ตอนที่ 6 จอมมารเฟิงหยาง/2

2459 คำ
ฉับพลัน แวบบบ!!! แสงสว่างเจิดจ้าปรากฏขึ้นมาทันใด มีดศิลาที่เสียบอยู่บริเวณใต้ราวนมซ้ายของจอมมารค่อยๆ ถอดออกมาด้วยตัวของมันเอง ก่อนจะล่องลอยเคว้งคว้างไปมาตรงพระพักตร์ราชาปีศาจ และทันทีที่เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นพร้อมดวงเนตรสีเลือดลุกโชน ตูม!!!! เสียงดังกระหึ่มกึกก้องไปทั่วเทือกเขาปีศาจบริเวณด้านใน เมื่อมีดศิลาถูกจอมมารเฟิงหยางทำลายลงจนสูญสลายไปชั่วพริบตา มิให้หลงเหลือกลับมาทำร้ายพระองค์ได้อีก ครืนนนนน!!!! ทั่วทั้งดินแดนปีศาจเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทวีมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม พระวรกายสูงใหญ่กว่ามนุษย์โดยปกติทั่วไปของราชาปีศาจค่อยๆ ลุกขึ้นจากหินศิลาที่ประทับนั่งมานานนับหนึ่งแสนปี แรงสั่นโยกคลอนสะเทือนไปถึงสามภพ บ่งบอกให้ล่วงรู้ว่าบัดนี้ราชาปีศาจเฟิงหยางทรงตื่นจากการหลับใหลอันยาวนานนั้นแล้ว จอมมารร่ายเวทย์พร้อมโบกสะบัดพระหัตถ์ไปมาติดต่อกันสามครั้ง แรงสั่นสะเทือนพลันสงบลงทันใด พร้อมพระวรกายเลือนหายไปจากแก่นกลางของเทือกเขาอย่างรวดเร็ว พรึบ!!! พระวรกายปรากฏอยู่ตรงปากทางเข้าของเทือกเขาปีศาจพร้อมเสียงของเหวินกวางดังแทรกขึ้น “ท่านออกจากการกักตนแล้ว มีดศิลาทำอันตรายบ้างหรือไม่”เหวินกวางถามด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่งยวด “ไม่เป็นไรแล้ว แต่หัวใจของบิดาที่เก็บอยู่ในหินสามภพนี้สิน่าเป็นห่วง คนผู้นั้นล่วงรู้แต่เพียงว่าหินสามภพทำให้มีพลังเวทย์กล้าแข็งเทียบเท่ากับบิดา จึงต้องการนำไปใช้ประโยชน์แต่ถ้าล่วงรู้ว่ามีหัวใจของบิดาผนึกอยู่ภายในหินสามภพนี้สิ เห็นทีข้าต้องสิ้นชื่อลือนามก็คราวนี้ ในวันที่มีอายุครบสองแสนห้าหมื่นปีเข้าให้พอดี”รับสั่งอย่างแค้นเคืองใจเป็นที่สุด “เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น ท่านเข้ากักตนตั้งแต่อายุหนึ่งแสนห้าหมื่นปี จึงทำให้ยังมิได้มีราชินีและรัชทายาทสืบทอดดินแดนปีศาจของท่าน อีกทั้งในยามนี้สำเร็จตบะขั้นที่เก้าแล้วไม่มีเหตุอันใดที่จะถูกทำลายดวงจิตลงได้อย่างแน่นอน ทำไมท่านจึงเป็นกังวลเรื่องนี้ด้วยเล่า”เหวินกวางถามสวนกลับไป “ตบะขั้นที่เก้าของบิดาใช่ว่าจะสูญสลายไม่ได้นะเหวินกวาง ตอนนี้บิดามีพลังเวทย์เหลือเพียงแค่สามส่วนเท่านั้น เพราะถูกมีดศิลาตรึงเอาไว้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อีกทั้งหินสามภพซึ่งหัวใจถูกเก็บอยู่ภายในนั้นก็ถูกนำออกไปจากเทือกเขาปีศาจ หากไม่รีบนำกลับมาสถิตเข้าที่ร่างดั่งเดิม เห็นที่วาระของบิดาจะมาถึงแล้ว” “อะไรนะ!”เหวินกวางตกใจแทบสิ้นสติครั้นได้ยินเช่นนั้น “เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ท่านคือชาวสวรรค์มีตบะแรงกล้าเทียบเท่าจักรพรรดิสวรรค์ ไม่มีทางที่จะพบจุดจบเช่นนี้ อย่างไรข้าก็ไม่ยอม ไม่ยอมเป็นอันขาด ท่านรีบบอกข้าเถิดว่าจะต้องทำเช่นไรต่อไป เหวินกวางสหายของท่านผู้นี้ขออาสาติดตามนำหินสามภพกลับคืนมาให้จงได้”สหายสนิทรีบขันอาสาอย่างแข็งขัน “ขอบใจเจ้ามากนะเหวินกวาง”ราชาปีศาจรับสั่งพร้อมยกพระหัตถ์ตบลงบนบ่ากว้างของพระสหาย พระอารมณ์อันขุ่นเคืองเมื่อครู่ที่ผ่านมาเริ่มบรรเทาลงครั้นทรงได้ยินพระสหายขันอาสาติดตามหินสามภพเช่นนั้น “แต่ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดจัดการได้ นอกจากข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น ผู้อื่นไม่สามารถพบเห็นหินสามภพได้นอกจากผู้เป็นเจ้าของ อีกทั้งเจ้าหัวขโมยผู้นั้นนำหินสามภพออกจากเทือกเขาปีศาจนี้ไปได้ นั่นก็เพราะได้เลือดของข้า หลังจากใช้มีดศิลาจ้วงแทงร่างของข้าจนโลหิตชาดทองหลั่งรินออกมา จึงสามารถอำพรางกายเล็ดรอดออกจากดินแดนปีศาจได้เป็นผลสำเร็จ ดูท่าจากเวลาที่เกิดคงใกล้ถึงประตูเขตแดนที่จะหนีออกไปจากดินแดนปีศาจ” “ถัดจากประตูเขตแดนปีศาจคือเขตแดนสวรรค์ แดนมนุษย์และปรโลก คนผู้นั้นอำพรางกายนำหินสามภพของท่านเร้นกายตั้งใจจะไปที่ใดกันเล่า เผ่าปีศาจขุมพลังแห่งชีวิตสถิตอยู่ที่หัวใจและดวงจิต ขาดสิ่งใดไปย่อมทำให้ร่างดำรงอยู่อีกได้ไม่นานหรือท่านคิดเห็นเป็นเช่นไร”เหวินกวางกล่าวพร้อมมองใบหน้าของพระสหายเฝ้ารอคำตอบ “คนผู้นั้นไปที่ใดอย่างนั้นเหรอ”จอมมารหนุ่มรับสั่งออกมา “เจ้าอยู่ทางนี้คอยดูแลดินแดนปีศาจให้แก่ข้าต่อไป ถ้าหากเผ่าสวรรค์ถามไถ่ถึงข้า เจ้าก็จงบอกว่ายังไม่ออกจากการกักตนบำเพ็ญตบะ อย่าให้ผู้ใดล่วงรู้ว่าข้าไม่ได้สถิตอยู่ในดินแดนปีศาจเป็นอันขาดเข้าใจหรือไม่”ประโยคสุดท้ายรับสั่งกำชับพระสหาย เหวินกวางพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันครั้นได้ยินเช่นนั้น “เรื่องนี้ท่านวางใจได้ ข้าจะคอยดูแลดินแดนปีศาจแทนของท่านเองไม่ต้องห่วง แล้วมีอะไรจะสั่งเพิ่มเติมอีกไหม”เหวินกวางกระตือรือร้นถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “มีสิ”จอมมารรับสั่งพร้อมยกพระหัตถ์ขึ้นตบลงบนบ่าพร้อมฉีกยิ้มกว้างให้กับพระสหาย “ไม่ต้องตามข้ามา! หากข้าต้องการเจ้าจะเรียกเอง”สิ้นรับสั่งพระวรกายเลือนหายลับไปทันที “ดะ..เดี๋ยวเฟิงหยาง!เฟิงหยาง!!!”เหวินกวางตะโกนร้องเรียกพระสหายจนสุดเสียง “เจ้าเพื่อนบ้าเอ้ย! เอะอะก็ทำอะไรตามลำพังไม่ยอมร้องขอความช่วยเหลือผู้ใด แก้ไม่หายจริงๆ เลยสินะ ไปตามหาหินสามภพทั้งๆ ที่มีพลังเวทย์เหลือเพียงแค่สามส่วนเท่านั้น จะทำอะไรได้สักกี่มากน้อยกันด้วยเล่า อีกทั้งเจ้าหัวขโมยผู้นั้นล่วงรู้ความเป็นมาของเฟิงหยางเป็นอย่างดี ดูท่าสายเลือดของราชามารจากเผ่าใดเผ่าหนึ่งต้องหลงเหลืออยู่เป็นแน่ หาไม่แล้วมีหรือจะสามารถกระทำกับราชาปีศาจเช่นนี้ได้”เหวินกวางยืนบ่นพึมพำเต็มไปด้วยความกังวล ประตูเขตแดนสามภพ เบื้องหน้าคือเขตแดนปีศาจสิ้นสุดตรงที่ประตูขวางกั้น เบื้องหลังขวามือคือเขตแดนสู่ปรโลกเป็นหลุมกว้างดำทะมึน ทางเบื้องซ้ายคือหลุมกว้างขนาดใหญ่เปล่งแสงสว่างหลากสีสันมากมายอันเป็นเขตแดนมนุษย์เต็มไปด้วยเทือกเขาเขียวขจีและบ้านเมืองของอารยธรรมของชนเผ่ามนุษย์ เบื้องหน้าคือหลุมกว้างขนาดใหญ่ส่องแสงสีทองเจิดจ้าของเขตแดนสวรรค์และเป็นสถานที่เดียวที่มิทำให้ราชาปีศาจเป็นอันตรายเพราะเต็มไปด้วยไอทิพย์ปกป้อง ในขณะที่ทหารรักษาการณ์บริเวณประตูเขตแดนสามภพ ต่างกำลังยืนอารักขาเรียงรายตรึงกำลังอยู่หน้าประตู ยากนักที่จะเล็ดรอดออกไปไฉับพลันแรงปะทะมหาศาลมิรู้มาจากทิศทางใดพุ่งตรงเข้ามาหาทุกชีวิตของเหล่าทหารอย่างรวดเร็ว ตูมมม!!! พลังเวทย์ทำลายล้างดวงจิตของกองทหารที่เฝ้ารักษาประตูเขตแดนสามภพจนแตกสลายไปชั่วพริบตา ร่างเลือนรางของบุรุษค่อยๆ ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าประตูเขตแดนดังกล่าว และที่น่าตื่นตระหนกนั้นก็คือผู้บุกรุกดินแดนปีศาจช่วงชิงหินสามภพมาไว้ในครอบครองได้แท้จริงแล้วกลับเป็นเผ่าหงส์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเผ่าสวรรค์เช่นกัน พรึบ! ปีกสองข้างของหงส์หนุ่มปรากฏออกมาจากด้านหลังก่อนจะกางออกกว้างบินออกไปจากประตูสามภพอย่างรวดเร็ว โดยซุกซ่อนหินสามภพอยู่ภายในกายเพื่อหลอมรวมญาณตบะให้เทียบเท่าจักรพรรดิสวรรค์ ครืนนนน!!! ดินแดนปีศาจสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นมาทันทีที่หงส์หนุ่มบินออกจากประตูสามภพของเขตแดนปีศาจ มุ่งหน้าไปยังเขตแดนสวรรค์อันเป็นถิ่นพำนักของตน บนเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์บนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าซึ่งเผ่าหงส์พำนักอยู่ แวบบบ!!! ราชาปีศาจปรากฏพระวรกายตรงหน้าประตูเขตแดนสามภพขึ้นมาโดยพลัน พระเนตรสีเลือดลุกโชนดั่งเพลิงไฟบรรลัยกัลป์ครั้นทอดพระเนตรชาวสวรรค์ซึ่งมาจากเผ่าหงส์กำลังบินตรงไปยังเขตแดนที่ตนพำนักอาศัยอยู่ “ที่แท้เผ่าหงส์ก็มีสายเลือดของราชามารซุกซ่อนอยู่นี่เอง มิน่าเล่าจึงล่วงรู้วิธีทำร้ายข้าได้ นี่คงจะรอคอยเวลามาอย่างยาวนานจนสำเร็จเป็นซางเสิ่น จึงหาญกล้าบุกเดี่ยวเข้ามาขโมยหินสามภพของข้าไป อยากรู้ยิ่งนักว่าแท้จริงแล้วราชามารตนใดคือบิดาของเจ้ากันแน่”ราชาปีศาจรับสั่งลอดไรพระทนต์ พระหัตถ์กางออกกว้างพร้อมร่ายเวทย์ขั้นสูงพร้อมปรากฏตาข่ายสวรรค์ สำหรับดักจับเหล่าเทพที่แอบหลบหนีจากคุกสวรรค์ขวางทางเข้าเขตแดนทั้งสามภพจนไม่สามารถเล็ดรอดหลบหนีไปอยู่ดินแดนใดได้เลย สร้างความตื่นตระหนกให้กับหงส์หนุ่มผู้นั้นอย่างยิ่งยวด “ตาข่ายสวรรค์! เป็นไปไม่ได้”หงส์หนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจพร้อมหันกลับไปมองทางด้านหลังของตนก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีดครั้นเห็นราชิปีศาจทรงยืนร่ายเวทย์อยู่ตรงบริเวณเขตแดนประตูสามภพ “ราชาปีศาจเฟิงหยางยังไม่แตกดับหรือนี่! มีดศิลาสวรรค์ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างนั้นหรอกเหรอเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น”หงส์หนุ่มกล่าวออกมาเต็มไปด้วยความกังวลและตื่นกลัวเป็นยิ่งนัก ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตระหนกสุดขีด “แย่แล้ว! ราชาปีศาจสำเร็จตบะขั้นที่เก้า มีดศิลาสวรรค์จึงไม่สามารถทำให้แตกดับได้ ไม่ได้การเสียแล้วข้าต้องรีบหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ หาไม่แล้วต้องถูกขับออกจากเผ่าสวรรค์” ในขณะเดียวกันราชาปีศาจทรงเรียกพลังที่เหลือสามส่วนมารวมเข้าไว้จนหมดเพื่อจับหัวขโมยที่มาจากเผ่าหงส์นี้ให้จงได้ พร้อมรอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏบนพระพักตร์ครั้นญาณของพระองค์รับรู้ได้ว่า หงส์หนุ่มกำลังหาทางหลบหนีออกไปจากตาข่ายสวรรค์ของพระองค์ที่ทรงร่ายเวทย์ขึ้น “คิดหรือว่าเจ้าจะหนีข้าพ้นเจ้าเด็กเมื่อวานซืน หาญกล้าขโมยหินสามภพเพื่อเพิ่มญาณตบะของตนเองด้วยวิธีการอันขลาดเขลาสิ้นดีคิดหรือว่าจะดำรงชีวิตอยู่ได้!”สิ้นพระสุรเสียงจอมมารซัดพลังเวทย์ออกไปอย่างเต็มเหนี่ยวพุ่งตรงเข้าหาร่างของหงส์หนุ่มทันที ตูมมมม!!! พลังเวทย์ทำลายปีกทั้งสองข้างของหงส์หนุ่มผู้นั้นจนมิเหลือสิ้นและทำลายร่างด้านขวาจนไหม้เกรียมไปทั้งแถบ อ๊าคคคค!!! เสียงร้องโหยหวนบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสก่อนจะหมดสติ ร่างลอยละลิ่วร่วงหล่นลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็วในขณะที่กำลังเข้าสู่เขตแดนสวรรค์เหลืออีกเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น ทันใดนั้นเอง พรืดดด!!! โลหิตกองใหญ่พุ่งออกจากพระโอษฐ์ของจอมมารด้วยพระองค์ทรงใช้พลังเวทย์ที่มีเหลืออยู่เพียงสามส่วนเพื่อสร้างตาข่ายสวรรค์ล้อมรอบดินแดนทั้งสามภพจนสูญสิ้นพลังไปจนหมด อ๊อกกก!!! จอมมารเฟิงหยางสำลักพระโลหิตออกมากองใหญ่จนต้องหยุดใช้พลังเวทย์ไปชั่วขณะพระวรกายเกือบทรุดลงไปกับพื้นหากแต่ถึงกระนั้นทำให้พระองค์ซวนเซไปมาเกือบประคองพระวรกายเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะยกพระหัตถ์ขึ้นเช็ดคราบเลือดออกจากพระโอษฐ์ สายพระเนตรจับจ้องอยู่ที่ร่างของหงส์หนุ่มที่กำลังร่วงหล่นลงมาจากแดนสวรรค์เขม็ง “ต้องรีบนำหินสามภพของข้ากลับคืนมาพลังเวทย์ที่สูญสิ้นไปก็จะกลับคืนมาเป็นปกติด้วยเช่นกัน”รับสั่งพร้อมร่ายเวทย์เรียกหินสามภพที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในกายของหงส์หนุ่มนั้นออกมาจากร่างดังกล่าวทันที ทว่าพลังเวทย์ที่เหลือเพียงน้อยนิดสามารถทำได้เพียงแค่เรียกหินสามภพออกมาจากร่างของหงส์หนุ่มผู้นั้นได้แต่ยังคงเกาะติดอยู่ที่ร่างไม่หวนกลับคืนมาหาพระองค์ ด้วยเพราะหงส์ผู้นั้นใช้โลหิตชาดทองของจอมมารทาไปทั่วกายจนหินสามภพจดจำว่าเจ้าหงส์หัวขโมยคือเจ้าของ “แย่แล้ว! เรียกกลับมาไม่ได้”จอมมารตกพระทัยขึ้นมาโดยพลันครั้นเหตุการณ์แปรเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝัน และยิ่งไปกว่านั้นร่างของเจ้าหงส์หนุ่มที่มีหินสามภพของพระองค์ยังสามารถเจาะทะลุตาข่ายสวรรค์ที่ทรงร่ายเวทย์ปกคลุมเอาไว้ทำลายออกไปจนหมด และร่างของเจ้าหงส์หนุ่มร่วงหล่นตกเข้าไปยังเขตแดนของภพมนุษย์อย่างรวดเร็วท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารเฟิงหยาง “ไม่ได้การแล้ว!ขะ...ข้า...”สิ้นสุรเสียงรับสั่ง พรืดดดด!!! จอมมารทรงกระอักพระโลหิตออกมาอีกครั้ง และครานี้เป็นเหตุให้พระองค์หมดพระสติไปทันที ฟิ้วววว!!! พระวรกายของจอมมารร่วงหล่นจากเขตแดนปีศาจลงไปภพมนุษย์โดยพลัน พระองค์กระอักพระโลหิตเป็นครั้งที่สองติดต่อกันด้วยเพราะสูญสิ้นพลังเวทย์ไปจนหมด พระวรกายใหญ่กระโดดพุ่งหลาวตกเข้าไปยังเขตแดนมนุษย์ตามหงส์หนุ่มหัวขโมยไปติดๆ พรึบบบบ!!! ร่างอันไร้ปีกทั้งสองข้างของเจ้าหงส์หัวขโมยเลือนหายไปโดยพลัน ทันทีที่ร่วงหล่นตกไปอยู่ในเขตแดนมนุษย์ พร้อมพระวรกายของราชาปีศาจพลันเลือนหายไปด้วยเช่นกันครั้นเข้าสู่เขตแดนมนุษย์ หนี่งเทพสวรรค์ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าตกไปในแดนมนุษย์เพราะถูกตามล่า หากแต่อีกหนึ่งคือเทพสวรรค์ซึ่งเป็นถึงประมุขของเผ่าปีศาจ ติดตามหัวขโมยเพื่อนำสิ่งที่เป็นของตนกลับคืนมาดั่งเดิม มิใช่เพื่อผู้ใดแต่เพื่อการดำรงอยู่ต่อไปของราชาปีศาจเฟิงหยาง เมื่อหินสามภพนอกจากจะเป็นขุมพลังเวทย์ที่พระองค์จะได้กลับคืนมาดั่งเดิม ยังเป็นที่ซุกซ่อนหัวใจของจอมราชันจากเผ่าปีศาจเอาไว้ด้วยเช่นกัน หาไม่แล้วเวลาของการดับขันธ์ก่อนถึงเวลาอันควรจะบังเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม