Chapter 4 กวางน้อยล่าเหยื่อ
แป้งฝุ่นมองเพื่อนอย่างตื้นตันและขอบคุณ
“ไม่ต้องมาทำหน้าซึ้งขนาดนั้น ฉันบอกแกแล้วไงว่าฉันมีวิธีช่วยแก”
“ขอบใจมากนะ”
“แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้น ฉันอยากให้แกมีแฟน ลุ้นให้แกเจอคนถูกใจสักคนและยอมค้างคืนกับเขาจนถึงเช้า มีแฟนไฮโซเชียวนะแก”
“ความหวังของแกลุ้นไม่ขึ้นหรอก ฉันไม่มีวันหาแฟนจากงานแบบนี้หรอกย่ะ ที่ยอมมา ก็เพราะเงินเท่านั้น”
“โอเค...โอเครรรร” ขนมปังลากเสียงยาว
“ฉันส่งแกแค่นี้นะ คงเปิดโรงแรมใกล้ๆ แถวนี้แหละ”
“อ้าว! ไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ” แป้งฝุ่นทำหน้างอแง
“เข้าไปได้ไงล่ะ เค้าให้เข้าเฉพาะคนที่ผ่านการคัดเลือก”
แป้งฝุ่นพยักหน้าเข้าใจ เพราะรู้กติกาดี คนนอกที่ไม่ถูกคัดเลือกไม่มีสิทธิ์เข้างานไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงขนมปังที่เป็นน้องสาวเจ้าของงานด้วย
ในงานห้ามพกโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารใดๆ เพื่อป้องกันภาพและข้อมูลหลุดรอด ทุกคนจะต้องฝากไว้ที่เจ้าหน้าที่เท่านั้น จนกว่าจะจบงาน
“มีอะไรก็บอกพี่ภูให้โทรหาฉันก็แล้วกัน”
“ขอบใจแกมากนะ”
“ฉันรักแกนะ ดูแลตัวเองด้วย”
“อือ...” แป้งฝุ่นตอบรับและเปิดประตูลงจากรถ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในงาน
“มาแล้วเหรอ” เสียงของภูชิตถามขึ้นอย่างสนิทสนม
“สวัสดีค่ะพี่ภู” แป้งฝุ่นยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อน เธอเคารพเหมือนพี่ชายแท้ๆ
“ปะ...เดี๋ยวพี่พาไปแนะนำให้แขกรู้จัก” ภูชิตคว้าข้อมือแป้งฝุ่นเดินเข้าไปในงาน แต่เธอก็ทำตัวแข็งทื่อต้านเอาไว้
“แป้งขอเวลาสักพักนะคะ แต่ขอเข้าไปเองเงียบๆ ไม่เอิกเกริกได้ไหม แป้งไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใครเยอะๆ”
ภูชิตเห็นแววตาตื่นตระหนกก็อดสงสารไม่ได้ เขาพยักหน้าให้เธอและยิ้มน้อยๆ ส่งกำลังใจให้อีกฝ่ายอย่างปลอบโยน
“ตามใจจ้ะ เดี๋ยวพี่ไปแจ้งลงทะเบียนกับพนักงานให้ พร้อมเมื่อไหร่ก็เดินเข้าไปนะ ส่งโทรศัพท์มาให้พี่เลยก็ได้” เขาบอกพร้อมยื่นมือมารับโทรศัพท์ ตามกฎของงาน
“ขอบคุณมากค่ะ” หญิงสาวยื่นโทรศัพท์ส่งให้เขา
ภูชิตส่งยิ้มให้เธออีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปจัดการภายในงาน หลังจากสั่งงานลูกน้องเรียบร้อย เขาก็เดินไปหาเพื่อนหนุ่มที่นั่งหลบมุมอยู่อีกฝั่ง
เจ้าของงานส่ายหน้ากับภาพของเพื่อนหนุ่ม ทั้งที่เขาพยายามแนะนำน้องๆ หน้าใหม่ให้ปราบหลายคน แต่เขาก็ปฏิเสธทุกราย สุดท้ายก็มานั่งดื่มเงียบๆ คนเดียวริมสระน้ำ
ปราบกระดกวิสกี้สาดลงคออย่างเบื่อหน่าย เขาไม่ได้รู้สึกสนุกกับแสงสีเสียงตรงหน้าแม้แต่นิด ภูชิตวนเวียนพาสาวสวยมาแนะนำให้นั่งดื่มเป็นเพื่อน แต่เขาก็ปฏิเสธ เพราะไม่ต้องตาต้องใจกับใคร
แสงไฟกะพริบจากโทรศัพท์ ขัดจังหวะความเบื่อหน่ายของปราบ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่เจ้าของงานให้อภิสิทธิ์ถือโทรศัพท์เอาไว้ เพราะต้องติดต่องานกับเลขา เขาเหลือบสายตาไปมอง เมื่อเห็นเจ้าของสายเรียกเข้าโชว์หราอยู่บนหน้าจอ เขานั่งมองนิ่งๆ จนสายถูกตัดไปเอง
ภูชิตยืนมองจนกระทั่งโทรศัพท์ถูกตัดสายไปเอง เขาจึงเดินเข้ามาหา เขากระแทกก้นลงบนเก้าอี้ตรงข้ามปราบ
“มานั่งทำซากอะไรอยู่ตรงนี้วะ ฉันให้แกมาสนุก ไม่ได้ให้มานั่งเป็นส้วมซึมแล้วเทขี้ลงส้วมโครมๆ แบบตอนนี้” ภูชิตทำเสียงหงุดหงิดบรรยายการกระทำของเพื่อนหนุ่มจนเห็นภาพชัดเจน เขาสาดวิสกี้ลงคอถี่ๆ เหมือนเทลงส้วมจริงๆ
ภูชิตรู้ว่าปราบคงยังทำใจไม่ได้ง่ายๆ การที่แฟนสาวตัดสินใจไปแต่งงานกับพ่อของตัวเองกะทันหัน เป็นใครก็คงเข่าทรุด สิ่งที่เขาทำหวังว่าเพื่อนจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นผลจนเขาหงุดหงิด
“แกจะไปต้อนรับแขกก็ไปเถอะ อย่ามาสนใจฉัน”
“ฉันบอกแล้วไงว่าจัดงานนี้ขึ้นมาเพราะแก”
ปราบเงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อน บอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ฉันไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้นแหละ แกอย่ามายุ่งกับฉันดีกว่า”
ภูชิตฉุดมือเพื่อนหนุ่มให้ลุกขึ้น “ไปกับฉันหน่อย ฉันมีคนแนะนำให้แกรู้จัก”
“แกแนะนำมากี่คนแล้ว ยังไม่ละความพยายามอีกเหรอ”
“เอาน่า คนนี้ถ้าแกยังไม่สนใจอีก ฉันจะไม่ยุ่งกับแกอีกเลย”
ปราบหรี่ตามองเป็นเชิงถาม “คนนี้เพื่อนของขนมปัง เป็นเด็กดี เธอน่าสงสาร”
“ฉันไม่ใช่มูลนิธิสงเคราะห์ ไม่สงสารใครทั้งนั้นแหละ” ปราบบอกอย่างไม่แยแส กระดกวิสกี้สาดลงคออีกครั้ง
“เอาน่า...เชื่อฉัน” เจ้าของงานยังคะยั้นคะยอ ออกแรงฉุดตัวเพื่อนหนุ่มให้ลุกขึ้น
ปราบทำหน้าเบื่อหน่ายมองเพื่อนหนุ่ม ถามกลับอย่างเหยียดหยัน “เด็กดีที่ไหนเขาจะมารับงานแบบนี้กัน งานที่รู้ว่าจะต้องเสียตัวแลกเงินเนี่ยนะ ต่างจากขายตัวตรงไหน ยิ่งขึ้นชื่อว่าผู้หญิงแถบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งเชื่อถือไม่ได้ว่าซิง”
ปราบรู้กฎและกติกาของงานดีว่าหากสาวๆ ถูกพาออกไปในค่ำคืนนี้ พวกเธอจะได้รับเงินขวัญถุง ของขวัญพิเศษจากทางร้าน แม้ชื่อจะถูกตั้งให้เรียกอย่างสวยหรูว่าเงินขวัญถุง แต่มันก็คือค่าตัวดีๆ นี่เอง
ที่พิเศษกว่านั้น...หากทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนข้ามคืน ทั้งสองคนจะต้องเริ่มต้นเรียนรู้และคบกันเป็นแฟนอย่างน้อย 6 เดือน
แม้ที่ผ่านมางานนี้จะประสบความสำเร็จ สร้างคู่รักที่แต่งงานกันในชีวิตจริงได้หลายคู่ แต่ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นงานที่จัดขึ้นอย่างถูกกฎหมาย
“ถ้าเกิดแกจะเป็นคนดีขึ้นมาวันนี้วันเดียว แกพาน้องออกไปแล้วนั่งมองเฉยๆ ก็ได้นะ” ภูชิตบอกอย่างเหน็บแนม
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น เสืออย่างฉัน ไม่มีวันนั่งมองเหยื่อเฉยเฉยๆ หรอก”
“คำรามอย่างเสือสักทีสิวะ ที่ฉันเห็นอยู่นี่มันแมวย้อมสี ไม่ใช่เสือนะ”
ปัง! เสียงแก้ววิสกี้กระแทกลงบนโต๊ะ คนถูกท้าทายลุกขึ้นยืน
“ฉันจะทำให้นายเห็น แต่ฉันจะไม่ใช้บริการ คนที่นายแนะนำหรอกนะ ฉันไม่ชอบแตะต้องคนดี” พูดจบปราบก็เดินเข้าไปในงาน
เจ้าของงานยิ้มตามหลังยังพอใจ ในที่สุดเขาก็สามารถปลุกเสือหลับ ให้กลับมาเป็นเสือเหมือนเดิมได้
ภูชิตยิ้มอย่างพอใจ เมื่อเห็นเป้าหมายของปราบ
สายตาคู่คมของปราบสะดุดเข้ากับเจ้าของเรือนร่างโปร่ง เขาเห็นเธอยืนแก้กังบังพุ่มต้นไม้หลบสายตาผู้คน เสืออย่างเขาไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปหา แม่สมันสาวตัวนี้กำลังน่าล่าน่าขย้ำ
เขายิ้มร้าย...เดินเข้าไปหา ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกึ่มๆ ไม่ถึงกับเมาทำให้เขานึกสนุก
ในขณะที่แป้งฝุ่น ยืนบังอยู่หลังพุ่มไม้ มองเข้าไปในงานด้วยแววตาหวาดกลัว แม้เธอจะเคยทำงานอยู่ในผับ แต่ก็ไม่เคยเห็นอาการหื่นกระหายโจ่งแจ้ง นัวเนียกันซึ่งหน้าแบบนี้
“ทำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” แป้งฝุ่นขนลุกซู่กับภาพที่เห็นตรงหน้า จินตนาการตาม ถ้าหากว่าเธอไปยืนอยู่ตรงนั้นคงจะทำตัวไม่ถูก