ตอนที่ 3 คุณสองบาทกับมาม่าที่ไหม้ก้นหม้อ สองห่อหรือสองใจ

1297 คำ
"นี่เธอบ้าไปแล้วหรือไงถึงทิ้งครัวไว้แบบนี้!" ถ้าให้มองคือสภาพค่อนข้าง...เละเทะ เห็นสายตาดุแฮมสเตอร์ตกใจหนักยิ่งกว่าเดิมเหมือนหนูน้อยตัวเล็กที่แสดงท่าทางหวาดกลัวเพราะคุณสองบาทน่ากลัวจริงๆ "คะ คือ เค้า เอ๊ย! ผมแค่อยากทำกับข้าวครับแล้วคุณก็มาเรียกกันก่อน" "แล้วทำไมไม่ปิดเตาแก๊สก่อนเธอจะปล่อยให้มันล้นหม้อทำไม? ที่ฉันเห็นมันเหมือนล้นมานานแล้ว" เขาเห็นว่าคราบไข่คราบเศษอาหารมันหกอยู่รอบๆ "ผะ ผม" ก็เค้าไม่ได้ตั้งใจ "รู้ไหมว่าถ้าเธอทำไฟไหม้คอนโด ทำเสียงดังแบบนี้มันเดือดร้อนคนอื่น นี่เธอทำกับข้าวเป็นจริงๆ หรือเปล่า? ถ้าทำกับข้าวไม่เป็นก็อย่าทำ" แฮมสเตอร์ไม่ถึงกับร้องไห้แต่นิ่งค้างดวงตาใสวาวละลื่นมือกุมกันอยู่ที่หน้าอกกำแน่น "...ขอโทษครับ" เห็นท่าทางแบบนั้นคนพูดแรงไปก็รู้ตัวสังเกตมือน้อยๆ ที่มีรอยแดง เสื้อผ้าครึ่งหนึ่งเปียกซก ต้นหอมหั่นแว่นที่ติดอยู่ที่แก้มกับท่าทางสำนึกผิด เขาถอนหายใจ "เฮ้อ ขอโทษ ฉันพูดกับเธอแรงไป" แฮมสเตอร์ก็ตอบกลับทันควัน "ไม่เป็นไรเลยครับ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณที่คุณมาช่วย" คุณสองบาทพูดปัดๆ ด้วยถ้อยคำที่ทำให้แฮมสเตอร์ใจหาย "ช่างเถอะ ฉันจะกลับแล้ว" "คะ ครับ..." เมื่อคนตัวโตเดินสวนไปก่อนแฮมสเตอร์ก็รีบร้อนหยิบทัพพีไปคนอาหารในหม้อ ขณะที่ร่างสูงก็ดูอยู่ว่าทำอะไร "ไม่ทิ้ง?" "ทิ้งได้ยังไงครับไข่มันแค่ไหม้ก้นหม้อเอง" กับเส้นแค่นิดหน่อยเองมันน่าเสียดายของ ถ้าซดน้ำแล้วมันคงจะรสชาติขมปี๋ของกลิ่นไหม้สักหน่อย "ผมแค่ตักมันออก อ๊ะ!" แกร๊ง! ทัพพีจากมือแฮมสเตอร์หล่นลงไปในหม้อ "เป็นอะไร!" คุณสองบาททำท่าจะเข้ามาดูแต่คนตัวเล็กห้ามไว้ก่อน "ไม่เป็นไรครับ! ไม่เป็นไร มือผมแค่โดนมีดบาดนิดเดียว มันก็แค่แสบแต่ว่า--" "เธอไปหาที่นั่งเลยไป" "มะ หมายถึงอะไรครับ?" แฮมสเตอร์ทำท่ากลัวๆ พอเห็นว่าเจ้าของห้องตื่นตูมเกินไปร่างสูงเลยปรับโทนเสียง "เธอเจ็บแผลอยู่ถ้าโดนน้ำมันจะไม่ดี ไปนั่งซะเดี๋ยวฉันจัดการให้" "แต่ผมไม่อยากรบกวนคุณ" จ๊อกกกก "เสียงอะไร? เธอเปิดอะไรทิ้งอีกหรือเปล่า" "ไม่ครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดี! แต่…แค่…คือว่าผม---" จ๊อก "ผมแค่ยังไม่กินข้าวเช้าครับ" พูดตรงๆ คือตอนนี้หิว คุณสองบาทถึงกับนิ่ง "ตอนนี้จะสี่โมงแล้ว?" "ผมตั้งใจว่าจะกินข้าวเช้ากลางวันเย็นเป็นมื้อเดียวครับ เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจก็ได้ ผมแค่หิว…เอ่อ นั่นจะทำอะไรหรือครับ?" "เธอไปนั่ง" ร่างสูงดันแฮมสเตอร์ออกจับทัพพีมาคนมาม่าในหม้อแทน "จะดีหรือครับ?" ยังไงนี่ก็คือครัวของเค้านะ เค้าน่าจะต้องเป็นคนดูแลเอง "ดี" คุณสองบาทไม่สนใจ ทั้งที่เป็นห้องของตัวเองแต่ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ห้องของตัวเอง คิดได้ว่าลืมอะไรก็สะดุ้ง เค้าเปิดสตรีมค้างไว้นี่! แฮมสเตอร์รีบคว้าโทรศัพท์ปิดมันก่อนต่อจากนั้นก็หาที่นั่ง คอนโดของเขาก็ไม่ค่อยใหญ่โตอะไร เวลากินข้าวก็ชอบนั่งกินบนเตียง เมื่อไม่รู้จะย้ายตัวเองไปไว้ไหนก็เลยไปนั่งตรงนั้นค่อยมองว่าคนตัวโตคิดจะทำอะไร คุณสองบาทหยิบชามที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ออกมา ใช้ทัพพีคนของกินดูว่าหมูสุกหรือไหม ตักเส้นส่วนที่กินได้แยกไว้อันไหนไหม้ดำเกินไปก็ทิ้ง ถึงมาม่าจะไหม้แต่กลิ่นก็ยังหอมฉุย ตักใส่ชามเสร็จก็เงยหน้ามองว่า คนตัวเล็กหนีไปนั่งตรงไหน พอเห็นว่าไปนั่งรอบนเตียงซะอย่างนั้นร่างสูงก็เลิกคิ้ว เตียงสีดำกับผ้าห่มสีดำทำให้คนน่ารักตัวปุ๊กปิ๊กยิ่งขาวผ่อง "เอาไป" เขายื่นชามมาม่าให้ "ระวังร้อน" "ขอบคุณครับ" แฮมสเตอร์รับมันมาก้ำกึ่งกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็รับได้ ปกติแฮมสเตอร์ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกแต่เพราะเป็นเขาก็เลยกลัว…รู้สึกเหมือนกำลังจะโดนต่อว่า "เธอนั่งกินบนเตียง?" "ปกติผมนั่งตรงนี้ครับ" ห้องแฮมสเตอร์มีของเยอะ พวกโซฟาก็มีของวางเต็มไปหมด เฟอร์นิเจอร์ทั้งห้องเป็นสีดำล้วน เค้าชอบสีดำเพราะสีดำมันเท่ เค้าชอบอะไรเท่ๆ แฮมสเตอร์กำลังซู้ดมาม่าเข้าปากโดยที่ไม่สงสัยว่าทำไมคุณสองบาทถึงไม่ไปสักที ซู้ดด "ห้องรกนะ" ร่างสูงพูดขึ้นมาลอยๆ ตามสิ่งที่เห็น “เธอกินข้าวบนเตียงไม่กลัวมดขึ้นที่นอนหรือไง?” โดนด่าว่าห้องรกเข้าไปแฮมสเตอร์ถึงกับสำลัก "ผมทำความสะอาดทุกอาทิตย์อยู่ครับแต่อาทิตย์นี้ยังไม่ได้ทำ ห้องผมไม่มีมดครับ" "อืม" "ผมขอบคุณจริงๆ นะครับ นอกจากเข้ามาช่วยแล้วยังตักมาม่าใส่ถ้วยให้อีก แหะๆ เท่านี้ก็เกรงใจจะแย่แล้วครับ" แฮมสเตอร์ช้อนตามองคนยืนค้ำหัวด้วยสายตาแป๋วๆ ถามด้วยความอยากรู้ "คุณอยู่ห้องที่เท่าไหร่หรือครับ ผมไม่เคยเห็นคุณเลย" "1024" "อ้อ ห้องข้างๆ พึ่งย้ายมาอยู่หรือครับ?" แฮมสเตอร์จำได้ว่าห้องข้างๆ ตัวเองเจ้าของเคยปล่อยเช่าคอนโด "ฉันซื้อ" แฮมสเตอร์อุทาน ‘อ้อ ครับ’ จบก็หมดคำถามแล้วไม่มีอะไรจะ พูดอีกในห้องพลันเงียบกริบทันที ใจดวงน้อยของแฮมสเตอร์ตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะสายตาดุที่มองมา เมื่อไหร่คุณเขาจะกลับไปสักที คนตัวเล็กกำลังจะอ้าปากถามแต่คุณสองบาทถามขึ้นก่อน "ผู้ปกครองเธอไปไหน? " "ครับ? ผู้ปกครองคือใครครับ" คุณสองบาทเลิกคิ้ว "พ่อแม่เธอไง ทำไมถึงปล่อยเด็กอย่างเธออยู่บ้านทำครัวคนเดียว" ที่น่าช็อกคือทำไมเค้าต้องมีผู้ปกครองต่างหาก! แฮมสเตอร์พูดเสียงแห้ง "ความจริงผมอายุยี่สิบห้าแล้วครับ ผมอยู่ตัวคนเดียวมาตั้งนานแล้วครับ คะ คือผมดู'อ่อน'ขนาดนั้นเลยหรอ" อ่อนของแฮมสเตอร์หมายถึงในเชิงอ่อนแบบดูถูก ดูทำอะไรไม่เป็นไม่เกี่ยวกับอายุ อ่อนจนคิดว่าเป็นเด็ก "…ก็ไม่" คนตัวโตระมัดระวังคำพูดมากขึ้นกว่าจะเค้นเสียงได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร "ฉันนึกว่าเธอยังเป็นเด็ก ม.ปลาย" "ผมเรียนจบมหาลัยแล้วครับ" "แล้วเธอชื่ออะไร? " "ผมชื่อแฮมสเตอร์ครับ" เป็นอีกครั้งที่คนตัวสูงได้ยินแล้วนิ่ง แฮมสเตอร์? แฮมสเตอร์ขยายความให้ฟัง "หนูที่ร้องจี๊ดๆ ครับ ตัวใหญ่หน่อยขนมีหลายสี คุณรู้จักใช่ไหม นั่นคือชื่อผม" "ฉันรู้ สรุปว่าเธอโตแล้ว? " เสี้ยวหนึ่งเขายังคิดว่าคนตัวเล็กตรงหน้าโกหก "ผมโตแล้วครับ" "ก็ดี" เขาก็คิดหนักอยู่ว่าจะดูแลยังไงหรือว่าต้องปล่อยทิ้งไว้ โตแล้วจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะได้กลับห้องได้แล้ว ขณะที่ร่างสูงกำลังจะหมุนตัวแฮมสเตอร์ก็พูดขึ้นก่อน พูดในเรื่องที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่คุยก่อนหน้านี้ แค่ถามเรื่องที่สงสัยในมือก็กอดชามมาม่าไปด้วยความหวาดหวั่น "คุณสองบาทคงไม่คิดจะมาแย่งมาม่าเค้ากินใช่ไหมครับ? "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม