นางมารเอวเคล็ด

1234 คำ
นางมารเอวเคล็ด ปลายยามโฉว่ (01.00-02.59น.) ซึ่งอันที่จริงแม่นมฝานเหอเคลิ้มหลับไปแล้ว นางเหนื่อยสายตัวแทบขาดมาหลายวันติด ๆ กัน แต่เพราะเสียงอุทานร้องตกใจของสาวใช้รุ่นเล็กที่ชื่อ เสี่ยวฉุน ทำให้ร่างมีเนื้อมีหนังมากสักหน่อยสะดุ้งโหยง ก่อนสั่งให้อีกฝ่ายทำกิริยาให้สำรวม “แม่นม...เมื่อครู่ มันเอ่อ...มีเสียงแปลก ๆ อีกแล้ว หรือว่า คุณหนูกับท่านแม่ทัพจะลุกขึ้นมาเล่นผีผาและรำกระบี่ ฝึกทวนยาวด้วยกันอีกรอบ!” ฝานเหอสงสารเด็กน้อยเสี่ยวฉุนเหลือเกิน นางยังไม่ประสีประสา อีกทั้งอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกอย่าง ก่อนออกจากคฤหาสน์สกุลเนี่ย ฝานเหอพยายามเหลือเกินให้เนี่ยหยวนซูเลือกสาวใช้นางอื่น แต่อีกฝ่ายยืนยันชี้นิ้วไปที่เสี่ยวฉุน ซึ่งเป็นม้าดีดกะโหลก และอ่อนหัดไปทุกเรื่องในการดูแลเจ้านาย ให้ดีที่สุดคือนางขี่ม้าได้ ใช้อาวุธหนักเบาเป็น ทั้งยังร่ายรำมีดสั้นคู่ยอดเยี่ยม ขว้างกระสวยต่าง ๆ แม่นยำ ฝานเหอครั่นคร้ามใจเหลือเกินว่า เนี่ยหยวนซูต้องการมาเปิดสงครามในจวนจิ่งหรืออย่างไร เพราะในหีบที่นำมาจากคฤหาสน์สกุลเนี่ย ใบหนึ่งมีอาวุธลับอัดแน่นอยู่ โดยเฉพาะของเหล่านั้นมาจากทางทะเล เป็นสินค้าใหม่ที่เจ้าบ้านเนี่ยกำลังทำการค้ากับพวกโจรชุดดำที่เรียกว่านินจา และยังมีพวกกำยาน รวมถึงของเป็นพิษร้ายแรงหลายอย่างที่ได้จากชาวสยาม! “เหลวไหล ไม่ว่าเจ้านายจะทำสิ่งใด เจ้าสมควรฟังหรือ อีกอย่าง สำรวจโดยรอบดีหรือยัง มีผู้ใดมายุ่มย่ามที่เรือนไป๋เหลียนฮวาหรือไม่” เสี่ยวฉุนทำท่านึกอยู่นาน อันที่จริงนางได้ยินทั้งเสียงแมว เสียงสุนัข เสียงแมลงกลางคืนดังสลับกันไปมา หากพอสำรวจก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ “มีแมววิ่งบนหลังคา แต่ข้าไล่มันไปแล้ว” “แมวที่ไหน...” ฝานเหอถาม “เออ ไม่แน่ใจ แต่ข้าถามมันเช่นนี้” แม่นางน้อยว่า และทบทวนความจำของตน “ใครน่ะ...” “เหมียว!” “อ้าว แมวหรือ...ข้าถามและมันตอบว่า” “ใช่ แมว!” “เสี่ยวฉุน เจ้านี่ไม่ได้ความโดยแท้ นั่นคงเป็นเพราะมีผู้ใดมาแอบดูสิ่งต่าง ๆ ในเรือนไป๋เหลียนฮวาเป็นแน่!” ฝานเหอตบหน้าอกตาผาง และร้อนอกร้อนใจเหลือเกิน “เช่นนี้ต้องทำสิ่งใดแม่นม” “พรุ่งนี้เช้าต้องรีบรายงานคุณหนู เราจะได้เตรียมการรับมือพวกสกุลจิ่ง อีกอย่าง เสียงที่เจ้าได้ยินในเรือนของคุณหนู จำได้หรือไม่ว่าดังเช่นไร” สาวใช้รุ่นเล็กทำท่านึก จากนั้นก็ร้องครางด้วยท่วงทำนองที่ชวนให้ฝานเหอต้องตัวแข็งทื่อ! รุ่งเช้า ฝานเหอต้องตกใจจนผมเกือบขาวไปทั้งศีรษะ ฝ่ายเสี่ยวฉุนก็ฉี่แทบจะราด เพราะเมื่อเข้าไปในห้องนอนเจ้านาย กลิ่นที่อบอวลหาใช่ความอับชื้นหรือกลิ่นเหงื่อชายหญิง แม้ข้าวของต่าง ๆ กระจัดกระจายหล่นไปตามพื้น และขาเตียงไม่ได้หักก็จริง แต่ภาพใต้หีบสินเจ้าสาว ทั้งตำราร้อยเล่มเกวียนคืนเข้าหอวางหราอยู่บนพื้น มิหนำซ้ำยังเผยให้เห็นว่ามันถูกเปิดใช้งานเสียด้วย เนี่ยหยวนซูล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแล้วและกำลังนั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลือง วาดคิ้ว เติมสีปากให้แดงสด แต่สิ่งที่ชวนให้ฝานเหอต้องลอบถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อยคือนางมีท่าทางเหมือนคนดื่มสุราและยังไม่สร่างเมา! “คุณหนูเจ้าคะ เหตุใดถึงได้มีอาการเช่นนี้” ดวงตากลมโตมองมาที่ฝานเหอ และเนี่ยหยวนซูเอ่ยว่า “ข้าอยากร่ำสุราทั้งวันทั้งคืน จะได้ลืมเรื่องที่ถูก...ชายผู้นั้นข่มเหงจิตใจและร่างกาย” เมื่อคุณหนูที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กดูแลอย่างดีกล่าวเช่นนี้ ฝานเหอจึงโกรธแค้นจับใจ นางเป็นบ่าวก็จริง หากอยู่ในสกุลชั้นสูงมาตลอด บิดาเป็นบัณฑิต มารดาอยู่สำนักคุ้มภัย และการที่ฉางหรูมารดาอีกฝ่ายแต่งเข้าสกุลเนี่ย ก็เป็นประสงค์ของไทเฮา ฝ่ายนั้นทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้การแนะนำฉางหรูกับเนี่ยข่ายในงานเลี้ยงบุปผาเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ในเวลาต่อมาทั้งสองจึงตกหลุมรักกัน หากตอนนี้ฉางหรูจากไปแล้ว ก่อนสิ้นใจ นางฝากฝังให้ฝานเหอดูแลคุณหนูผู้นี้ให้ดีที่สุด และฝานเหอให้สัญญาว่า ทั้งชีวิตของนางจะมอบให้กับเนี่ยหยวนซู “แม่ทัพจิ่ง...ทำร้ายคุณหนูหรือเจ้าคะ” ฝานเหอถามเสียงสั่น “เอ่อ มันเป็นคืนเข้าหอ ข้าเข้าใจดี แต่หากพูดไปว่าเขาทำร้ายคงไม่ถูกต้อง อย่างไรข้าก็เป็นภรรยาของเขาตามกฎหมายแคว้นเฉิงโจว” ฝานเหอโล่งใจขึ้นมาได้สักหน่อย ฝ่ายเสี่ยวฉุนอยากรู้สิ่งต่าง ๆ มาก นางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ เนี่ยหยวนซู แล้วเอ่ยถาม “บ่าวเห็นคนสนิทของแม่ทัพจิ่งมารออยู่ด้านหน้า และต้นยามเหม่า (05.00-06.59 น.) ก็เห็นพวกเขาออกจากเรือนหลังนี้ ท่าทางของท่านแม่ทัพจิ่งดูหงุดหงิด และยังถีบคนสนิทที่ชื่อเกอสวินล้มหงายหลังด้วยเจ้าค่ะ” “เฮ้อ เจ้าอารมณ์ เผด็จการ ทั้งยังเป็นลาโง่!” เนี่ยหยวนซูส่ายหน้าช้า ๆ และนึกถึงภาพความอึดอัด และสายตาคมกริบของจิ่งหลัวคุน ยามที่เขามองนาง ก่อนหุนหันออกจากห้องนี้ไปพร้อมผ้าไหมสีขาวรองเตียงผืนนั้น ที่มีคราบสีแดงเป็นด่างดวง! เนี่ยหยวนซูลูบที่ลำคอระหงของตน เมื่อคืนนางใช้แผนอันแยบยลมากมาย กว่าจะได้รอยช้ำเป็นจ้ำ ๆ ที่ลำคอ หลังใบหู และเนินหน้าอกอวบสวย โอ๊ย เจ็บตัวมากจนน้ำตาเล็ดนั่นแหละ ทว่าเมื่อก้าวลงเรือนรกลำนี้ นางจะตกน้ำป๋อมแป๋ม ตายก่อนเข้าฝั่งไปหาสมบัติที่เกาะสวรรค์ไม่ได้เป็นอันขาด! รอยต่าง ๆ บนเนื้อตัวนี้ แน่นอนเกิดจากริมฝีปากบาง ๆ ของจิ่งหลัวคุน ซึ่งเขาอาจกระทำไปโดยมีสติไม่เต็มร้อย อยู่ในอาการละเมอ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเขาที่ล่วงเกินนางหลายครั้งหลายหน “โอ้ คุณหนู...เขาทำท่านบาดเจ็บเพียงนี้” เนี่ยหยวนซูรีบยกมือปิดปากตน นางกลัวเหลือเกินว่าจะหลุดขำออกไปพรืดใหญ่ ด้วยฝานเหอเป็นสาวเทื้อ ชีวิตนี้เคยใกล้ชิดบุรุษอย่างลึกซึ้งที่ไหนกัน ส่วนแม่นางน้อยเสี่ยวฉุน วัน ๆ ฝึกดาบ ขว้างกระสวย (อาวุธลับ) ฝึกขี่ม้า หมกมุ่นวางยาพิษผู้อื่น เช่นนี้ทั้งคู่ย่อมไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเรื่องใช้จริตมารยาล่อลวงให้ชายหนุ่มติดกับดัก “เจ็บอยู่บ้าง แต่นั่นย่อมแสดงให้ประจักษ์ว่า แม่ทัพจิ่งได้...ร่วมเตียงกับข้าแล้ว!” “หมายความว่า เมื่อเช้าที่เกอสวินเซ้าซี้ถามเรื่องผ้ารองเตียงกับแม่ทัพจิ่งจนโดนถีบหงายหลังก็คือ?” คนเป็นนายโบกมือไปมา ก่อนนึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เอ่ยแล้วชวนให้น่าละอายอยู่สักหน่อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม