“คุณ...คุณลาซ...”
ชายหนุ่มอยู่ในชุดลำลองสีขาวสะอาดพอดีตัว ขับเน้นรูปร่างกำยำให้ดูปราดเปรียวเข้มแข็งและทรงพละกำลัง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเป็นสี่เหลี่ยม หน้าผากไม่กว้างและไม่แคบจนเกินไป มีปอยผมเล็กน้อยระลงมา จมูกโด่งเป็นสันงดงามอยู่เหนือริมฝีปากหยักสวยราวกับอิสตรี ดวงตาสีน้ำเงินเข้มรียาวราวกับนัยน์ตาของพญาเหยี่ยวอยู่ใต้ปื้นคิ้วดกหนา สันกรามกระด้างและปลายคางบึกบึนมีเส้นหนวดขึ้นหร็อมแหร็มน่ามอง เขาทำให้หัวใจของหล่อนเต้นแรงระส่ำ ก่อนที่มันจะแตกระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเมื่อเจ้าของความนิรมิตอันงามล้ำขยับก้าวเข้ามาหา
ด้วยท่าทางคุกคาม!
“ฉันถาม เข้ามาที่นี่ทำไม และเข้ามาได้ยังไง!”
“คือพาย...พายมี...”
หญิงสาวชูคีย์การ์ดในมือขึ้น ก่อนที่จะได้ยินเสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียมดังออกมาจากลำคอแกร่งของลาซาลอส
“สุพรรษาคงใช้ให้เธอมาสินะ”
“คือ...คือคุณสุ...ให้พายมาอธิบาย...”
“หุบปาก!”
เขาตวาดเสียงดังลั่น พร้อมกับก้าวเข้ามาขยุ้มต้นแขนของหล่อนแรงๆ
“ฉันไม่ต้องการฟังคำตอแหลจากเธอและพี่สาวเธออีก ไปให้พ้นหน้า พวกผู้หญิงแพศยา!”
“โอ๊ย!...พายเจ็บนะคะ ปล่อยพายเถอะค่ะ”
“แต่ก็คงไม่เจ็บเท่ากับฉัน ที่จับได้ว่าคนรักสวมเขาให้มาตลอดหลายปีหรอก จริงไหม”
ใบหน้าหล่อจัดโน้มต่ำลงมาหา ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเปลี่ยนเป็นสีของเปลวไฟ
“คือ...คุณลาซอาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะคะ คุณสุอาจจะ...”
“หุบปาก! อย่ามาแก้ตัวแทนผู้หญิงสารเลวคนนั้นอีก”
“แต่คุณสุ...คุณสุรักคุณลาซมากนะคะ”
“รักมาก...” คนตัวโตที่กำลังเมาได้ที่แค่นหัวเราะ “ถ้าสุพรรษารักฉันจริงๆ คงไม่มีอะไรกับผู้ชายคนอื่นจนฉันจับได้หรอก” ลาซาลอสปล่อยมือที่ขยุ้มหัวไหล่ของพาขวัญ และยกมือขึ้นเสยผมแรงๆ เพื่อเรียกสติ “กลับออกไปซะ และอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
“พาย...พายคงยังกลับไม่ได้...”
“ทำไม!” คนตัวโตตวัดตามองมาอย่างเกรี้ยวกราด “หรือว่ายังมีอะไรที่พวกเธอต้องการแล้วยังไม่ได้ไปจากฉันอีก”
“ไม่ใช่...ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณลาซ...พาย...ไม่เคยต้องการอะไรจากคุณลาซเลย นอกจาก...”
ลาซาลอสแค่นยิ้ม หรี่ตามองเขม็ง
“นอกจากตัวของฉันสินะ อ๋อฉันลืมไป ว่าเธอก็คลั่งไคล้ในตัวฉันเหมือนกัน”
“คุณลาซ!” พาขวัญตกใจหน้าซีดเผือด หล่อนไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าลาซาลอสจะพูดประโยคนี้ออกมา
“คุณลาซ...กำลังเมา พาย...พายจะคิดว่าพายไม่เคยได้ยินคำพูดนี้นะคะ”
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะ ขยับเข้ามาหา และคว้าร่างเล็กที่ยืนนิ่งราวกับถูกสาปเอาไว้แน่น
“สุพรรษามักจะบอกให้ฉันฟังเสมอ...เกี่ยวกับเรื่องของเธอ”
นี่...นี่สุพรรษาบอกความรู้สึกของหล่อนให้ลาซาลอสฟังจริงๆ หรือ แต่เห็นได้ชัดเลยว่าใช่...เพราะตอนนี้สายตาคมกริบเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในคำพูดของตนเอง
“เธอแอบชอบฉัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าฉันเป็นคนรักของสุพรรษา”
“คุณ...คุณลาซเมาเลยพูดไม่รู้เรื่อง...”
ดวงหน้างามซีดเผือดกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
“เดี๋ยวคุณลาซสร่างเมาแล้ว...แล้วเราค่อยคุยกันใหม่นะคะ”
“จะรีบไปไหนเสียล่ะ ไหนๆ ฉันก็เลิกกับสุพรรษาแล้ว เธอไม่คิดจะเข้ามาแทนที่หน่อยหรือ”
ลมหายใจของพาขวัญติดขัด กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งเข้าจมูกจนหล่อนแทบเมาตามไปด้วยอีกคน หล่อนพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา แต่ก็ไม่สำเร็จ
“คุณ...คุณลาซพูดแบบนี้ได้ยังไงกันคะ นี่ปล่อยพายนะ ปล่อยสิคะ!”
ดวงหน้างดงามที่แดงสลับซีดขาว ทั้งโกรธ ทั้งอับอายจนแทบแยกความรู้สึกของตัวเองไม่ถูก
“เลิกทำหน้าตาใสซื่อไร้เดียงสาได้แล้ว เธอมันก็แพศยาไม่ต่างจากพี่สาวของเธอหรอก!”
“พาย...พายไม่ได้เป็นแบบนั้นนะคะ ได้โปรดเข้าใจพายใหม่ด้วยเถอะค่ะ” คนตัวเล็กส่ายหน้าน้ำตาไหล
“ได้โปรดปล่อยพายเถอะค่ะ เพราะคุณสุจะต้องโกรธมาก ถ้ารู้ว่า...คุณลาซทำแบบนี้ ปล่อยพายเถอะนะคะ” หล่อนดิ้นรน หน้าตาตื่นตกใจ แต่ลาซาลอสไม่ปล่อย แถมยังก้มหน้าลงต่ำมาใกล้มากยิ่งขึ้น
“ฉันต้องแคร์ด้วยหรือ”
ลาซาลอสพูดออกมาอย่างไม่ไยดีอะไรเลย ตรงกันข้ามกับพาขวัญที่เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความตื่นตกใจ
“จะตีพายก็ได้ค่ะ แต่...แต่อย่ากอดพายแบบนี้เลยนะคะ”
แทนที่เขาจะเข้าใจ กลับยิ่งแค่นยิ้มหยามหยันมากขึ้น “เธอเข้ามาที่นี่ก็เพราะฉันไม่ใช่หรือ แล้วจะรีบกลับทำไมกันล่ะ”
“พายมาที่นี่ก็เพราะ...เพราะอยากจะช่วยให้คุณกับคุณสุคืนดีกันค่ะ”
เขาแค่นยิ้มหยัน แอลกอฮอล์ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาแดงจัด และแสนน่ากลัว “จุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง และจำเอาไว้นะ ฉันกับผู้หญิงแพศยาคนนั้น ไม่มีทางคืนดีกันอีกแล้ว!”
“แต่...แต่คุณลาซรักคุณสุมากไม่ใช่เหรอคะ”
“มันไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ลาซาลอสคำรามลั่น พร้อมกับผลักร่างของพาขวัญออกห่างจนหญิงสาวล้มไปกองกับพื้น “กลับไปซะ กลับไปเดี๋ยวนี้เลย”
“พายจะกลับเดี๋ยวนี้แหละค่ะ แต่...แต่คุณลาซรับปากก่อนได้ไหมคะ รับปากว่าจะคืนดีกับคุณสุ”
“ไปซะ!”