‘ทั้งต่ำตม ไม่มีสามัญสำนึก สารเลว และไม่มีวันเป็นผัวที่ดีของใครได้ มันคือคำด่าจากผู้หญิงคนเดียวกันที่นั่งหอบหายใจรวยระรินอยู่บนเตียงจากน้ำมือของเขา หล่อนไม่ได้อ่อนหัดอย่างที่เขาคิดเลยสักนิด’
“ตกลงว่าคุณจะรอป๊าผม”
“คนอย่างฉันรักษาคำพูดเสมอ คุณไม่ต้องห่วงหรอกกว่าฉันจะหลงบทพิศวาสอ่อนหัดของคุณง่ายๆ และไม่ต้องห่วงว่าฉันจะวิ่งหนีออกไปจากบ้านเพราะกลัวคำครหานินทา ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม ฉันก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องกลัวอะไร แต่คุณเองต่างหากที่ต้องกลัว คุณก็หาทางปิดปากคนรับใช้ในบ้านของคุณเองก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นคนที่จะถูกสัมภาษณ์ครั้งใหญ่ คงได้เป็นคุณแทน”
“คุณไม่เบาเหมือนกันนะ”
“ไม่ใช่เพราะฉันเบาหรอกเหรอ คุณถึงอุ้มฉันขึ้นมาวางบนนี้ราวกับฉันเป็นปุยนุ่น”
“ใช่ คุณไม่ได้หนักสำหรับผมเลย เอาเป็นว่าเรื่องของเราจะเป็นความลับ ป๊าไม่มีทางรู้แน่นอน”
“แน่ใจเหรอว่าพ่อของคุณจะไม่รู้”
“อย่าบอกว่า ป๊าก็ยังไม่รู้ว่าคุณยังบริสุทธิ์ผุดผ่องงั้นเหรอ”
“แล้วคุณคิดว่าป๊าของคุณจะรู้ไหมล่ะ”
หัสดินพูดไม่ออก แต่เขาก็ก้มลงสวมเสื้อผ้าลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องไป
ชายหนุ่มลงไปดื่มเบียร์ต่ออีกหน่อย จึงได้ขึ้นห้องไปนอน
อีกสามวันบิดาของเขาจะกลับมา เขาก็อาจจะไปนอนค้างบ้านเพื่อนสักระยะ หรือไม่ก็นอนที่ผับมันเลย เพราะไม่อยากให้ใครบางคนในบ้านหลังนี้อยู่ด้วยความอึดอัด
คืนนี้เป็นคืนที่สองแล้วที่หัสดินไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านหลังใหญ่ของเขา ชายหนุ่มเอาแต่ดื่มอยู่ที่ผับของตัวเองและกินอนที่นี่ และคืนนี้ก็เช่นเดียวกัน
“เฮ้ยไอ้ดิน มึงอกหักมาเหรอวะ ทำไมถึงดื่มสองคืนซ้อนแบบนี้ ไม่กลับบ้านไม่กลับช่อง”
“กูก็มาทำงานช่วยมึงไง”
“เออ กูขอบใจ แต่มึงทำตัวผิดปกติหรือเปล่าวะ กูรู้สึกว่ามึงแปลกๆไปว่ะ ปกติเห็นเรียกสาวมาชงเหล้าให้ แต่ทำไมสองคืนมานี้มึงถึงให้กูชงให้วะ”
“ถ้ามึงไม่อยากชงมึงก็ไปเลย กูชงเองได้”
“เออ กูชงห็ก็ได้ เออนี่ คืนนี้จะมีนักร้องคนใหม่มาร้องคืนนี้ด้วยนะ เพราะน้องที่ร้องเพลงอยู่ขอลากะทันหันหนึ่งคืน ก็เลยโทรไปขอร้องให้เพื่อนที่เคยร้องเพลงในผับมาช่วยร้องแทนหนึ่งคืน เห็นว่ามาจากภาคเหนือด้วยนะเว้ย คงจะสวยหวาน พูดเจ้าๆเป็นแน่”
“อืม”
“อืมแค่เนี่ย นี่แกไม่คิดจะสนใจสาวคนไหนแล้วเหรอ หรือว่าแกนอนกับผู้หญิงมาจนเบื่อแล้ว ตายด้านแล้วหรือไง ถึงไม่คิดจะสนใจใครอีก”
“ตอนนี้กูแค่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากให้ผู้หญิงมาเกาะแกะ น่ารำคาญ”
“เฮ้ยแกจะสี่ทุ่มครึ่งแล้ว นักร้องคนใหม่ใกล้มาถึงแล้วโว้ย ไปดูใกล้ๆไหม”
“ไม่ดีกว่า นั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้ยิน”
“กูให้มึงไปดูหน้าน้องเขา กูไม่ได้ให้มึงฟังเสียงของน้องเขา”
“แล้วมึงจ้างน้องเขามาขายหน้า หรือว่ามึงจ้างน้องเขามาขายเสียงล่ะ”
“เออ กูลืมคิดไป งั้นมึงก็นั่งดื่มเองชงเองอยู่ตรงนี้ไปก่อนแล้วกันนะ กูขอตัวล่ะ”
“อือ”
หัสดินดื่มต่อ แต่จู่ๆก็มีมือเรียวมาจับแก้วเครื่องดื่มของเขาวางเอาไว้ เขาเลยเงยหน้าขึ้นมามอง
“ที่แท้คุณก็มาเที่ยวผับนี่เอง ฉันนึกว่าคุณตายไปแล้วเสียอีก”
“ฟ้าวลัย คุณมาเที่ยวเหรอ ทำไมมาคนเดียว”
เขามองการแต่งกายวับๆแวมๆของเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า มันสวยเซ็กซี่บาดตา สวยแซ่บขยี้ใจจนอยากจะดึงเธอเข้ามาบดจูบ
คืนนี้เธอสวยจริงๆ และเซ็กซี่แบบสุดๆ แถมดูมีออร่าน่ามองไปหมดทุกสัดส่วน ทำให้ผู้ชายแถวนั้นมองเธอเป็นจุดเดียว
“ถ้าป๊ารู้ว่าคุณแต่งตัวแบบนี้มาเที่ยวผับ ป๊าคงโกรธคุณมาก”
“เสียใจด้วยนะ ชีวิตของฉันไม่ได้ทำตัวไร้สาระอย่างคุณไปวันๆหรอก ฉันมาที่นี่ ฉันไม่ได้มาเที่ยว แต่ฉันมาทำงานแทนเพื่อนของฉัน ที่พ่อเขาเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ฉันเลยจำเป็นต้องมาร้องเพลงแทน เพราะคำขอร้องของเพื่อน ขอตัวก่อนนะ ใกล้เวลาขึ้นร้องเพลงแล้ว”
ฝูงชนทั้งหลายเหมือนจะหลีกทางให้เธอได้เดินขึ้นไปบนเวที เมื่อนักร้องสาวได้หยิบไมค์ ได้ร้องเพลงที่เธอชอบและถนัด เธอก็สามารถสะกดคนฟังได้อยู่หมัดราวกับพวกเขาถูกสะกดให้ฟังเธอแต่เพียงผู้เดียว
รวมถึงหัสดินด้วยที่ฟังเธอร้องเพลงอย่างอึ้งๆ เธอร้องเพลงช้าได้ลึกซึ้งกินใจมาก พอร้องจบเพลงแรก ลูกค้าต่างก็เรียกร้องให้เธอร้องเพลงนั้นเพลงนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ
กระทั่งหมดชั่วโมงของเธอในคืนนี้ หญิงสาวก็ขอตัวกลับ ไพรัชจึงตั้งใจจะไปส่งเธอกลับที่พัก และตั้งใจจะจีบให้เธอมาร้องเพลงประจำอยู่ที่ผับของเขาด้วย แต่ยังไม่ทันที่นักร้องสาวจะทันได้ก้าวขึ้นรถของเขา ใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“เดี๋ยวกูไปส่งฟ้าวลัยเอง”
“ไม่เป็นไร กูไปส่งเอง”
“กูกับฟ้าวลัยกลับทางเดียวกัน กูไปส่งเอง”
“ไม่ต้อง บ้านของกูก็อยู่ทางเดียวกันกับบ้านของน้องเขาเหมือนกัน กูไปส่งน้องเขาเอง” ในใจของไพรัชเริ่มเดือดปุดๆละ รู้สึกเหมือนของรักของหวงกำลังจะถูกแย่งเอาไปซึ่งๆหน้า
“แต่กูกับฟ้าวลัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน ทีนี้มึงจะให้กูไปส่งเธอได้หรือยัง”
ไพรัชอึ้งเป็นไก่ตาแตก