คำพูดนั้นทำให้ภัทรญาหน้าตื่น เธองงเหมือนไก่ตาแตก
“เอ้อ...ฉันว่าคุณคงพูดอะไรผิดไป หรือไม่ที่พูดนี่เพราะยังโกรธฉันอยู่ใช่ไหมคะ”
เขาไหวไหล่ “ผมไม่ได้พูดผิด ไม่ได้โกรธ แค่รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ผมรอคอยมานาน”
“ที่จะได้เอาคืนอย่างนั้นสินะคะ”
“คุณเดินเข้ามาหาผมเองนะ เบล...ต่างคนต่างก็ได้รับโอกาส คุณจะหาจากที่ไหนไม่ได้หรอก เงินห้าสิบล้านกับการเป็นแม่อุ้มบุญให้ผม แค่คุณตกลงผมก็จะให้หมอที่ติดต่อไว้เริ่มกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วทันที”
“ครินต์...คุณบอกว่าไม่โกรธ แต่นี่เป็นการเอาคืนชัด ๆ เลยนะคะ”
“แล้วแต่คุณจะคิด แค่คุณอุ้มท้องลูกของผมก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากเย็น”
“คุณกำลังบีบบังคับให้ฉันเลือกในสิ่งที่ฉันไม่ได้อยากเลือกนะคะ”
“เป็นข้อเสนอ แต่คุณต้องตัดสินใจแล้วล่ะ เพราะผมจะให้เวลาคุณ...” เขายกข้อมือดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา “หนึ่งชั่วโมงนับจากนี้ เดี๋ยวผมกลับมาฟังคำตอบ”
ครินต์ออกจากห้องนั้น ปล่อยให้ภัทรญานั่งนิ่ง ไม่ใช่นิ่งเฉย ๆ แต่เธอยังอึ้งกับการแสดงออกของเขา สักครู่ก็มีใครคนหนึ่งเปิดประตูและก้าวเข้ามา เธอหันกลับไปมอง เป็นเด็กหนุ่มอายุประมาณยี่สิบปี สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็ค ท่าทีสุภาพ เขายกแก้วน้ำมาวางตรงหน้าและกล่าวว่า
“ผมชื่อดอมครับ เป็นบอดี้การ์ดของคุณครินต์”
บทที่ 2
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ...ฉันเบลค่ะ...เอ้อ...ครินต์บอกว่าเดี๋ยวเขาจะกลับมาค่ะ”
“ครับ...นายให้ผมมาอยู่คอยอำนวยความสะดวกให้คุณเบลครับ”
ให้มาคุม หรือกดดันกันแน่ ภัทรญารู้ดีว่าครินต์เป็นคนยังไง เธอเคยคบกับเขา รู้ดีว่าครินต์มีนิสัยอย่างหนึ่งคือชอบบงการ แต่ตอนนั้นเธอชอบทุกอย่างที่เป็นเขา ถึงบัดนี้ก็ยังจดจำสิ่งที่เขาทำได้ทุกอย่าง ครินต์เป้ฯมหาเศรษฐี เขามักมีคนคอยติดตาม แต่เขาไม่ให้ใครมาอยู่ใกล้เธอ ตอนนั้นกับตอนนี้มันแตกต่างกันสินะ ก็เธอไม่ใช่แฟนของเขาแล้ว เขาให้คนมาตอยดูแลอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่หรอก คนของเขากำลังจับตาเธออยู่ต่างหาก ภัทรญาเริ่มอึดอัด เธอหายใจไม่ทั่งท้อง และมีความคิดบางอย่างวาบเข้ามาในสมอง เธอไม่น่ามาที่นี่ เขาคงหัวเราะเยาะความล้มเหลวในชีวิตของเธอ ซึ่งจริง ๆ มันเกิดในช่วงเวลาที่เธอคบกับเขา เรื่องธุรกิจทางบ้านที่พังพาบก็เป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เธออยากออกห่างจากเขาด้วย ภัทรญานึกถึงข้อเสนอของครินต์ เขาจะให้เธอเป็นแม่อุ้มบุญ ถึงครั้งหนึ่งเขาเคยรักเธอ แต่ทำแบบนี้มันจะไม่เป็นการเหยียบย่ำกันเกินไปหน่อยหรือ ให้เธออุ้มท้องให้เขา จากนั้นก็เฉดหัวเธอทิ้งแล้วเอาลูกไว้ ภัทรญากำลังตกผลึกความคิดในชั้นสุดท้าย เธอกำลังจะอ้าปากพุดอไรบางอย่างกับบอดดี้การ์ดของครินต์ก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้นเสียก่อน เธอหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าและรีบรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“คะ...แม่เหรอคะ...ว่าไงนะคะ...พ่อต้องรีบผ่าตัดด่วน หมอว่าอย่างนั้นเหรอคะ ค่าใช้จ่าย...ค่ะ...โอเคค่ะ...เดี๋ยวเบลจะเข้าไปคุยกับหมอนะคะ...ได้สิคะ...เบลเคลียร์ทุกอย่างเองค่ะ” เธอวางสาย น้ำตาเกือบไหลเมื่อนึกถึงการตัดสินใจสุดท้ายของตัวเอง คงไม่ต้องรอถึงชั่วโมงแล้วกระมัง เธอหันไปยังบอดี้การ์ดหนุ่ม
“เอ้อ...ดอม...ไม่ทราบว่าตอนนี้ครินต์อยู่ไหนเหรอคะ”
“นายอยู่ที่ห้องหนังสือครับ ไม่ทราบมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ฉันต้องการพบเขาตอนนี้ ช่วยพาฉันไปพบเขาหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้ซีครับ...ตามผมมาทางนี้ครับ” ดอมรับคำก่อนเดินนำภัทรญาไปยังอีกห้องหนึ่ง เธอก้าวเข้าไปและเห็นครินต์นั่งอ่านหนังสือบนเก้าอี้นวมด้วยท่าทีสบายๆ สักครู่ดอมก็ถอยออกไปปล่อยให้เธอยืนนิ่งจ้องมองครินต์อยู่สักครู่ กระทั่งเขาเงยหน้าจากหนังสือ รอยปากหยักหยัดขึ้นเล็กน้อย
“ปกติผมไม่ให้ใครเข้ามาในห้องนี้เลย แม้แต่คนสนิท...หรือว่าคุณตัดสินใจอะไรได้ถึงอยากพบผมก่อนเวลา คุณคงรีบกลับซีนะ”
“ฉันตกลงรับข้อเสนอของคุณ ที่จะเป็นแม่อุ้มบุญ...คุณบอกใช่ไหมคะว่าถ้าฉันตอบตกลงจะจ่ายทันทียี่สิบห้าล้าน”
“ผมไม่ลืมหรอก” เขาวางหนังสือลงและยืดลำตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนเดินมาหยุดตรงหน้าภัทรญา คราวนี้เธอกล้าสบนัย์ตาเขาตรงๆ “ว่าแต่คุณเถอะเบล คิดดีแล้วหรือที่ตอบรับข้อเสนอของผม”
“ค่ะ...ฉันจะเป็นแม่ของลูกคุณ จะทำตามสัญญาที่คุณเสนอมาทุกอย่าง”
“คุณจะไม่แม้แต่เสียดายอย่างนั้นใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ก็ดี...ผมจะให้คุณอ่านสัญญาเพิ่มเติม แต่ก่อนอื่นผมคงต้องเซ็นเช็คเงินสดยี่สิบห้าล้านให้คุณก่อนสินะ” ครินต์ดึงสมุดเช็คออกจากกระเป๋า มันดูเหมือนเขาตระเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เขาจรดปลายปากกาบนสมุดแล้วดึงเช็คยื่นให้เธออย่างเยือกเย็น
“นี่เป็นเงินงวดแรกสำหรับคุณ” เขายื่นให้เธอรับไป ภัทรญาก้มดูตัวเลข เธอแทบไม่ตื่นเต้นกับตัวเลขแถมยังหดหู่เหลือจะเอ่ย แต่...ทำไมทุกอย่างมันง่ายดายไปหมด
“ผมถือว่าเมื่อคุณรับเงินจากผมไปแล้วก็หมายความว่า คุณตกลงทำตามเงื่อนไขที่ผมต้องการทุกอย่าง สัญญาไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกนะ แต่คุณก็จะบิดพลิ้วไม่ได้อย่างเด็ดขาด ถ้าเล่นตุกติกผมก็มีทนายจัดการเรื่องนี้อย่างเต็มที่”
“ฉันไม่ผิดสัญญาหรอกนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยเหลือ...ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะกลับมาจัดการเรื่องสัญญาค่ะ”