ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
"คุณหมอสวัสดีค่ะ" "คุณยุงหมอสวัสดีค่าาา" เสียงของสองสาวพูดขึ้นพร้อมกัน
"สวัสดีครับ อ้าววันนี้พาใครมาด้วยครับ"
"อ่อ นี่คุณคชาค่ะ" จากนั้นก็กระซิบเบาๆว่า"พ่อของมีดี้แกค่ะ"
"อ่อ สวัสดีครับคุณคชา"
"สวัสดีครับคุณหมอ"ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
"ผลตรวจสุขภาพวันนี้ของน้องมีดี้อยู่ในเกณฑ์ดีมากเลยนะครับ น้ำหนักตัว ส่วนสูง ก็ปกติ คงเป็นเพราะคุณแม่เอาใจใส่ดูแลน้องตามที่หมอบอกมาตลอด"
"ใช่ค่ะ ทำตามคำแนะนำของคุณหมอตลอดเลยค่ะ"
"ครับ งั้นเดี๋ยวหมอจะนัดเป็นหกเดือนนะครับ แม้จะอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ก็ควรตรวจสุขภาพสม่ำเสมอนะครับ"
"ได้เลยค่ะ สวัสดีคุณหมอก่อนสิลูก"ลิลลี่หันไปบอกลูกสาว
"สวัสดีค่าา คุณยุงหมอ มีดี้จะกลับแล้วค่าา"
"ครับๆ บ๊ายบายครับ" เด็กหญิงตัวน้อยยกมือขึ้นบ๊ายบายแล้วก็พากันเดินออกไปจากห้องตรวจ
"ผมสงสัยว่าทำไมต้องมาตรวจบ่อยๆด้วยละครับ"
"แกคลอดก่อนกำหนดค่ะ ก็เลยสุขภาพไม่แข็งแรง ตอน 1 ขวบ แกป่วยบ่อยมากเลยค่ะ บางครั้งต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์เลยนะคะ ฉันสงสารแกมากเลยค่ะ"
"อ่อ แต่คุยก็คงคลายกังวลได้บ้างแล้วใช่ไหมครับ เพราะตอนนี้มีดี้เองก็ดูจะสุขภาพแข็งแรงดีกว่าเมื่อก่อน"
"ใช่ค่ะ ตั้งแต่กลับมาเมืองไทย ฉันก็ได้พามารักษาที่นี่แหละค่ะ ไว้วางใจได้"
"กลับมาไทยหรอครับ แสดงว่าก่อนหน้านี้คุณอยู่ต่างประเทศหรอครับ"
"ใช่ค่ะ ตั้งแต่รู้ว่าท้องฉันก็ขอคุณแม่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลี คงเป็นเพราะต้องทำทุกอย่างเองมั้งค่ะ ทั้งงานบ้านและงานทั่วไป เลยทำให้ไม่ค่อยได้บำรุงใยลูกหมูตัวเล็กของฉันเท่าไร แกก็เลยคลอดก่อนกำหนด คุณแม่ฉันท่านก็เลยให้กลับเมืองไทยด่วนเลยละคะ"
"อ่อ อย่างนี้นี่เอง ผมขอคุณเรื่องนึงสิ เรื่องตรวจดีเอ็นเอน่ะ ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อคุณนะ แต่ผมคงต้องมีหลักฐานที่จะต้องเอาไปให้คุณพ่อคุณแม่เป็นการยืนยันครับ"
"ได้สิคะ ไหนก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้วก็ตรวจเลยสิคะ"
"เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ"
หลังจากวันที่ไปโรงพยาบาลกัน วันนี้ก็เป็นวันที่ผลตรวจเลือดออกพอดี ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ส่งผลมาให้ที่คอนโดของชายหนุ่ม เขาเปิดเอกสารออกดูก็พบว่า ผลตรวจเลือดของเขากับมีดี้ตรงกัน 100% แสดงว่ามีความเกี่ยวข้องเป็นพ่อลูกกัน เขาไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จู่ๆก็จะมีลูกโผล่มาอย่างกระทันหันทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานและคบกับใครเป็นตัวเป็นตน คิดได้ดังนั้นเขาก็คิดว่าเขาจะต้องรับผิดชอบดูแลเด็กคนนี้ให้มีชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเขาจะรับผิดชอบด้วยการแต่งงานเพราะเห็นว่าวิธีนี้จะดีที่สุด
ชายหนุ่มตัดสินใจพาลิลลี่และลูกสาวไปหาพ่อและแม่ของเขาที่บ้านเพื่อที่จะอธิบายความจริงทุกอย่างให้ท่านทั้งสองฟังรวมถึงแสดงผลการตรวจดีเอ็นเอให้เห็นกันชัดๆไปเลย
"ไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้วลูกจะจัดการอย่างไรละตาตะวัน หืม" คุณหญิงจ้องลูกชายแววตาจริงจัง
"ผมจะแต่งงานและจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมายกับลิลลี่ครับแม่"
"ลิลลี่ละลูกอย่างนี้โอเคไหม เจ้าลูกชายของแม่มันชอบก่อปัญหา นี่ถ้าแม่รู้เร็วกว่านี้ก็คงได้เจอหลานของแม่ตั้งนานแล้ว" แม่ของชายหนุ่มคำนึงถึงจิตใจของหญิงสาวเป็นหลัก
"ลิลลี่โอเคค่ะ ขอให้มีดี้มีความสุขก็เพียงพอแล้วค่ะ"
"งั้นก็ตามนี้นะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะนัดคุยกับพ่อแม่ของหนูอีกทีนะลูก จัดการให้ถูกต้องตามประเพณี ได้ฤกษ์ยังไงแล้วจะบอกจ่ะ" ชายหนุ่มและหญิงสาวยกพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม
"มีดี้ขาา มาหาย่าหน่อยมา" มีดี้น้อยมองหน้าผู้เป็นแม่เชิงขออนุญาต พอหญิงสาวพยักหน้าอนุญาตมีดี้น้อยก็วิ่งเข้าไปหาคุณปู่คุณย่า
"มีดี้ชอบตุ๊กตาอะไรค่ะ อยากได้อะไรไหมลูกย่าจะซื้อให้หนูเองลูก"
"ไม่เอาค่ะ คู๊นนนแม่เพิ่งจะซื้อตุ๊กตาให้ค่ะ ซื้อเยอะไม่ดีคุณแม่บอกว่าเดี๋ยวเล่นไม่ครบ พี่ตุ๊กตาจะย้องไห้ แงๆๆๆ แบบนี้เลยค่ะ"
"เอ็นดูจังลูกแต่ย่าอยากซื้อให้หนูจัง เอาอย่างนี้ดีไหมถ้มอยากได้อะไรบอกย่าเลนนะคะ" เด็กน้อยพยักหน้าตอบรับและยิ้มตาหวานนให้คุณย่าคุณปู่ ทั้งปู่ทั้งย่าหลงรักหลานตัวน้อยเป็นอย่างมาก งานนี้ในบ้านคงจะมีแต่เสียงหัวเราะเกิดขึ้นเป็นแน่ ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินแยกออกมาเพื่อไปดูห้องพัก ซึ่งเขาจัดให้เธอเป็นห้องข้างๆกับห้องของเขา "คุณจะต้องพักห้องนี้นะครับ ส่วนห้องของผมอยู่ถัดไป คุณคงเข้าใจนะว่าเราแต่งงานกันก็เพื่อความสมบูรณ์ของลูกเท่านั้น หวังว่าคุณจะเข้าใจนะครับ"
"ค่ะฉันเข้าใจดี"
"อีกอย่างนึงครับ ผมอยากให้เรามีการเว้นระยะเรื่องความเป็นส่วนตัว ผมจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณ คุณเองก็เช่นกันครับ ทำได้ไหม"
"ค่ะ ทราบค่ะ" ปากตอบไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับคิดว่าจนป่านนี้แล้วเขาไม่คิดจะสนใจเธอบ้างเลยหรอสักนิดก็ยังดีแต่นี่ไม่เลยหนักใจกับเขาจริงๆเลยงานนี้
ชายหนุ่มแยกตัวลงมาอยู่กับมีดี้ข้างล่างส่วนหญิงสาวเองก็เดินสำรวจห้องนอน ห้องนี้คือห้องที่อนาคตตัวเองจะต้องเข้ามาอยู่อาศัยมันสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำของบ้านจากมุมระเบียง ลมพัดเย็นสบายอากาศถ่ายเทเป็นอย่างดี หญิงสาวนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มแล้วนึกหมั่นไส้เธอจะทำให้หลงรักเธอจนหัวปักหัวปำเลยแหละคอยดูนะจะให้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือจะหนีไปไหนก็ไม่ได้ "ชิ คนเจ้าเรื่อง หน้าตาก็หล่ออยู่หรอกแต่นิสัยไม่อ่อนโยนเลย เย็นชาเป็นมนุษย์หิมะไปได้"
"มีดี้ลูก" หญิงสาวเดินลงมาจากชั้นบนแล้วเรียกลูกสาวตัวน้อยที่กำลังเล่นกับคุณปู่คุณย่า
"ขาาา คู๊นนนแม่"
"ได้เวลากลับบ้านเราแล้วลูก"
"โอเคค่าาา"
"สวัสดีทุกคนก่อนค่ะลูกสาว"
"สวัสดีทู๊กกกคนค่าา มีดี้กลับบ้านแย้วว เดี๋ยวมาเล่นกันใหม่ค่ะ"เจ้าหมูน้อยยกมือขึ้นไหว้สวัสดี
"แล้วเจอกันใหม่นะลูก ครั้งหน้าคงได้เจอตาคิน ยายครีม" คุณแม่พูดกับเด็กหญิงและหันไปบอกลูกชาย
เมื่อขึ้นมาอยู่ในรถหญิงสาวก็จับหมูน้อยนั่งประจำที่ที่คาร์ซิสส่วนตัว เธอกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กเล็กเวลาเดินทางไปไหน
"พร้อมหรือยังลูก กลับบ้านเรากัน"
"พร้อมม๊ากมากก ค่าา"
"หิวอะไรไหมลูก"
"หิวค่ะ ท้องหนูร้องค่อกๆ อีกแย้วว"
"โอเคค่ะ งั้นวันนี้ทำไข่ตุ๋นผักขมทานนะคะ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆค่ะ"
"ได้เลยค่าา"
"คุณแม่ขาา ทำไมคู๊นนนพ่อไม่มาอยู่กับเราค่ะ"
"คุณพ่อทำงานค่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็จะย้ายมาอยู่กับคุณพ่อนะลูก"
"ที่บ้านคุณย่าหรอคะ"
"ใช่ลูก หนูจะได้มีเพื่อนเรียนเยอะๆ"
"เย้ๆ ดีจังเลยค่าา"
"จ้าา" แล้วส่งยิ้มหวานกลับไปให้ลูกสาว
พ่อแม่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงตกลงกันได้แล้วว่าฤกษ์แต่งงานคือต้นเดือนหน้าซึ่งหลังจากแต่งงานแล้วเธอจะต้องย้ายมาอยู่บ้านฝ่ายชายเนื่องจากเหตุผลว่ามีคนช่วยเลี้ยงและดูแลมีดี้เยอะแถมบ้านยังใกล้กับโรงเรียนในอนาคตของมีดี้เสียด้วย วันนี้ชายหนุ่มเลยมารับหญิงสาวเพื่อไปลองชุดแต่งงานและถ่ายภาพ ลิลลี่เลยพาน้องมีดี้ให้มาอยู่ที่บ้านใหญ่กับคุณยาย "มาแล้วหรอลูกมาหายายมา" พูดแล้วคุณยายก็กวักมือให้หลานสาวเดินเข้ามาหา "อยู่กับยายนะลูกให้คุณพ่อคุณแม่ไปทำธุระกันก่อนนะคะ"
"โอเคค่าา หนูไม่ดื้อแน่นอนค่าา"
"จ้าๆยายเชื่อเลยไม่หนูไม่ดื้อออเล้ยย" เสียงสูงไปเลยเพราะวีรกรรมแสบๆของสาวน้อยคนนี้
"เดี๋ยวหนูทำธุระเสร็จจะรีบกลับมานะคะ ไม่มีดี้ห้ามดื้อตามที่บอกกับแม่นะคะ"
"สัญญาเย้ยย" จากนั้นก็ชูนิ้วก้อยขึ้นเกี่ยวก้อยกับคุณแม่ "คุณแม่รีบกลับนะคะ คิ๊ดดถึง"
"จ้าๆ บ๊ายบายค่ะ"
เมื่อมาถึงร้านลองชุดแต่งงานชายหนุ่มก็ให้อิสระในการเลือกแก่หญิงสาวเต็มที่ เพราะการแต่งงานคงไม่มีใครอยากจะแต่งหลายๆครั้ง จะแต่งทั้งทีก็เอาให้ถูกใจกันเป็นพอแล้ว
"ชุดนี้สวยไหมคะ รูปแบบนี้ดีไหม คุณลองชุดนี้จะเข้ากว่าค่ะ" ประโยคคำถามและบอกเล่าเกิดขึ้นไม่หยุดจนชายหนุ่มนึกขำกับหญิงสาวที่ดูจะจัดแจงทุกอย่างได้อย่างลงตัว "เพอร์เฟคที่สุดค่ะ คุณเห็นไหมว่าเราสองคนเหมาะสมกันที่สุดค่ะ" หญิงสาวพูดจบก็เอียงคอซบไหล่กว้างของชายหนุ่ม ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ในมุมมองของช่างภาพนั้นมองว่าจภาพที่กำลังถ่ายนั้นองศาดีมาก ถ่ายออกมาแล้วต้องสวยแน่นอน เมื่อภารกิจของวันนี้เสร็จสิ้นชายหนุ่มจึงพาหญิงสาวแวะรับประทานอาหารก่อนกลับ
"คุณอยากทานอะไรครับสั่งได้เลยนะครับ"
"ขอเป็นสปาเก็ตตี้ซอสแดงค่ะ"
"ผมเอาสเต็กปลาแซลมอนย่างครับ"
"น้ำดื่มรับอะไรดีครับ"
"ขอเป็นน้ำเปล่าค่ะ/ครับ"
"รอสักครู่นะครับ"
ระหว่างรออาหารชายหนุ่มก็ชวนหญิงสาวคุยเรื่องๆต่างๆมากมาย หนึ่งในนั้นคือเรื่องการแพ้อาหาร ชอบหรือไม่ชอบอะไร
"คุณแพ้อะไรบ้างครับ ผมแพ้กุ้งครับเสียดายไม่ได้กินอาหารทะเลอร่อยๆเหมือนคนอื่นเขา"
"ฉันไม่แพ้อะไรค่ะ มีแต่ที่ไม่ชอบ ฉันไม่ชอบผักชีค่ะฉันว่ากลิ่นมันฉุน แปลกใช่ไหมละคะ"
"ไม่แปลกหรอกครับคนเราก็ต้องมีสิ่งที่ไม่ชอบเป็นธรรมดาครับ ผมยังไม่ชอบกระเทียมเลย ตักออกตลอดครับ"
"ดีเลยค่ะเราคุยกันเปิดใจจะได้รู้ว่าชอบไม่ชอบอะไร จะได้ไม่ทะเลาะกันค่ะ"
"ครับผมก็คิดอย่างนั้น จะได้ดูแลคุณถูกครับเพราะยังไงคุณก็คือแม่ของลูกสาวผม"
"ค่ะ แหม่อย่างนี้คุยคงดูแลแฟนคนก่อนๆอย่างดีเลยสิคะ"
"ผมไม่ได้ดูแลใครเป็นพิเศษหรอกครับ"
"ไม่จริงหรอกค่ะ งานวันศิษย์ก่อนของคณะคุณยังดูแลผู้หญิงที่มากับคุณอย่างดีเลย"
"อ่ออ นั่นน้องสาวผมครับ ชื่อครีม จะไม่ดูแลให้ดีได้ยังไงคุณแม่กับนายคินโกรธตายเลยครับ"
"อะไรนะคะน้องสาวหรอคะ" หญิงสาวตกใจไม่หายนี่ก็แสดงว่าตลอดเวลาเธอเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าผู้หญิงที่เขาควงมาด้วยเป็นแฟน
"ครับ ตกใจอะไรขนาดนั้นครับ" ชายหนุ่มยิ้มขำ
"ฉันนึกว่าแฟนคุณค่ะ เข้าใจผิดนี่เอง" พูดจบก็ส่งหวานให้ชายหนุ่มพร้อมสายตาหวิบวับ ชายหนุ่มใจกระตุกเมื่อเจอมุกอ่อยขนาดนี้ของเธอ เฮ้อเขาจะทำใจแข็งได้อีกนานเท่าไรกันนะ