ในเช้าวันพิธีจบการศึกษาระดับไฮสคูลของนาเดียร์ ต้าเซียนเดินออกมาจากห้องนอน เขาเห็นด้านหลังของเธอที่สวมเสื้อคลุมของสถาบันเรียบร้อยแล้วกำลังยืนมองภาพของคุณหมอ พ่อของเธออยู่
“ไว้ใจพี่นะ” เสียงของเขาดังออกมาเบาๆ ยามที่เขาเดินมายืนด้านหลังของเธอ เธอยิ้มเพราะไม่บ่อยนักที่ต้าเซียนจะแทนตัวกับเธอว่า ‘พี่’ เธอหันกลับไปมอง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาสวมสูทสีเข้ม ทำให้ผิวที่เปล่งประกายออร่าออกมาดูขับกันน่ามองจนยากนักที่แม้แต่เธอเองที่จะละสายตาจากออกมาได้
อะแฮ่ม!!! เขากระแอมออกมา แววตาที่เธอมองมาเขาอดไม่ได้จะเคอะเขินไม่ได้ จึงทำให้เธอต้องดึงตัวเองกลับมาจากภาพตรงหน้าด้วยแก้มที่แดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้ เธอยิ้มออกมาอย่างเขินๆ ต้าเซียนเสหันไปมองทางอื่น ไม่บ่อยนักที่ต้าเซียนจะใส่สูท โดยปกติเขาสวมเชิ้ตแขนยาวและทับด้วยโค้ทตามสภาพอากาศของชิคาโก แต่จะแบบไหนต้าเซียนก็งดงามชวนมองยิ่งนัก
ณ สถานที่จัดงานพิธีจบการศึกษาระดับไฮสคูล นาเดียร์เดินเข้าไปในพื้นที่งานมองบรรยากาศผู้คนมากมาย ทั้งนักเรียนที่จบการศึกษาและผู้ปกครองที่มาร่วมงานเป็นกำลังใจให้กับบุตรหลานของตนกันอย่างมากมาย เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อมองใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้นที่แสดงออกถึงความสุขกันอย่างล้นปรี่
เธอและต้าเซียนเดินไปยังแบ็คดรอป [Back drop] ของงาน ซึ่งต้องเข้าคิวต่ออีกสามสี่คิวเพื่อเข้าไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี ซึ่งมีช่างภาพของโรงเรียนพร้อมอยู่แล้ว
ต้าเซียนหันมามองเธอที่เดินเข้าไปถ่ายภาพเดียวกับแบ็คดรอป ก่อน รอช่างภาพส่งสัญญาณเรียกเขาเข้าไปเพื่อเก็บภาพความทรงจำระหว่างเขาและเธอไว้
“ครั้งต่อไป คงเป็นฉันสินะที่จะเป็นฝ่ายยินดีกับพี่” ต้าเซียนหันไปยิ้มเล็กๆกับเธอในขณะที่เธอเองก็หันไปมองเขาอยู่ก่อนแล้ว และกลายเป็นว่าภาพนั้นได้ถูกบันทึกลงหน่วยความจำกล้องของช่างภาพไว้อย่างเหมาะเจาะเมื่อช่างกล้องรู้สึกว่าความเป็นธรรมชาติของพวกเขาช่างน่าดึงดูดสายตาคนรอบข้างไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเอง
เมื่อการเก็บภาพความทรงจำเสร็จสิ้นนาเดียร์จึงเดินไปลงชื่อให้กับเจ้าหน้าที่ช่างภาพ ก่อนที่จะเดินกลับมาที่ต้าเซียนอีกครั้ง
“นาเดียร์” เสียงเรียกแสนคุ้นเคย
“เฟย่า” นาเดียร์ทักทายเพื่อน เฟย่าที่เดินเข้ามาใกล้ทักทาย ต้าเซียนเช่นกัน
“สวัสดีค่ะแซม”
“สวัสดี” ต้าเซียนทักทายกลับตามมารยาท และนั่นทำให้เฟย่ารู้สึกหม่อนหมอง สายตาต้าเซียนไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรในนั้นเลย ทั้งๆที่เขาเองก็รู้ว่าเธอชอบเขา และเธอก็โดนปฎิเสธไปแล้ว แต่ทำไมนะเขาถึงยังเป็นที่ต้องการของหัวใจเธอยิ่งนัก “เชิญตามสบายนะ เดี๋ยวฉันไปนั่งเลยแล้วกัน”
ต้าเซียนโน้มหน้าลงใกล้นาเดียร์กระซิบแผ่วเบาเมื่อรอบข้างเสียงผู้คนดังมากกว่าปกติ นิสัยอันเป็นปกติของเขาคือไม่ชอบพูดเสียงดังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การกระทำแบบนั้นถ้าคนอื่นที่ไม่รู้จักสองคนนี้ก็คงคิดได้แบบเดียวคือทั้งสองคนมีความสัมพันธ์พิเศษกันอย่างแน่นอน
“อื้ม” นาเดียร์หันไปยิ้มกับเขาก่อน “เราไปกันเถอะ” และหันมาพูด กับเฟย่าที่ยืนข้างเธอที่สายตาของเฟย่ามองแต่ต้าเซียนไปตลอดการย่างก้าวที่แยกจากไปของเขา
“นาเดียร์ เธอตัดสินใจเรื่องหอเหรอยัง?” นาเดียร์เหวอๆกับคำถามนั้นของเฟย่า เพราะเธอรู้สึกผิดที่เธอไม่ได้เอาไปคิดต่อ แค่บอกต้าเซียนไปแล้ว ซึ่งจะว่าไปเธอเองก็ไม่ได้อยากย้ายออกไปเลย
“เอ่อ!...ฉันบอก ต้า...เอ่อ...แซมไปแล้ว แต่เขายังไม่ได้ให้คำตอบ เฟย่าเธอไม่โกรธฉันนะ”
“อ๋อ! ไม่เลยฉันก็แค่่ถามนะ แต่นาเดียร์เธอพูดเหมือนว่า เธอไม่ได้อยากย้ายออกมา” นาเดียร์หลบตา เพราะนั่นเป็นความรู้สึกจริงของเธอ เธอไม่ได้อยากย้ายจริงๆ สำหรับเธอไม่ง่ายนักที่จะไปอาศัยอยู่ร่วมกับคนอื่น ชีวิตเธอมีแต่พ่อมาตลอด และตอนนี้เธอมีต้าเซียนแล้ว ‘พี่ชาย’ เธอไม่ใช่คนที่จะเปิดรับใครเข้ามาในชีวิตได้ง่ายๆ เฟย่าเป็นเพื่อนถึงแม้จะสนิทที่สุดก็ตามทีแต่เฟย่าก็เป็นเพื่อน เพื่อนที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต และเพื่อนที่ไม่ได้เข้าใจเธอเหมือนกับต้าเซียน ตอนนี้เขากลายเป็นส่วนใหญ่ของชีวิตเธอไปแล้วอย่างไม่รู้ตัวเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น ความรู้สึกนี้เธอไม่ปฎิเสธเลยว่าเขารู้จักเธอยิ่งกว่าที่เธอรู้จักตัวเองเสียอีก หนึ่งปีที่ผ่านมาทำให้เธอวางใจที่จะมีเขาแบบนี้ เขาเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของเธอไปแล้ว ‘ต้าเซียน’
“เอ่อ...ขอโทษครับ” นาเดียร์และเฟ่ย่าหันไปตามเสียงทักทายนั่นชายหนุ่มที่ถูกสองสาวหันมามอง ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“คุณทักเราสองคนเหรอคะ?” เป็นเฟย่าที่ถามกลับ
“เอ่อ! ก็ไม่เชิงครับ ผมมาพบคุณสุ่ยถิง” นาเดียร์มองชายตรงหน้าอย่างสนใจมาทันที มีไม่มากนักที่ใครจะรู้จักชื่อจีนของเธอ ‘สุ่ยถิง’
“ฉัน” นาเดียร์ชี้มาที่ตัวเองอย่างแปลกใจ และพิจารณามองชายตรงหน้าอีกครั้งว่าเธอจะรู้จักเขามั้ย ดูยังไงก็ไม่ใช่ลูกครึ่ง แต่เขาออกเสียงชื่อเธอได้อย่างชัดเจนและบางอย่างทำให้เธอคิดว่าชายตรงหน้ารู้ภาษาจีนกลางด้วย
“ครับ ผมไบรอัล ท่านหยางส่งผม...เอ่อ...คุณ!!!!” ไบรอัล พูดได้เพียงแค่นั้น เพียงแค่นามของใครคนหนึ่งหลุดออกมา ทำให้นาเดียร์คว้ามือเฟย่าและวิ่งเข้ากลุ่มฝูงชนไปอย่างรวดเร็ว
เฮ่อออออ! นาเดียร์หอบหายใจ เมื่อเธอเอาแต่มุดๆแทรกฝูงชนไปให้ห่างจากคนนั้น
“นาเดียร์...มันเรื่องอะไร?” เฟย่าที่หอบหายใจด้วยเหมือนกัน พยายามเค่นเสียงถามออกมา
นาเดียร์ที่ก้มหน้าหอบหายใจอยู่อย่างแปลกใจว่าแค่การเดินเร็วแค่นั้นทำไมเธอถึงรู้สึกเหนื่อยเกินความจำเป็นนะ แค่ตอนนั้นเธอตกใจมาก
“ไม่รู้” เฟย่ามองนาเดียร์อย่างเหลือเชื่อกับคำตอบ แต่ไม่ทันที่เฟย่าจะเค้นคำตอบเพื่อสนองความอยากรู้ของตัวเอง เสียงประกาศเรียกก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เสียงเรียกรวมตัวของนักเรียน