่งสุก เม็ดข้าวอืด มีน้ำแฉะๆ จนจะกลายเป็นข้าวต้ม "ใส่น้ำเยอะไปหน่อยแต่กินได้" เขาเอาจานมาตักข้าวให้ เสิร์ฟให้ถึงโต๊ะขณะที่แฮมสเตอร์ทำตาปริบๆ "คุณทำอาหารเก่งนะครับ" "เธอยังไม่ได้ชิม กินซะ" แฮมสเตอร์ยกช้อนขึ้นมามองคนทำอย่างลังเลใจก่อนตักข้าวเข้าปาก ถึงไม่มีน้ำตาลแต่รสชาติกลับหวานติดปลายลิ้น ผัดผักบุ้งนิ่มแบบที่เขาขอให้คุณสองบาททำให้ พอบอกว่าไม่ชอบกินก้านคุณเขาก็เอามันไปสับเป็นเส้นๆ ทำให้กินง่ายขึ้นทั้งที่ส่วนนั้นตั้งใจว่าจะทิ้งแล้ว "อื้อฮือ! อร่อยมากเลยครับ!" กินได้หนึ่งคำแฮมสเตอร์ก็เกิดอาการแก้มตุ่ยสวาปาม มันอร่อยจริงๆ มีกลิ่นกระเทียมกับความเผ็ดเล็กๆ รสชาติเหมือนได้ไปกินที่ร้านอาหารภัตตาคารราคาแพงเลย! "อันนี้มื้ออะไร? " "ง่ำ! ผมกินเป็นมื้อเช้าครับ" "บ่ายสอง?" "อ้อ ใช่ครับตอนนี้บ่ายสอง" คุณเขาถามถึงเวลาทำไม? "วันนี้เธอจะกินกี่มื้อ? " "กินเท่านี้ผมก็อิ่มได้ถึงพรุ่งนี้แล้วครับ" กลายเป็นว่าคนฟังคิ้วขมวดงุ่นง่าน ไม่เชื่อ "กินมื้อเดียวจะไปอิ่มได้ยังไงถึงอดทนได้ถึงตอนเย็นตอนกลางคืนก็หิวอยู่ดี หรือเธอทำแบบนี้ทุกวันปวดท้องหิวจนชินแล้ว" "ก็ไม่ได้ทุกวันครับ ผมพยายามหาโอกาสที่จะกินได้อยู่" "เธอดูตัวเล็กเกินไป ถ้ากินน้อยแบบนี้มันไม่ดีต่อสุขภาพ" "ผมเน้นนอนเยอะๆ เอาครับ" "..." เหอะ "คุณสองบาท ถึงผมจะทำอาหารไม่เก่งแต่ผมเล่นเกมเก่งมากนะครับ คุณน่าจะเข้าใจว่าคนเราความสามารถไม่เท่ากัน เรื่องทำอาหารผมจะพยายามให้ถึงที่สุด ดังนั้นอย่าดุผมเลยนะ" "ฉันไม่ได้ตั้งใจจะดุแต่เธอได้ดูวิธีทำก่อนทำผักบุ้งไฟแดงหรือเปล่า?" "ผมดูครับแต่เขาพูดภาษาอังกฤษ" "แล้วจะไปดูคนฝรั่งทำกับข้าวทำไม? เธอก็ดูคนไทยสิ" "ฝรั่งหน้าอกอึ๋มครับผมเลยดู" ถามตามตรงก็พูดตามตรงจริงๆ "แต่ของเขาก็น่าทานอยู่นะครับ" ร่างสูงถึงกับไม่มีอะไรจะพูด นี่ฉันต้องเข้าใจเรื่องผู้หญิงอกอึ๋มหรือไง "เธอดูทำอาหารไม่เป็นแล้วทำไมในครัวถึงมีอุปกรณ์เยอะแยะ? " "ผมซื้อมาพร้อมเคาน์เตอร์ครัวครับมันจัดมาเป็นโปรโมชั่น หม้อหุงข้าวจับฉลากงานปีใหม่บริษัท จริงๆ ผมก็ตั้งใจไว้ประดับครับ เพราะปกติผมไม่ค่อยมีเวลาทำ" แฮมสเตอร์ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งชอบจับได้เครื่องครัวของเชฟมือโปรตลอด สงสัยดวงทำกับข้าวของเค้ามันดี! "อ้อ..." คุณสองบาทส่งเสียงในคออย่างเข้าใจ "แล้วทำไมเธอถึงเรียกฉันว่าคุณสองบาท? " "แอ๊ก! แค้ก! ผมเรียกคุณว่าอย่างนั้นหรือครับ!?" แฮมสเตอร์สำลักผักบุ้งแทบจะออกปาก "ใช่เธอเรียก" ดูลาดเลาแล้วคุณเขาคงไม่ชอบให้เรียกแบบนี้ "คือว่าตอนที่คุณให้เหรียญสองบาทตอนนั้นผมเลยจำมา ก็ไม่ได้ตั้งใจเรียกคุณแบบนั้นนะครับ ผมแค่เผลอไป" "ก็เรียกชื่อฉันสิ" "เอ่อ...อ้อ...อื้อ..." แฮมสเตอร์พยายามคิดว่าคุณเขาชื่ออะไร เคยบอกหรือยังนะ "อินทนิล ชื่อของฉัน" "พี่อิน" คนแก่กว่าคิ้วกระตุก "อย่าเรียกฉันแบบนั้น" "คุณอินทนิล" โห่ ชื่อยากขนาดนี้เค้าต้องลืมชื่อคุณแน่ “ขอเรียกคุณอินได้ไหมครับ” "ก็ได้" "คุณอินอายุเท่าไหร่หรือครับบอกผมได้ไหม? " ครั้งที่แล้วเขาเป็นคนถามแฮมสเตอร์เลยถามบ้าง "ฉันอายุ 35" เคร้ง! "สะ สามสิบห้าคุณอายุมากกว่าผมเป็นสิบปีเลยหรือครับ" ว่าแล้วทำไมเขาถึงดูเป็นผู้ใหญ่ที่แท้เป็นผู้ใหญ่แล้วนี่เอง จะแก่แล้วด้วย ประโยคหลังแฮมสเตอร์ไม่ได้พูด แต่คุณอินไม่ได้ดูแก่นะ "เว่อร์ไป เธอไม่ใช่รุ่นลูกฉันสักหน่อย" "ผมเป็นเหลนไม่ก็หลานคุณได้เลยนะครับ" "หึ ถ้าเธอดูไม่เหมือนเหลนฉันคงไม่สอนหรอก" แฮมสเตอร์หุบปากฉับรู้ตัวว่าทำคุณสองบาทตาเขียวปั้ดเข้าให้แล้ว ถ้าเค้าไม่ดูเด็กคุณอินก็จะไม่สอนนั่นแหละ แฮมสเตอร์ชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง "แล้วชื่อของคุณอินแปลว่าอะไรหรือครับ?" "ก็แค่ดอกไม้สีม่วง" คนดวงตาสีองุ่นสบตาปิ๊งๆ เค้าชอบสีม่วงนะ "ไว้ผมจะลองหาข้อมูลดูนะครับ ผมไม่เคยเห็นดอกอินทนิล" "มันก็แค่ชื่อฉันเธอไม่ต้องสนใจอะไรก็ได้" "ผมแค่สงสัยเฉยๆ ครับ แต่ผมขอเรียกคุณว่าพี่อินไม่ได้จริงๆ หรือครับ" แฮมสเตอร์เผลอทำหน้าอ้อนเพราะอยากสนิทด้วย "ก็บอกว่าไม่ให้ไง ฉันไปสนิทกับเธอขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?" "แค้ก!" แฮมสเตอร์สำลักข้าวอีกครั้งคราวนี้แทบจะสูดเข้าไปในจมูก "ถ้าไม่สะดวกใจก็บอกกันดีๆ ก็ได้นี่ครับ ผมก็แค่ขอไปเรื่อยเหมือนกัน จะอนุญาตให้เรียกว่าอะไรมันก็แล้วแต่คุณอยู่แล้ว" "ฉันก็แค่พูดเหมือนกัน" คุณสองบาทยอกย้อนเก่ง! ระหว่างที่จ้วงข้าวเข้าปาก ตอนที่ยกมือขึ้นสายตาคมพลันสังเกตเห็นรอยบาดที่มือของแฮมสเตอร์ "มีดบาดแล้วทำไมไม่ทำแผล?" "อ๊ะ...เอ่อ ผมลืมครับ ผมตั้งใจว่าจะทำหลังกินข้าวเสร็จ" "พวกอุปกรณ์ล้างแผลอยู่ไหน?" แฮมสเตอร์ต้องใช้เวลานึกก่อน "ผมไม่มีครับ" "งั้นรอฉัน" ร่างสูงหายออกจากห้องแล้วกลับมาพร้อมกับกล่อง ปฐมพยาบาลทำเอาคนเจ็บตัวแค่มีดบาดทำหน้างงๆ "คือ..." "ถ้ากินเสร็จแล้วก็ส่งมือมาให้ฉัน" ปากบอกไม่สนิทแต่ทำไมดูแลเก่งขนาดนี้ แฮมสเตอร์เม้มปากไม่พูดกลัวว่าคุณเขาจะว่าอีกแต่ก็ยื่นมือไปให้ แต่เขาใจดีนะ "คุณอินทำงานอะไรหรือครับ" "ฉันอยู่ห้องแล้วเธอล่ะ?" อินทนิลไม่ว่าที่คนตัวเล็กจะถามเรื่องส่วนตัว แฮมสเตอร์ต้องทำความเข้าใจอีกว่าอยู่ห้องหมายความว่าอะไร "ผมจบวิศวะมาครับ ตอนนี้เป็นวิศวะ" และตอนนี้เค้าก็ไม่มีงานทำแล้ว เค้าจะไม่พูด! "อยู่ห้องคืออะไรหรือครับ? " "ฉันทำงานอยู่ที่ห้อง" "งานอะไรบอกได้ไหม?" "นักเขียน" อ้อ... "เขียนเรื่องอะไรหรือครับ?" เค้าก็อยากรู้อยากเห็น "อย่าถามมาก" บางทีที่คุณอินทำอาหารเก่งเพราะเป็นเจ้าของหนังสือเกี่ยวกับอาหารหรือเปล่าแฮมสเตอร์คิดไปมั่วซั่ว "แล้วเธอไม่ไปทำงานหรือไง? " ฮึก! คำถามนี้แทงใจทำให้สะอึก "ผมกำลังหางานใหม่อยู่ครับ" แฮมสเตอร์พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเล่าว่าตัวเองถังแตก ดีที่คุณอินก็ไม่ได้ดูไม่สนมากนักแต่ถามเรื่องที่สงสัยแทน "แล้วนั่นกล้องอะไร? ฉันเห็นเธอตั้งไว้ตั้งนานแล้ว" "ผมอยากเป็นสตรีมเมอร์รายการอาหารครับเลยพยายามฝึกทำอยู่" "ทำให้ใครดู?" คุณสองบาทถามคำถามแทงใจดำทุกคำเลย "ใครก็ได้เห็นผมครับ คุณอินจะมาดูก็ได้นะ…" "เธอบอกว่าชอบเล่นเกมแล้วทำไมไม่สตรีมเกม?" "ผมอยากลองทำอะไรที่แปลกใหม่ครับ ผมพูดไม่เก่งตอนที่เล่นเกมด้วย" จะให้บอกได้ยังไงว่ากลัวค่าไฟพุ่ง! แฮมน้อยถนัดเล่นคนเดียวอย่างเมามันมากกว่า โอ้ มีบางอย่างฉุดใจแฮมสเตอร์ สกอตช์เทปพันแผลรูปชีสของคุณอินน่ารักจังเลย โรงงานไหนเป็นคนผลิตเนี่ย "เธอบอกว่ากำลังหางานใหม่แปลว่ายังไม่ได้? " "ครับ ช่วงนี้ผมเลยว่างๆ" "เลยจะฝึกทำอาหาร?" แฮมสเตอร์พยักหน้า "แต่ในตู้เย็นเธอไม่มีของเหลืออยู่เลยสักชิ้นเดียวแล้วนะ? " "!! " คุณอินถามจนเค้าจุกอีกแล้ว "ผะ ผมก็กะว่าจะไปซื้อ เอ่อ...อาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ครับ" เค้าขอล่ะอย่าถามเยอะเลย! "ก็ดีนี่" "ครับ " อ่าว แค่นั้นหรือ? "ฉันจะกลับห้องแล้ว" "งั้นผมเดินไปส่งครับ" ห้องอยู่แค่นี้แต่แฮมสเตอร์ก็จะไป ส่งถึงหน้าห้องพอรู้อายุก็เลยยกมือไหว้เขาซะเลย "ขอบคุณมากเลยนะครับ ผมพยายามที่จะไม่รบกวนคุณอีก จะทำเสียงให้เบาลงครับ" "วันอื่นถ้าเธอจะทำกับข้าวเรียกฉันก็ได้ยังไงฉันก็อยู่ห้องอยู่แล้ว" ที่คุณอินพูดความหมายมันย้อนแยกกับที่แฮมสเตอร์พูด คือเขาตั้งใจจะช่วย "ผมต้องสตรีมด้วยแบบนั้นมันอาจจะไม่ค่อยสะดวกนะครับ คะ คะ คือมันจะทำให้คุณอินไม่สะดวก" "ก็ไม่เป็นไร ฉันยังไงก็ได้ถ้าเธออยากจะถ่าย" "..." "ฉันไม่อยากได้ยินเสียงใครร้องตอนที่ฉันเขียนงานอยู่ ถ้ามาหาเธอแล้วทำให้ฉันลำบากน้อยลงฉันก็จะสอน" จริงเหรอ? จะช่วยเค้าจริงๆ นะ "แต่เธอต้องมาเคาะประตู" อินทนิลชี้ไปที่ประตูด้านข้างนั่นคือห้องตัวเอง แฮมสเตอร์สบตาคุณสองบาทอย่างคิดๆ เอาวะไอ้แฮมอย่างน้อยก็มีคนช่วย "งั้นผมจะขอไปหาคุณนะครับ" หมายถึงจะไปขอให้ช่วยสอนทำกับข้าวน่ะ แฮมสเตอร์กับคุณอินเป็นตกลงกันเรียบร้อยแล้ว "นี่รู้ไหมเธอต้องเรียนรู้อะไรอีกอย่างนะ" อินทนิลโน้มตัวเข้ามาใกล้เท้าแขนกับกรอบประตูห้อง แฮมสเตอร์ที่ยืนอยู่ข้างหน้ามองยังไงก็ตัวเล็ก "เธอไม่ควรให้คนแปลกหน้าเข้าห้องง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่ตัวโตๆ" ความหมายของเขาคือให้ระมัดระวังใช่ไหม? แฮมสเตอร์ถ้ามีหูหนูหูคงกระดิกดิ๊กๆ แตกตื่น "ทะ ทำไมล่ะครับ? คุณอินทนิลก็ตัวโตนะ" "แล้วเธอคิดว่ายังไง?" "ผะ ผะ ผมไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดนั้นหรอกนะครับ อีกอย่างผมก็คิดว่าคุณอินก็พอเป็นคนดีอยู่บ้าง" "ทำไมแค่อยู่บ้าง? ฉันเป็นคนดีนะ" "คุณพึ่งบอกผมอยู่หยกๆ นี่ครับว่าอย่าเชื่อใจใคร ความจริงแล้วผมแข็งแกร่งมากเลยครับ ถึงมีขโมยบุกเข้ามาผมก็จัดการได้" “ตัวนิ่มๆ แบบนี้เนี่ยนะเรียกว่าแข็งแกร่ง” คนตัวเล็กเตรียมปิดประตูหนีเมื่อกี้คุณอินตั้งใจคุกคามเค้า! แฮมสเตอร์ไม่ชอบให้โดนกัก "ผมโตแล้วจริงๆ นะครับ พรุ่งนี้ประตูห้องคุณผมจะไปเคาะนะ" ปัง...!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม