ตอนที่ 2 โลกกลมหรือพรหมลิขิต

897 คำ
ตอนที่ 2 โลกกลมหรือพรหมลิขิต พบเจอกันครั้งแรก…คนเรียกกันว่ามันคือเรื่องบังเอิญ พบเจอกันครั้งที่สอง…ยังนับได้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไร ทว่าพบเจอกันครั้งที่สาม…เธียรธาราอยากตอบแบบเข้าข้างตัวเองว่ามันคือพรหมลิขิตจริงๆ บนรถทัวร์อากาศเย็นจัด เนื่องจากเครื่องปรับอากาศและเพราะข้างนอกฝนตก แว่นตากรอบหนาของเธียรธารายังคงปรากฏไอหมอกบางเบา ทว่ากระนั้นแล้วหญิงสาวกลับจดจำเงาร่างของคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ได้อย่างแม่นยำ ห้าก้าว… ชายหนุ่มเหมือนจะเห็นเธอแล้ว สี่ก้าว… ตรงอกซ้ายของเธอกระตุกวูบ สามก้าว… ใจที่กระตุกค่อยๆ เต้นแรงขึ้นอย่างไม่อาจหักห้ามได้ สองก้าว… หญิงสาวคว้าหูฟังขึ้นมาเสียบพร้อมกับเปิดเพลงในโทรศัพท์มือถือเสียงดัง ทำทีเป็นบิดขี้เกียจและ… หนึ่งก้าว… เธอหลับตาลง ศีรษะพิงกับกระจกรถทั้งๆ ที่ยังสวมแว่นตาอยู่ กลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ลอยกรุ่นในอากาศ พร้อมกับที่เบาะข้างตัวยวบลง ไออุ่นจากคนข้างกายกำลังย้ำเตือน อาจเป็นพรหมลิขิตจริงๆ ก็ได้ อิราเอียงหน้ามองคนตัวเล็กกว่า เธอหลับตาลงขณะที่เสียงเพลงจากหูฟังดังออกมาจนเขาได้ยินชัดแจ๋ว ที่สำคัญตอนหลับแบบนี้เธอเองก็ยังไม่ยอมถอดแว่นตาเสียนี่ ครืด~ ครืด~ ครืด~ “ครับปู่” ชายหนุ่มรับโทรศัพท์เสียงเบา เขาละสายตาจากใบหน้าของหญิงสาว จดจ่อกับประโยคสนทนาของปลายสายที่ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง “ฝนตกหนักเลยทำให้งานช้ากว่าที่คิด ผมตกเครื่องด้วย ตอนนี้อยู่บนรถทัวร์ครับ” ถึงแม้ว่าจะมีสมาธิกับปลายสาย แต่อิราก็สังเกตเห็นว่าคนข้างๆ กำลังขดตัวเพราะความเย็น ชายหนุ่มเลิกคิ้วกวาดตามองหาผ้าห่มที่ติดมากับที่นั่ง สักพักจึงเห็นว่ามือบางจัดการคลี่ผ้าห่มคลุมตัวเองทั้งๆ ที่ตายังปิดสนิทอยู่ ขี้เซาจริง “ครับปู่ ถึงแล้วผมจะโทรบอกครับ” ดึกดื่นค่อนคืน ในรถมีแต่เสียงแอร์เย็นและเสียงลมหายใจอันสงบนิ่งของคนรอบตัว อิรานอนไม่หลับมาตลอดทาง อาจเป็นเพราะไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเดินทางแบบนี้นัก จึงทำให้เขาไม่สบายตัวสักเท่าไร จะมีก็แต่หญิงสาวแปลกหน้าข้างตัวนี่ล่ะ ขี้เซาจนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เธอกำลังหนุนไหล่เขาอยู่ กลุ่มผมดำขลับกรุ่นกลิ่นหอมกำจาย กระนั้นก็แลดูยุ่งเหยิงปกคลุมใบหน้า แว่นตาเอียงกระเท่เร่ จนอิราไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี เห็นเธอขดตัวกลมก็อดไม่ได้ที่จะเสียสละผ้าห่มให้เธออีกผืนหนึ่ง รถจอดพักให้ผู้โดยสารทานอาหาร อิราจึงคิดลุกไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อย เห็นทีจะมีแต่หญิงสาวที่นั่งข้างกายเขานี่แหละที่ไม่คิดจะลุกไปไหน ครั้นไฟในรถโดยสารเปิดสว่าง เธอก็หยีตาด้วยความรำคาญ แว่นตาเอียงกระเท่เร่ จากนั้นจึงใช้ผ้าห่มต่างหมอนแล้วนอนหนุนกระจกหน้าต่างอีกครั้ง เมื่ออิรากลับมาจึงเห็นว่าหญิงสาวขี้เซาคนนี้ได้ท่านอนท่าใหม่อีกแล้ว แขนข้างหนึ่งของเธอเบียดหน้าต่างไว้ หูฟังคล้องคอไว้ ผ้าห่มที่ตู่เป็นของตัวเองกองอยู่บนตัก ขาเรียวภายใต้กางเกงยีนเหยียดไปใต้เบาะของคนข้างหน้า อิรามองภาพนั้นครู่ใหญ่จึงนั่งลง ทว่าประกายบางอย่างก็สะท้อนเข้านัยน์ตาของชายหนุ่มจนต้องหันไปมองหญิงสาวอีกครั้ง หยกน้ำผึ้งรูปทรงคุ้นเคยปรากฏในครรลองสายตา ตัวหยกน้ำผึ้งผูกไว้ด้วยเชือกสีดำอย่างง่าย ทว่าภาพบางอย่างที่ซ้อนทับตรงหน้าทำให้อิราตัวชาวาบ จู่ๆ ในอกก็กระตุกวูบ ในท้องพลันบิดมวนวูบโหวง ความรู้สึกอย่างหนึ่งปะทุขึ้นมาเสียจนดวงตาคมคลอไปด้วยน้ำตา แม้ไม่ใช่ แต่กลับคล้ายคลึง แม้ไม่เหมือน แต่กลับทำให้ใจสั่นไหวเหลือเกิน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะ รีบเบนสายตาหนี หัวใจของเขาเต้นแรง ลมหายใจหอบถี่คล้ายกับคนที่เพิ่งผ่านการวิ่งระยะไกล แผ่นหลังพลันหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ เป็นไปได้หรือ…พบกันแล้วหรือ? เขามองร่างเล็กตรงหน้าตาค้าง ในใจสับสนวุ่นวาย จากที่คิดว่าจะพักสายตาสักหน่อย ตอนนี้กลายเป็นว่าข่มตาไม่ลงเสียแล้ว ฟุบ! ศีรษะเล็กๆ เอนซบเขาอีกครั้ง ครานี้อิราสะดุ้งตัวโยน ใจเต้นแรงเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆ กลิ่นหอมหวานที่แผ่กำจายมา ปลุกเร้าความทรงจำเก่าก่อนราวกับน้ำป่า สับสนระคนยินดี ก่อนหน้านี้ที่พบเธอโดยบังเอิญ เป็นเพราะเขายอมทำตามสัญชาตญาณส่วนลึกในใจ และความรู้สึกนี้ ก่อนหน้านั้นเขาเคยได้สัมผัสมันจากคนคนหนึ่ง คนที่ไม่เคยเห็นหน้าตา...แต่กลับสัมผัสถึงตัวตนได้จากตัวอักษรที่ส่งมาทุกครั้ง กระทั่งวันหนึ่งเขาหายไปและไม่ได้ติดต่อคนผู้นั้นอีกเลย เราเดินตามหากลิ่นนั้น…กลิ่นดอกแก้ว ตอนนี้ดอกแก้วกลับมาหาพี่แล้วหรือไม่?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม