ตอนที่7 เช็กของ
สองวันต่อมา
“น้องปลายเป็นยังไงบ้างครับ สองวันมานี้เจ็บหน้าอกปล่อยมั้ยครับ”
คุณหมอที่ดูแลปลายเอ่ยถาม หลังจากที่ตรวจสุขภาพของเด็กสาวเสร็จแล้ว ขณะที่คนเป็นพี่สาวยืนมองอยู่ข้างเตียงเธอ
“ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ แต่หายใจลำบากค่ะหมอ”
“งั้นก็นอนพักผ่อนเยอะๆ นะครับ อาทิตย์หน้ามีคนบริจาคหัวใจมาให้น้องปลายแล้ว น้องปลายไม่ต้องห่วงนะ พอผ่าตัดเสร็จ น้องปลายก็จะหายเป็นปกติครับ”
คุณหมอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงดูอบอุ่น ทำให้ปลายรู้สึกเป็นกังวลน้อยลง
“แสดงว่า หนูจะมีโอกาสหายเป็นปริดทิ้งใช่มั้ยคะ”
เด็กสาวเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
“ใช่แล้วครับ เพราะฉะนั้น น้องปลายต้องดูแลตัวเองดีๆ ระหว่างรอการผ่าตัดนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
“งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”
คุณหมอและพยาบาลสาวที่ทำการตรวจร่างกายเธอเสร็จ ก็เดินออกไปจากห้องทันที
“พี่เมย์ ปลายจะหายแล้วนะ”
ปลายหันมาพูดกับคนเป็นพี่ด้วยรอยยิ้มที่สดใส แม้ว่าเธอจะเจอเรื่องร้ายมามากแค่ไหน สิ่งที่ปลายจะทำตลอดก็คือการที่ได้ยิ้มและหัวเราะ มันทำให้คนเป็นพี่อย่างเมษา รู้สึกดีที่ได้เห็นน้องสาวยิ้มได้
“อือ ปลายต้องหาย เพราะฉะนั้น ต้องนอนพักผ่อนเยอะๆ นะ รอวันที่จะได้ผ่าตัด”
“อือ”
เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจทันที ก่อนที่จะโน้มตัวลงนอนกับเตียงอีกครั้ง โดยที่มีเมษาคอยดูแลไม่ห่าง วันนี้เธอหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อมาดูแลปลาย เพราะไม่อยากให้น้องสาวอยู่คนเดียว
“พี่เมย์”
“หือ”
“พี่ไม่รักพี่บาสแล้วเหรอ”
“..ใช่” เมษาตอบหน้านิ่ง เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับบาสแล้ว และไม่คิดจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมด้วยซ้ำ
“ทำไม..”
“ปลาย พี่กับบาสเราเลิกกันแล้ว เอาเป็นว่าเราเลิกกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และพี่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นซะ..”
หญิงสาวไม่อยากให้ปลายต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับบาสอีก เพราะวันที่รวีแม่ของบาสมาหาเธอที่บ้านเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับบาส ปลายก็ไม่ได้รู้และไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และไม่รู้สาเหตุการเลิกราของเธอกับบาส
“แล้วทำไมพี่กับพี่บาสถึงเลิกกันล่ะ หนูไม่เข้าใจ ว่าอะไรที่ทำให้พี่กับเขาหมดรักกัน ทั้งที่พี่บาสก็ดูจะรักพี่มาก”
“ปลาย พี่ว่านอนพักก่อนเถอะ ไม่ต้องถามอะไรเรื่องนี้แล้ว เอาไว้เราพร้อมทุกอย่าง พี่จะเล่าให้ฟังเองนะ”
เมษาเอ่ยบอกเพียงแค่นั้น ก่อนที่เธอจะเดินหนีออกมาจากห้องของปลาย เพราะไม่อยากให้เธอถามอะไรเรื่องนั้นอีก และไม่อยากจะให้ปลายรู้สึกคิดมากเรื่องเธอกับบาสมากเกินไป มันอาจส่งผลต่อร่างกายของเธอได้
เมษาเดินออกมายืนหน้าห้องของน้องสาว ใบหน้าของเธอนั้นดูนิ่งเฉย ไม่ได้รู้สึกเหลือเยื่อใยอะไรให้กับบาสเลยสักนิด
ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวจะดังขึ้นมา เธอล้วงหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงยีนด้านหลังออกมากดรับสาย โดยที่ไม่ได้มองหน้าจอว่าใครโทรมา
“ฮัลโหล”
(เข้ามาหาฉันหน่อย)
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอยู่ในปลายสาย
ทำเอาเมษาถึงกับเบิกตาโต ก่อนที่เธอนั้นจะดึงมือถือออกมาจากหู เพื่อดูเบอร์โทรของคนนั้น และมันเป็นเบอร์ของแทนไท
เสียงที่เธอไม่อยากจะได้ยิน มันทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
“เอ่อ คุณแทนไท ทำไมคุณนัดฉันไปเร็วจังเลยล่ะคะ”
เธอยกมือถือขึ้นมาแนบใบหูอีกครั้ง หญิงสาวยิ้มแห้งคนเดียวเล็กน้อย พลางมองไปรอบๆ บริเวณแถวนั้น ก่อนที่จะเดินไปหาที่คุยเงียบๆ เพื่อไม่ให้ปลายได้ยินเสียง
(แล้วทำไมฉันจะนัดเธอไม่ได้ อีกแค่วันเดียว เธอก็ต้องมานอนกับฉันแล้ว)
“แต่ว่า..”
(...ไม่มีแต่ เธอต้องมาหาฉันที่กาสิโน)
“กาสิโน?” เมษาขมวดคิ้วสงสัย เพราะเธอยังไม่เคยไปกาสิโนของมาเฟียหนุ่ม นอกจากบริษัทของเขาเท่านั้น
(ใช่ เดี๋ยวฉันให้คนไปรับ เธออยู่ที่โรงบาลใช่มั้ย)
“เอ่อ..ใช่ค่ะ”
ทันทีที่เธอตอบไป คนปลายสายก็วางไปเสียก่อน ทำเอาหญิงสาวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะรีบเดินกลับไปที่ห้องของปลาย
หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องของปลาย ทว่าตอนนี้เด็กสาวกลับนอนหลับไปเสียแล้ว ด้วยเพราะยาที่หมอไปทาน
เธอจึงเลือกที่จะไม่ปลุกและไม่พูดอะไรต่อ นอกจากเดินเข้าไปลูบหัวน้องสาวเบาๆ แล้วเดินออกมาจากห้องอีกครั้ง
เมษาเดินออกมายืนอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล ไม่นานรถตู้คันสีดำทึบก็ขับเข้ามาจอดตรงหน้าเธอ ก่อนที่ลูกน้องมือขวาของแทนไทจะเปิดประตูข้างคนขับลงมารับเธอ ซึ่งก็คือเซนที่เคยมาส่งเธอที่โรงพยาบาล
“เชิญครับ”
เซนเอ่ยบอก พร้อมกับเลื่อนเปิดประตูด้านข้างให้กับหญิงสาว เมษามองด้านในรถตู้แล้วเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งด้านในรถ แม้ว่าภายในใจเธอไม่อยากจะไปก็ตาม
@กาสิโน
ภายในห้องทำงานส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม ปกคลุมไปด้วยความเงียบ กลิ่นบุหรี่และควันบุหรี่ขาวคละคลุ้งเล็กน้อย
แทนไทนั่งขาไขว้ห้างอยู่ที่โซฟาสำหรับมีไว้รับแขก แววตาคมกริบมองไปที่หน้าต่างกระจกบานใส ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองหลวงด้านนอกได้
ชายหนุ่มคีบบุหรี่ไว้ที่ปาก ก่อนที่เขานั้นจะยื่นมือไปรินไวน์ใส่แก้วของตัวเอง ที่วางไว้อยู่บนโต๊ะกระจกตรงหน้า
มาเฟียหนุ่มมีธุรกิจสีเทา โดยที่เขานั้นมีบริษัท TRI คอยบังหน้าเอาไว้ และแน่นอนว่าย่อมมีพวกที่คอยจะขัดขาเขาเพื่อผลประโยชน์ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ มักมีผู้ที่ไม่หวังดีเสมอ
ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขัดขึ้น
“ขออนุญาตครับนาย” เสียงของเซนเอ่ยบอก ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดเข้ามา มาเฟียหนุ่มหันไปมองที่บานประตู ร่างเล็กที่อยู่ในชุดไปรเวทธรรมดาค่อยๆ เดินเข้ามาในห้อง เธอใส่เพียงเสื้อยืดคอวีสีขาวและกางเกงยีนขาสั้นสีดำ สวมเพียงรองเท้าผ้าใบ
แต่เธอกลับทำให้มาเฟียหนุ่มมองอย่างไม่ละสายตา ความธรรมดาของเธอสะกดให้เขาจ้องเธอนิ่งๆ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้รองเท้าเหยียบ
“สวัสดีค่ะคุณแทนไท”
เมษาเอ่ยทักมาเฟียหนุ่มด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปหาเขาตรงๆ
“มานี่สิ”
แทนไทเอ่ยเรียก หญิงสาวยืนมองเขาอยู่ที่หน้าประตู ก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปหามาเฟียหนุ่มช้าๆ โดยที่ไม่กล้ามองหน้าเขา
“วันนี้คุณเรียกฉันมา มีอะไรรึเปล่าคะ”
“มานั่งนี่สิ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยบอกพร้อมกับตบที่หน้าขาของตัวเองเบาๆ เพื่อเป็นการเชื้อเชิญหญิงสาวให้ไปนั่งที่ตักของเขา
แทนไทเปลี่ยนท่านั่งจากที่นั่งขาไขว้ห้าง เป็นนั่งอ้าขาธรรมดาปกติ เมษายืนมองมาเฟียหนุ่มอย่างชังใจ ก่อนที่เธอนั้นจะเดินเข้าไปนั่งที่ตักของชายหนุ่มอย่างว่าง่าย
แทนไทกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ ก่อนที่เขาจะโอบเอวคอดเล็กของหญิงสาวเอาไว้แน่น พร้อมกับดึงตัวเธอเข้าหา สร้างความตกใจให้กับเธอไม่น้อย
ใบหน้าหวานเข้าไปใกล้กับใบหน้าคมคาย เรียกได้ว่าแทบจะชิดติดกัน เธอถึงกับต้องนั่งตัวเกร็งที่อยู่ใกล้เขาในระยะประชิดแบบนี้อีกครั้ง
“คุ คุณแทนคะ เอ่อ..”
ด้วยความที่เธอนั้นไม่ได้เข้าใกล้ชายใดในระยะนี้มาก่อน แม้แต่บาสแฟนเก่าของเธอ ยังต้องมีระยะห่างให้กัน มันเลยทำให้เมษาทำตัวไม่ถูกเวลาที่อยู่ใกล้แทนไทมากๆ
“ทำไม รังเกียจฉันรึไง”
น้ำเสียงดูห้วน ๆ ของชายหนุ่มเอ่ยราวกับไม่พอใจที่เธอนั้นเบือนหน้าหนีเขา แล้วพยายามดันตัวออกห่างจากชายหนุ่ม
“เปล่า เปล่าค่ะ”
เมษาพยายามหาทางเลี่ยงจากชายหนุ่มอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้นั้นกลับดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เมื่อแทนไทโอบรัดตัวเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ถ้าไม่รังเกียจฉัน แล้วทำไมต้องหันหน้าหนีฉันด้วยล่ะ”
เสียงเข้มเอ่ยบอกราวกับตัดพ้อเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของเขานั้นก็ดูปกติ มันทำให้เมษาเดาอารมณ์และความคิดของเขาในตอนนี้ไม่ออก
“เมย์ไม่ได้รังเกียจนะคะ แค่ เอ่อ รู้สึกอึดอัดค่ะ”
เมษาเอ่ยบอกโดยที่ไม่กล้าหันไปมองหน้าหรือสบตากับเขา หัวใจมันกลับเต้นแรงโครมครามจนแทบจะหลุดออกมา เมื่อปลายจมูกของแทนไทแตะลงมาที่ต้นคอของเธอเบาๆ
ลมหายใจของเขาที่เป่าล้นลำคอของเธอเบาๆ ก็ทำให้หญิงสาวขนลุกซู่ไปทั้งร่างกาย
“เอ่อ คุณแทนคะ แต่ว่า..ฉะ ฉันยังมีรอบเดือนอยู่นะคะ”
เมษารีบหาทางหลีกเลี่ยง โดยเอาข้ออ้างนั้นมาพูดอีกครั้ง ทว่าสิ่งที่แทนไทตอบกลับมานั้น มันทำให้ใบหน้าของเธอนั้นร้อนผ่าว
“เดี๋ยวฉันเช็กเอง”
เร็วกว่าความคิด มาเฟียหนุ่มก็จับร่างบางนอนราบลงไปกับโซฟาตัวยาวทันที โดยที่เขาทาบทับตัวลงมาติดๆ เมษาถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด กับการกระทำที่อุกอาจของเขา โดยที่เธอนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว
“คุ คุณแทนไท จะ จะทำอะไรคะ”
สองมือเรียวยกขึ้นมาดันแผงอกแกร่งของชายหนุ่มเอาไว้อัตโนมัติเพื่อป้องกันตัวเอง
“ฉันก็จะเช็กของไง ว่าเป็นรอบเดือนจริงมั้ย” แทนไทไม่พูดเปล่า เขายังลูบไล้ไปที่ต้นขาเรียวของเธอเบาๆ นั่นยิ่งทำให้เมษาตื่นตระหนกมากขึ้น
“คุณแทน ฉัน ฉันเป็นรอบเดือนจริงๆ นะคะ คุ คุณอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ ฉันขอร้อง”
เสียงอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเขา ไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มใจอ่อน แววตาคมเข้มจับจ้องมองใบหน้าหวานไม่วางตา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงมาจูบเธออย่างอุกอาจ