ตอนที่ 8
สามวันผ่านไป
หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่มาทํางานใช้หนี้ที่ห้องเขาอีกเลย จนวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เขาจะอดทนรอ กฤตดนัยสั่งงานทุกอย่างไว้กับเลขาเสร็จเขาก็ออกจากห้องทำงานทันที
คุณกฤตติชนก ประธานใหญ่ เดินมาที่ห้องของลูกชายไม่พบจึงสอบถามกับเลขาของเขาทันที
“สวัสดีค่ะท่าน”
“รสจรินทร์ คุณกฤตไปไหน”
“คุณกฤตไม่ได้บอกเอาไว้ มีแค่สั่งงานไว้เฉย ๆ แล้วรีบออกไปค่ะ” คุณกฤตติชนกถึงกลับส่ายหัว หาเลขาสวย ๆ มาให้ก็เสร็จเจ้าลูกชายตัวดีหมด เอาแบบนี้มาก็ไม่รู้เรื่องรู้ราว เฮ่อ! ประธานใหญ่ถอนหายใจออกมา พลางนึกว่าเจ้าลูกชายต้องไปติดสาวที่ไหนอีกเป็นแน่ เมื่อเลขาไม่รู้ สืบเองก็ได้นี่นา
“เธอนี่น่า เป็นเลขาเสียเปล่า เขาไม่บอกก็ไม่รู้จักถาม”
บ่นเสร็จท่านประธานใหญ่แห่ง กิจธนาเซ็นทาราแกรนด์โฮเต็ล ก็เดินจากไป
ออกจากห้องทำงานตัวเองได้ กฤตดนัยก็ขับรถตรงดิ่งไปที่อพาร์ตเมนต์ของมาริสา เขาจอดรถรอดูเธออยู่ด้านล่าง รออยู่ไม่นานเขานักก็เห็นเธอเดินลงมา วันนี้เธอแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาในมือหอบหนังสือหลายเล่ม เดินตรงไปป้ายรถเมล์ กฤตดนัยรอจนหญิงสาวเดินลับตาไปจึงค่อย ๆ ตามไปห่าง ๆ เมื่อเห็นว่าเธอขึ้นรถเมล์คันหนึ่งไป เขาก็รีบวิ่งกลับมาที่รถของเขาทันที
กฤตดนัยขับรถตามรถเมล์คันที่เธอขึ้นไปเรื่อย ๆ จนรถเมล์จอดที่ป้าย หน้ามหาวิทยาลัยของเธอ มาริสาลงรถเมล์แล้วก็เดินเข้ามหาวิทยาลัยไป หญิงสาวเดินตรงไปที่คณะของเธอ เขาแอบเดินตามมาริสาไปไม่ให้เธอรู้ตัว
กฤตดนัยเห็นมาริสานั่งโต๊ะใต้ต้นไม้ใหญ่ หญิงสาวนั่งอยู่คนเดียวไม่นานก็มีหนุ่มคนเดิมที่เขาเคยเห็นเธออยู่กับคนนี้
“คุยกะไอ้หมอนี่อีกแล้วเหรอ..” กฤตดนัยบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วเขาก็อดทนดูภาพเธอหัวร่อต่อกระซิกกับไอ้หนุ่มคนนั้นจนทนไม่ไหวเดินตรงไปหาเธอทันที
“มาริสา!” หญิงสาวคนที่ถูกเรียกเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายที่เธอรังเกียจที่สุด และไม่อยากเห็นหน้าเจ้าของเสียงนั้นอีก
“คุณมาที่นี่ทำไม!”
“ตกใจมากหรือไง ที่เห็นฉัน” กฤตดนัยถามขึ้นแล้วลงไปนั่งเบียดอยู่ข้างเธอ ทําให้หนุ่มนักศึกษาคนนั้นที่นั่งคุยกับเธอ ก่อนหน้านี้มองสองคนอย่างงง ๆ เพราะกฤตดนัยและมาริสาพูดเหมือนสนิทกัน
“ก็คิดถึงคุณไงครับ..ที่รัก” กฤตดนัยยังพูดจายั่วโมโหเธอด้วยท่าทางยิ้มแย้มแบบกวนโชว์หนุ่มที่เดินมาหาเธอในตอนแรก
“อย่าสําคัญตัวผิด ฉันไม่ใช่ที่รักของคุณ จะไปไหนก็ไป แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก”
“ออกไปคุยกับผมเดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องตกลงกัน ถ้าคุณไม่อยากให้ผมจูบคุณต่อหน้าไอ้หนุ่มคนนี้” กฤตดนัยกระซิบตอบกลับข้างหูเธอด้วยแววตาแวววาว
เมื่อมาริสาเดินออกมากับกฤตดนัยได้สักระยะ พอที่จะตกลงกันสองคนได้โดยที่แดนเทพไม่ได้ยินแล้ว กฤตดนัยจึงพูดขึ้น
“คิดจะหนีฉันมาง่าย ๆ งั้นเหรอ..มาริสา เธอเป็นลูกหนี้ฉัน ถ้าไม่ไปทำงานก็ค*****นฉันมาก่อนสิ”
“ฉันไม่มีให้ อยากได้ก็ไปฟ้องร้องเอา ฉันจะสู้คดีไม่ยอมคุณอีกแล้ว”
“ฉันจะไม่เลือกใช้วิธีนั้นเด็ดขาดเพราะมันเสียเวลา ถ้าเธอไม่ค*****นฉัน ฉันก็จะใช้วิธีของฉันจัดการเธอ แต่ฉันไม่รับรองนะว่า จะเกิดอะไรขึ้นเปล่า เอ้!!..หรือว่าฉันโทรบอกแม่เธอดีนะว่าเธอเป็นหนี้ฉัน” เขาสืบประวัติเธอมาหมดแล้ว รู้ว่าเธออยู่กับแม่เพียงสองคน กฤตดนัยยังขู่มาริสาเพื่อบีบให้เธอรับข้อเสนอของเขาแต่โดยดี
“นี่! คุณมันจะเกินไปแล้วนะ ขอร้องอย่ายุ่งกับแม่ฉัน” มาริสาตกใจที่เขารู้ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวเธอ ผู้ชายคนนี้ชักจะร้ายกว่าที่เธอคิดไว้จริง ๆ มันเป็นเวรกรรมอะไรของเธอกันนะ ที่ต้องมาเจอคนแบบนี้ เธอไม่อยากให้แม่เป็นกังวลเรื่องของเธอ เพราะแค่ปัญหาของแม่ก็มีปัญหามากพอแล้ว มาริสาไม่อยากให้แม่ต้องเป็นห่วง
“เอ้!!...นี่ใช่เบอร์ร้านขนมของแม่เธอหรือเปล่าน้า”
เขายื่นนามบัตรที่ได้มาจากณิชาให้หญิงสาวดู เป็นนามบัตรของร้าน วาสนาเบเกอรี มีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์พร้อม
กฤตดนัยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรร้านเบเกอรีของมารดาหญิงสาวแล้วส่งให้มาริสาตรวจสอบหมายเลข หญิงสาวทําหน้าตกใจเมื่อเห็นว่ากฤตดนัยทำท่าจะกดโทรออก จึงร้องบอกชายหนุ่ม
“จะทําอะไรนะ..หยุดเดี๋ยวนี้เลย” มาริสาขึ้นเสียง กฤตดนัยจึงตอบกลับไปด้วยข้อแลกเปลี่ยนของเขา
“ฉันให้เวลาเธอสองทุ่มคืนนี้ ถ้าเธอไม่โผล่หน้าสวยๆ ของเธอไปหาฉันละก็ รับรองฉันจะโทรหาแม่เธอแน่ ๆ วันนี้ฉันมาบอกเธอแค่นี้ละ” กฤตดนัยพูดขู่เธอแล้วเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง เขาจงใจให้คนที่ยืนอยู่ไกล ๆ เห็นไปด้วย โดยการที่กฤตดนัยถือโอกาส ขโมยหอมแก้มเธอเพื่อต้องการให้หนุ่มคนนั้นเห็น
“วันนี้ฉันมาบอกเธอแค่นี้ละ ฉันไปก่อนนะที่รัก แล้วคืนนี้เจอกันนะ..จุ๊ฟ” ไม่วายที่เขาจะทิ้งคำพูดเพื่อยั่วโมโหเธออีกครั้งก่อนจากไป
พอเขาเดินลับตาไปแล้ว มาริสาเดินกลับไปนั่งที่เดิม แดนเทพจึงเอ่ยปากถามขึ้น
“แฟนริสาเหรอ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า” แดนเพื่อนที่ทำงานกลุ่มด้วยกันเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะไม่เห็นมาริสาเพื่อนของเขาจะเคยมีแฟนสักครั้ง ตั้งแต่เรียนด้วยกันมา
“ไม่ใช่แฟนหรอกแค่คนรู้จักกันธรรมดา ..เอ่อ..เขาชอบแกล้งฉันแบบนี้แหละ อย่าไปสนใจเลย” มาริสาตอบแดนเทพเพื่อนชายของเธอที่เรียนอยู่สาขาเดียวกัน เพราะจริง ๆ แล้ว แดนเป็นแฟนณิชาเพื่อนสนิทอของเธอ แดนเทพจึงชอบมาคุยกับมาริสาเพื่อปรึกษาเธอเรื่องณิชาอยู่ บ่อยๆ
“ถ้าริสา มีอะไรให้แดนช่วยก็บอกได้นะ”
“ขอบคุณนะแดน ไม่มีอะไรหรอก”
“เออ!.. แล้วเรื่องไวน์ล่ะ สรุปต้องใช้หนี้ให้ผู้จัดการมั้ย”
“อ๋อ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ริสาทำงานให้เขาเพื่อชดใช้แล้ว”
“อืม..ค่อยยังชั่ว แดนคิดว่าริสาจะไม่ผ่านฝึกงานซะแล้วสิ”
“แดน ริสาไปก่อนนะ เดี๋ยวแดนรอณิชาคนเดียวนะ ริสาจะรีบไปหาแม่ที่ร้านสักหน่อย”
“ได้สิ..แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ”
หลังจากร่ำลาแดนเทพไป มาริสาก็เริ่มกระวนกระวายใจเป็นอย่างมากจะทําอย่างไงดี ดูท่าแล้วอีตาบ้านั่นคงจะรังควานเธอไม่เลิกแน่ ๆ