พรึ่บ~ จู่ๆสมองผมมันสั่งการให้ดีดตัวขึ้นนั่งแต่ยังคงหลับตาอยู่
"ไอเหี้ยกูตกใจหมด อะไรของมึงวะ" ผมได้ยินเสียงไอกันต์โวยวายอยู่ข้างๆ ผมจึงหันไปมองที่ไอกันต์อย่างช้าๆแล้วค่อยๆเปิดตาขึ้นผมจึงหรี่ตาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ
ผลั่ก~
"มึงจะทำเหี้ยอะไรของมึง เมาแล้วเพี้ยนไอนี่" ไอกันต์มันผลักจนผมเอนตัวนอนลงไปบนโซฟา
"เมิงจาผลักกทำมายยยย" ไอนี่แม่งแรงเยอะชิบหาย เหี้ยเอ้ยผมไม่น่าแดกรวดเดียวเลย ไม่คิดว่ามาถึงที่นี่แค่แปปเดียวจะได้หัวทิ่มสมใจ แต่มันก็ไวเกินไป ผมอยากดื่มกับเพื่อนนานๆกว่านี้
"มึงเป็นอะไรของมึงวะ ถึงแดกขนาดนี้" มันยังจะมีหน้ามาถามคนเมาอีก ผมเลยต้องรวบรวมสติแล้วกลับมาลุกขึ้นนั่ง
คร่อกกก
ผลั๊วะ
"ไอเหี้ยเมาแล้วเสือกหลับอีก" แม่งตบหัวผมอีกละ ละไม่รู้เป็นห่าอะไรชอบตบลงตรงกางกบาลทุกที
"ตบกูอีกแล้วววไอเหี้ยกันต์ กูขอตั้งสติหน่อยได้ไหมวะ" แม่งสร่างเลยกู
ผมลูบหัวรัวๆเพราะความเจ็บที่ไอกันต์มันมอบให้
"ทำไมเหล้ามันแรงขนาดนี้วะ" เมื่อตั้งสติได้ผมจึงถามมันออกไป แต่ตอนนี้ผมยังรู้สึกหนักๆหัวอยู่
"ก็เหล้าปกติ เสือกกระดกแดกเพียวๆจากที่เต็มขวด ไม่เมาก็บ้าละ แล้วมึงมาที่นี่เพื่ออยากมาแดกเหล้าแค่นี้ แล้วไอทอยหล่ะปกติจะมากับมึงด้วยหายไปไหนทำไมมึงมาคนเดียว" ถามเยอะถามแยะจริงไอกันต์
"กูควรตอบคำถามไหนก่อน"
"มาเพื่อแค่แดกเหล้า"
"เปล่า มีเรื่องอยากระบาย" ผมตอบมันออกไปตามความจริง มันก็แค่เซ็งๆนิดหน่อย ไม่อยากอยู่คนเดียวที่เพนส์เฮาส์เดี๋ยวจะฟุ้งซ่าน
"อ่ะ ว่ามากูพร้อมฟัง" ผมจึงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเล่าเหตุการณ์ให้มันฟังว่าวันนี้ผมเจออะไรมาบ้าง ถ้าถามว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ไหมก็ไม่ขนาดนั้น(สำหรับผมนะ) แต่บางคำพูดของพ่อผมที่หลุดปากออกมามันก็แอบบั่นทอนไม่มากก็น้อย แถมยังมาบังคับนู่นนี่นั่น
"มึงไปเอาใครไม่เอา ไปเอาคนที่ใกล้ตัวพ่อมึง ก็สมควรที่พ่อมึงจะด่า" มาเพื่อให้ปลอบไม่ใช้มาเพื่อให้ซ้ำเติม
"วู้ววว อารมณ์เสียเว้ย" พูดละก็หยิบขวดเหล้ามากระดกอีกสักอึกสองอึก ในขณะที่กำลังจะกระดกขวดเหล้าเข้าปาก ผมก็ต้องหยุดชะงัก แล้วหันไปมองไอคนที่นั่งอยู่ข้างๆ มันกำลังจ้องผมเขม็ง ผมเลยค่อยๆวางขวดเหล้าของมันลงไปที่โต๊ะเหมือนเดิม วางในองศาเดิมเป๊ะๆ แล้วหัวเราะแบบแหยะๆใส่
"คนอย่างมึงสมควรโดนพ่อตัดออกจากกองมรดก" กูเพื่อนมึงนะ ทำไมพูดหมาๆแบบนี้วะ
"แค่เอาผู้หญิงเนี่ยนะ มันก็เรื่องปกติป่ะวะ"
"เออมันปกติ แต่มึงเสือกไปทำเรื่องเหี้ยๆใส่คนใกล้ตัวพ่อมึงไง มันเลยดูไม่ปกติ"
"พ่อมึงเขาด่าเพราะเขาห่วง แล้วทุกคนในบริษัทก็รู้ว่ามึงเป็นลูกชายของประธานบริษัทแต่เสือกทำตัวแดกไม่เลือกแบบนี้ แล้วถ้ามึงอยากเยx มึงก็ไปซื้อกินข้างนอกสิวะ โง่ให้พ่อจับได้ทำไม"
"นี่มึงเป็นพ่อกูอีกคนหรอวะไอกันต์" ผมตอบมันออกไปอย่างหงุดหงิด
"แล้วยังจะแดกอีกไหมเหล้าอ่ะ"
"ไม่อ่ะ แต่กูขออยู่กับมึงสักพักก็แล้วกัน" ในระหว่างที่ผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยๆจู่ๆภาพหน้าผู้หญิงที่ผมเจอที่ลานจอดรถก็ลอยเข้ามาในหัว
"จะได้เจออีกไหมว๊า" ผมพูดพึมพำอยู่คนเดียว
"เจออะไรวะ" เสียงไอกันต์ลอยเข้ามาทำให้ผมหยุดคิดเรื่องเธอไปชั่วครู่
"เจอคนสวยแต่โง่"
"ยังไงวะสวยแต่โง่" แล้วผมก็เริ่มเล่าเรื่องที่ผมเจอผู้หญิงที่ลานจอดรถให้มันฟัง
"คงรีบแหล่ะมั้ง ผู้หญิงก็แบบนี้ มึงก็ไม่น่าไปว่าเขาเลย น่าจะดูที่เจตนาก่อนว่าเพราะอะไร"
"ก็รู้แล้ว เป็นมึงมึงจะไม่อารมณ์เสียหรอวะ พรุ่งนี้กูกะว่าจะไปถามที่ฝ่ายHRว่าไม่ต้องรับผู้หญิงคนนั้นเข้าทำงาน"
"เว่อร์ไอเดย์ กับอีแค่จอดรถขวางทาง มันไม่ได้ไปกระทบกับเรื่องงานสักหน่อย อีกอย่างถึงเขาจะได้งานที่บริษัทพ่อมึงแล้วมึงคิดว่ามึงจะได้ร่วมงานกันเจอเขาทุกวันว่างั้น ทั้งที่มึงก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศทุกวันอยู่แล้วเนี่ยนะ" เออหว่ะ เห็นบอกว่าสมัครฝ่ายบัญชี ซึ่งผมไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปดีลอะไรกับฝ่ายนั้นอยู่แล้ว คงเป็นเพราะตอนนั้นอารมณ์ผมมันกำลังขุ่นเลยคิดอะไรแบบนั้นออกไป
ผมจึงเลือกไม่ตอบโต้ไอกันต์ มันคงเห็นผมเงียบเลยเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานต่อ ไอนี่แม่งก็ขยันไม่หยุด
"สรุปเหมือนเดิมไหม"
"เออ ขอเด็ดๆ"
ไอกันต์มันเลยเรียกลูกน้องที่อยู่หน้าห้องให้ไปเอาผู้หญิงสวยๆมาบำเรอผม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ผมหันไปยังหน้าประตู ก็เห็นกับหญิงสาวนุ่งเดรสสั้นสีแดง ปากก็แดง รองเท้าเขียวด้วย ไอเหี้ยสงสัยเกิดวันคริสมาสต์
ผู้หญิงเธอหันไปมองทางไอกันต์ก่อน ไอกันต์ก็เลยเพยิดหน้าเป็นการเชิญว่าให้ผู้หญิงเข้าไปหาผม
ผมจึงเาอมือตบลงไปที่เบาะโซฟาสามที เธอจึงเดินฉีกยิ้มตรงมาหาผมทันที
เธอหย่อนสะโพกลงนั่งแนบชิดกับตัวผม แล้วใช้นิ้วเรียวสวยของเธออปัดป่ายไปที่หน้าอก หืมมมซนแบบนี้จะจัดให้กนักเลย "อยากทำตรงนี้หรือว่าไปทำที่อื่นดีคะ" ผมกดยิ้มมุมปากพอใจกับคำถามของเธอ ดีไม่ต้องพูดอะไรมาก
ไม่รอช้าผมจับมือเธอแล้วหยัดตัวลุกขึ้น เธอจึงลุกขึ้นตาผมเลยจูงมือเธอเพื่อที่จะออกไปหาที่เยxกันที่อื่น
"โชคดีนะไอเดย์" เสียงไอกันต์ลอยมาพูดกับผม ผมจึงหันไปเพยิดหน้าใส่ แล้วเดินออกประตูไปพร้อมกับสาวชุดคริสมาสต์ทันที ผู้หญิงคนนี้มึงก็มั่นนะ เสื้อแดงรองเท้าเขียว แต่ก็ช่างเหอะ ผมแค่ต้องการปลดปล่อยเท่านั้น
เมื่อมาถึงยังลานจอดรถผมเปิดประตูให้ผู้หญิงสาวชุดแดงขึ้นไปนั่งส่วนผมก็รีบอ้อมไปเปิดประตูทางฝั่งคนขับ แล้วรีบขับรถออกจากผับทันที
เมื่อขับมายังตรงข้างหน้าผับ ผมสังเกตุเห็นผู้หญิงคนนึงเธอคล้ายกับผู้หญิงที่ผมเจอที่ลานจอดรถของบริษัทเลย
"เชี่ย ใช่จริงด้วย เที่ยวที่นี่ด้วยหรอวะ" ผมพูดออกมาเสียงดังจนผู้หญิงที่นั่งข้างๆต้องเอ่ยถาม
"ใช่อะไรหรอคะ"
"เธอลงไปก่อน วันนี้ไม่สะดวก" ผมตอบแต่สายตายังคงจับจ้องมองที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่
"อะไรนะ นี่จู่ๆจะทิ้งฉันไปเลยหรอ เพิ่งขับมาอยู่แค่หน้าผับเนี่ยนะ" ผู้หญิงที่นั่งข้างๆเธอเริ่มโวยวาย จะอะไรนักหนาวะก็บอกว่าไม่สะดวกแล้ว
เธอมองหน้าผมแล้วฟึดฟัดใส่ เพราะผมนิ่งไปแต่สายตายังคงมองตามผู้หญิงที่ผมเจออยู่
"คราวหน้าอย่ามาเรียกใช้อีกละกัน" โถ่อีชะนี มึงคิดว่าตัวเองสำคัญมากสิ เธอพูดจบเธอลงไปจากรถผมทันที ผมไม่ได้สนใจว่าผู้หญิงเดรสสั้นจะเดินไปทางไหน
จากนั้นผมจึงตัดสินใจเลี้ยวรถกลับเข้าไปยังที่จอดรถแต่ไม่ใช่ที่ด้านบนตึกแต่เป็นหน้าร้านผับเมื่อลงจากรถผมจึงโยนกุญแจให้กับเด็กเก็บรถมาขับไป พวกมันรู้ว่าผมเป็นใคร ผมจึงไม่ได้ห่วงรถผมมากนัก
ผมชะเง้อมองหาว่าเธออยู่ตรงไหน ตอนนี้เธอกำลังเดินเข้าไปในร้านผมจึงรีบสาวเท้าเดินตามเธอไปติดๆ
อยากรู้ว่าเธอมาคนเดียวหรือเปล่าหรือว่านัดใครไว้