ตอนที่1เซอร์ไพร์สใหญ่
ภายในบ้านพงศ์การุณ
คุณเพียงเพ็ญและคุณทรงพลกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ภายในห้องรับแขกของบ้าน สองสามีภรรยาถึงกับต้องหันหน้าไปมอง พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยกับสีหน้าท่าทางของลูกชายคนโต พักหลังมานี้ปัทกรณ์ชอบหายตัวไปบ่อยครั้งมากและไม่ค่อยจะกลับมานอนที่บ้านเหมือนเช่นเคยนัก
ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งข้างกายมารดาและบิดาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งอยู่เต็มอก ไม่รู้เลยสักนิดว่าต้องเริ่มต้นพูดคุยกับมารดาและบิดาว่าอย่างไรดี ทั้งที่เรื่องนี้เขาไม่ได้เคยนึกมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าอีกคนพยายามที่จะให้มันวุ่นวายเป็นแบบนี้หรือว่าเขาพลาดเองกันแน่
"ทำไมแกทำหน้าแบบนั้นตาปัท" คุณเพียงเพ็ญถามลูกชายขึ้น พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปมองสบตาใกล้ ๆ คิ้วโก่งโค้งสวยใบหน้ายังแลดูเต่งตึง แม้ว่าวัยจะล่วงเลยไปมากกว่าหกสิบปีแล้วก็ตามที
ปัทกรณ์หันมามองจ้องหน้าบิดาและมารดาสลับกันไปมาอยู่หลายครั้ง นี่เขาควรจะเริ่มบอกความจริงให้กับทุกคนได้รับรู้ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นข่าวร้ายหรือว่าข่าวดี แต่สำหรับเขาแล้วแทบจะเรียกได้ว่าเป็นความเฮงซวยเดียวที่เกิดขึ้นในชีวิต ณ.เวลานี้
"แกเป็นอะไร มองหน้าพ่อกับแม่แบบนี้ อยากจะพูดอะไรก็พูดมาสิ ฉันสองคนรอฟังแกอยู่นะตาปัท" คุณเพียงเพ็ญเริ่มจะหงุดหงิด เมื่อเห็นลูกชายทำทีท่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ยังไม่ยอมพูดออกสักที
"มีอะไรตาปัท สีหน้าเหมือนคนมีปัญหา แกปรึกษาพ่อกับแม่ได้นะ" คุณทรงพลถามลูกชายและจ้องมองหน้ารอคอยในคำตอบนั้นไม่ต่างจากคนเป็นภรรยานัก
ปัทกรณ์นั่งหลังตรงยืดอกขึ้น ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ใบหน้าคมคายที่ดูหล่อมากแม้วัยจะล่วงเลยไปถึงสามสิบห้าปีแล้ว เสียงถอนหายใจดังเป็นรอบที่สอง ถึงกับทำให้คุณเพียงเพ็ญต้องลุกยืนขึ้นเต็มความสูงอย่างอดไม่ได้
"แกจะพูดหรือไม่พูด ถ้าไม่พูดฉันกับพ่อแกจะได้ขึ้นไปนอนพักสักที
ไปกันเถอะค่ะคุณทรงพล ถ้าวันนี้ตาปัทไม่อยากพูดรอให้มันพร้อมก่อนก็แล้วกันเราสองคนค่อยมานั่งฟังกันใหม่" คุณเพียงเพ็ญหันไปพูดกับสามีด้วยความโมโห ก่อนจะปรายตาหันไปมองจ้องหน้าลูกชายอย่างไม่พอใจอยู่แบบนั้น
"พูดครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกพ่อกับแม่"
"ก็พูดมาพ่อกับแม่รอฟังแกอยู่" คุณทรงพลพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนน่าฟัง มากกว่ามารดาที่มองจ้องหน้าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขานักอย่างน่าเกรงขามนัก
"ผม...ผมไปทำผู้หญิงท้องครับพ่อ"
"อะไรนะทำผู้หญิงท้อง/อะไรนะทำผู้หญิงท้อง!"
คุณทรงพลและคุณเพียงเพ็ญต่างตกอกตกใจกับคำบอกกล่าวของลูกชาย คนที่ไม่เคยคิดจะมีเมียหรือกระทั่งแม้แต่แฟน แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มาบอกว่าไปทำผู้หญิงท้องมากันนะ
"แกไปทำใครท้องมา แล้วแกแน่ใจเหรอว่าลูกในท้องผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของแกหะตาปัท!"
คนที่ดูไม่พอใจเป็นอย่างมากเห็นจะเป็นคุณเพียงเพ็ญ นางถึงกับเอามือทาบอกรู้สึกหายใจแทบจะไม่ทัน ลูกชายไปพลาดท่าเสียทีให้กับผู้หญิงที่ไหนมากันนะ นางกลัวเหลือเกินกลัวว่าลูกชายจะโดนผู้หญิงคนนั้นหลอกลวง เพราะคนอย่างปัทกรณ์ต้องรู้จักเซฟตัวเองให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาจับทำสามีและพ่อของลูกแบบนี้
"เป็นพนักงานในบริษัทของเราครับคุณแม่"
"อะไรนะ แกกินเด็กในปกครอง แล้วแกก็ไม่คิดจะป้องกันตัวเองเลยนี่นะ แกทำบ้าอะไรวะตาปัท?" คุณทรงพลถึงกับมีทีท่าหงุดหงิดไม่ต่างจากภรรยานัก ไม่เคยมีปัญหาถ้าหากลูกชายจะยุ่งกับใครสักคนหรือไปหาซื้อผู้หญิงกินจากข้างนอก แต่มันต้องไม่ใช่พนักงานในบริษัทเช่นนี้ ทำให้สูญเสียการปกครอง ถ้าคนอื่นรู้เข้าก็ทำให้อับอายขายขี้หน้าเขาไปทั่วสินะแบบนี้
"ป้องกันมันก็ต้องป้องกันอยู่แล้วไหมพ่อ แต่ไม่รู้มันอาจจะมีบางครั้งที่ผมพลาด"
"แกจะมาใช้คำว่าพลาด ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเขาท้องแล้วนี่นะ ตอนทำก็น่าจะคิดน่าจะไตร่ตรองให้มันดีเสียก่อน แล้วแม่ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร มันตั้งใจจะจับแกหรือเปล่าตาปัท?" คุณเพียงเพ็ญก็ยังเป็นคุณเพียงเพ็ญอยู่วันยังค่ำ การที่จะมีใครมาเป็นลูกสะใภ้ของบ้านสักคน นางก็อยากได้ผู้หญิงที่ดีและรักลูกชายของนางจริง ๆ ไม่ใช่เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่างจากครอบครัวพงศ์การุณเพียงเท่านั้น
"ผมก็ไม่รู้ครับคุณแม่ ตอนเขามาบอกผมยังตกใจไม่หายเลยครับ"
"แล้วแกจะเอายังไงต่อ" เป็นคุณทรงพลที่ถามลูกชายขึ้น สีหน้าของชายชราบ่งบอกว่าหนักอกหนักใจอยู่ไม่น้อย เพราะตอนนี้ปัทกรณ์นั่งแท่นเป็นผู้บริหารคนใหม่อย่างเต็มตัวแล้ว ขึ้นรับตำแหน่งได้ไม่เท่าไหร่ก็ทำเรื่องงามหน้าขึ้นจนได้
"เขาจะให้ผมรับผิดชอบ แต่ผมยังไม่พร้อมจะมีเมีย" เสียงทุ้มตอบกลับในสิ่งที่ตนมีปัญหาอยู่ เพราะชีวิตนี้ยังไม่อยากจะแต่งงานลงเอยกับใครเลยทั้งนั้น
"ผู้หญิงคนนั้นท้องได้กี่เดือนแล้ว?"
"เขาบอกว่าสิบสองสัปดาห์ครับคุณแม่"
"แกลองเสนอเงินให้มันไปตั้งตัว ไม่ก็บอกให้ไปเอาเด็กออกหรือยัง?"
เป็นคำพูดที่คุณทรงพลไม่เห็นด้วยกับภรรยาเลยแม้แต่นิด เสียงทรงอำนาจถึงกับรีบแย้งขึ้นอย่างไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว
"คุณจะบ้าหรือไงคุณเพ็ญ ฆ่าเด็กคนหนึ่งมันบาปมากเชียวนะ คุณนี่แทนที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่คอยแนะนำลูกได้ สนับสนุนอะไรไม่เคยจะเข้าเรื่องสักอย่าง"
"ก็แล้วถ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของตาปัทล่ะ คุณจะแน่ใจได้ยังไงคะคุณทรงพล ว่าแม่ผู้หญิงคนนั้นมันจะยุ่งเกี่ยวกับแค่ตาปัทคนเดียว ไม่ใช่ว่ามันเห็นตาปัทขึ้นนั่งแท่น CEO หรอกนะ ถึงอยากปล่อยตัวเองให้ท้องเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ที่ไม่เคยจะมีในชีวิตนี้ได้เลย"
"คุณเพียงเพ็ญ คุณปล่อยให้ลูกตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาเองก่อนได้ไหม ทำไมชอบพูดอะไรแบบนี้นะตอนหนูกิ่งก็ครั้งหนึ่งแล้ว คุณก็เห็นว่าคนที่คุณเคยดูถูกนักหนาตอนนี้กลับกลายเป็นลูกสะใภ้ที่คุณโปรดปรานมากที่สุด ลูกสะใภ้คนโปรดที่ใครก็แตะต้องไม่ได้ หรือว่าที่ผมพูดมันไม่จริง?"
คุณเพียงเพ็ญไม่อาจปฏิเสธในข้อนี้ เพราะในอดีตนางก็เคยคิดแบบนี้กับกิ่งมาลาจริง ไม่เคยจะชอบลูกสะใภ้ที่ไม่มีอะไรเท่าเทียมเลยสักอย่าง แต่ท้ายที่สุดกิ่งมาลาก็ชนะใจนาง เป็นลูกสาวคนหนึ่งที่นางรักมากและเข้าข้างมากที่สุดในเวลานี้ สุดท้ายนางเลยจำยอมต้องเงียบไม่อยากตอบโต้กับสามี เพราะไม่อยากทะเลาะกันให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาอีก