บทที่2
รูมเมทตัวร้าย
การเดินทางมากรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพราะแม่ของเธอค่อนข้างขับรถช้าหากเป็นพ่อคงจะถึงตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรกแล้ว มาถึงคอนโดข้าวปั้นกับคุณแม่ก็ช่วยกันขนของสัมภาระขึ้นมาแต่คุณแม่มีงานด่วนต้องไปทำจึงไม่ได้อยู่ช่วยอะไรลูกสาวมาก ตอนแรกกะจะนอนกับลูกสาวสักคืนแต่ทว่าสามีโทรมาตามให้รีบกลับด่วนเพราะที่โรงงานเกิดปัญหาใหญ่ของไม่พอส่งให้ลูกค้าคุณแม่จึงต้องรีบขับรถกลับต่างจังหวัดในวันนี้เลย
ข้าวปั้นเก็บของเข้าห้องเสร็จแล้วก็เดินออกมาชมบรรยากาศที่ระเบียงห้องนี้ราคาเช่าต่อเดือนคือ 25,000 บาทถือว่าแพงมากสำหรับเธอ
"อยากรู้จังว่ารูมเมทจะเป็นใครถามแม่ แม่ก็บอกไม่รู้อย่างเดียว" ข้าวปั้นเดินมานั่งที่โซฟาสายตาก็มองไปยังประตูห้องฝั่งตรงข้ามเธอไม่รู้ว่าผู้อาศัยร่วมกับเธอจะเป็นใครตอนที่พี่ชายเธอเรียนก็ได้ข่าวว่าอยู่กับรูมเมทจนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทช่วยกันบริหารธุรกิจด้วยกันแต่พี่ชายของเธอแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว
ข้าวปั้นเดินกลับเข้าห้องก่อนจะหยิบ iPad ขึ้นมาเปิดซีรีส์ดูวันนี้เธอขอใช้เวลาจัดห้องให้เข้าที่เข้าทางส่วนวันพรุ่งนี้เธอมีนัดกับแพรวและน็อตไปเที่ยวสยามด้วยกัน
ไม่รู้ว่าเข้าบ้านหลับไปนานเท่าไหร่รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนตะวันตกดินเธอรีบตื่นขึ้นมาเพราะว่าคุณแม่ของเธอซื้ออาหารแช่แข็งมาแช่เอาไว้ให้หากเธอหิวก็นำไปอุ่นไมโครเวฟได้เลย
"โอ๊ยหิวจัง" เสียงของข้าวปั้นดังออกมาจากห้องเธอมองไปยังโซฟาหน้าทีวีจอใหญ่ตอนนี้อาหารแช่แข็งของเธอถูกนำมาอุ่นพร้อมกับมีร่องรอยของการทานแต่เธอไม่เห็นคนร้ายที่มาขโมยอาหารของเธอไปทาน
สายตาของข้าวปั้นมองตรงไปยังห้องฝั่งตรงข้ามเธอเดินปรี่เข้าไปจากนั้นก็ทุบประตูดัง ปัง! ปัง! ปัง!
"นี่คุณทำไมมาขโมยของฉันไปทานแบบนี้!!" ข้าวปั้นตวาดเสียงดังลั่นเห็นทีจะอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ววันแรกก็ขโมยของเธอเลย
เธอตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่มีใครมาเปิดประตูจนกระทั่งประตูคอนโดถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างของชายสูงโปร่งที่เธอคุ้นเคย
"มายืนหน้าห้องฉันทำไมจะขโมยอะไรฮะ" คีตะเอ่ยถามในมือถือขนมจากร้านสะดวกซื้อด้านล่าง
"คีตะ!! ทำไมนายไม่อยู่ที่นี่ ยะ อย่าบอกนะ ว่านายคือรูมเมทของฉัน!!'
"ก็เออดิตอนแรกแม่ฉันก็ไม่ได้บอกว่าต้องมาอยู่กับเธอแม่งซวยฉิบหาย-__-!"
"ซวยเหรอฉันสิต้องซวย! คนอย่างนายทำฉันเสียประสาทแน่ ไม่ได้ฉันไม่ยอมฉันจะย้ายออกหรือไม่นายก็ออกไปเลย!"
"นี่มันคอนโดของบ้านฉันเธอนั่นแหละที่ต้องออกไปให้มาอยู่ฟรี ๆ ยังจะพูดมากอีก"
"อยู่ฟรีอะไรก็แม่บอกกับฉันว่าต้องหาคนมาช่วยออกค่าคอนโดไง" เธอกะไว้อยู่แล้วเชียวแม่เธอไม่มีทางเสียเปรียบใครถึงว่าทำไมถึงยอมให้ลูกมาอยู่กับคีตะที่แท้จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่านี่เองร้ายนักคุณเขมมิกา!
สุดท้ายข้าวปั้นก็ต้องจำใจอยู่ที่นี่เพราะฝืนเธอแบกหน้าออกไปอยู่ที่อื่นก็คงต้องเสียเงินอีกหลายบาทเธอจึงทำข้อตกลงโดยการยืนประจันหน้ากับคีตะพร้อมแบ่งอาณาเขตอย่างชัดเจน
"นายห้ามเข้ามาวุ่นวายในห้องฉันเด็ดขาดแล้วของกินอันที่เขียนชื่อเอาไว้ห้ามยุ่ง!"
"อืม-__-!"
"แล้วก็อีกเรื่องช่วยรักษาความสะอาดด้วยเพราะว่าห้องน้ำใช้รวมกันห้องครัวก็เหมือนกันทำอะไรแล้วต้องเก็บไม่ใช่ปล่อยไว้แบบนี้!"
"อืม-__-!
"นี่อีก! นี่อีก! ห้องน้ำห้ามเอาผ้าที่ใส่แล้วมาห้อยไว้แบบนี้เอาไปใส่ตะกร้าผ้าของนายให้เรียบร้อยเก็บไปสิ!!"
คีตะทนความรำคาญไม่ไหวรีบเดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าในห้องน้ำแล้วโยนเข้าห้องตัวเองไปหน้าตาเฉยเขาชักรำคาญผู้อาศัยคนนี้เสียแล้ว
"อ้อแล้วก็มีอีกเรื่องนึงฉันนัดแพรวกับน็อตมาที่คอนโดวันพรุ่งนี้ถ้านายสนใจจะออกมานั่งคุยกันทำอะไรกินกันก็ได้แต่ต้องช่วยออกเงินด้วย"
"อืม-__-!"
"เครื่องครัวค่าน้ำและค่าไฟหารกันคนละครึ่งโอเคไหม"
"อืม-__-!"
คีตะไม่รู้จะพูดอะไรเขาจึงเออออตามเธอไปถามว่าหูได้ฟังไหมก็ไม่เลยเขาไม่ได้สนใจอะไรเพราะตอนนี้กำลังนัดเจอสาวสวยผ่านทาง facebook และคืนนี้เขาคงจะเตรียมตัวออกล่าเหยื่อ ใครจะไปจะมาห้องเขาไม่สนใจทั้งนั้นพอคุยกันเรียบร้อยคีตะก็เดินออกจากห้องไปทันที
เข้าบ้านไม่ได้สนใจว่าคีตะจะออกไปไหนเธอจัดห้องนายแบบที่เธอชอบพร้อมกับต้นไม้ปลอมที่เธอซื้อติดมาจากร้าน DIY หน้าทีวีเวลามองไปมีต้นไม้สีเขียวจะได้ดูสบายตาขึ้นมาหน่อย
วันต่อมา
น็อตและแพรวเดินทางมาคอนโดของข้าวปั้นตั้งแต่เช้าข้าวปั้นเล่าให้ทั้งสองฟังว่ารูมเมทที่อยู่ร่วมกับเธอเป็นคีตะทั้งสองก็อดสงสารข้าวปั้นไม่ได้เพราะใคร ๆ ก็ต่างรู้ว่าทั้งคู่เป็นคู่ปรับกันตั้งแต่ประถมจนจบมอปลาย ขนาดวันเรียนจบก็ยังไม่วายทะเลาะกัน
"แล้วนี่คีตะมันอยู่ไหนอ่ะทำไมไม่ออกมากินส้มตำด้วยกัน"
"ป่านนี้ยังไม่ตื่นเลยไม่รู้ขึ้นอืดไปแล้วหรือยัง"
แกร๊ก!
"อุ๊ย! ขอโทษค่ะพอดีคีตะไม่ได้บอกเขาไว้ว่ามีเพื่อนอยู่ด้วย"
------------------------
ยังไงเนี่ยคีตะแกนี่มันร้ายจริงๆ