หมอหื่นกาม นางสาวหื่นศรี

2068 คำ
ไอ้หมอปากหมาเดินจากไป พร้อมชะตากรรมของเธอที่โดนผู้จัดการไล่ออกจากงานอย่างปัจจุบันทันด่วนตามกัน เฟญารินไม่เดือดร้อน เพราะรู้ว่าค่าแรงชั่วโมงละไม่ถึงสี่สิบบาทไม่ได้ทำให้ชีวิตเธอเลวลงหรือดีขึ้นมากมายนัก ทั้งเธอยังได้ประสบการณ์กับงานที่ทำมาสองวันแล้วพอสมควร แม้จะไม่ถึงขั้นชำนาญ แต่ก็มากพอสำหรับเป็นวัตถุดิบต่อยอดจินตนาการให้พอมองเห็นภาพได้มากขึ้น แต่ที่น่าเจ็บใจคือนายปากเป็นพิษอสรพิษนั่นมีสิทธิ์อะไรมาว่าเธอเป็นนางสาวหื่นศรี!! ปากหมา ใจร้าย แถมยังรังแกผู้หญิง ถ้าเธอเป็นนางสาวหื่นศรี ไอ้คนพกถุงยางเป็นสิบกล่องก็คงไม่พ้นเป็นนายหื่นกาม เป็นหมอแต่ไม่รู้จักเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม คิดว่าตัวเองหล่อนักหรือไงถึงได้ไม่รู้จักอายฟ้าดินขนาดนี้ หลังจากรับเงินค่าจ้างงวดสุดท้าย เฟญารินก็เดินสะโหลสะเหลพาตัวเองกลับห้อง เพราะอยากสัมผัสชีวิตคนปากกัดตีนถีบอย่างเต็มขั้น เธอจึงเลือกเช่าห้องพักในอพาร์ตเมนต์ที่สภาพไม่ค่อยอำนวยแก่ความสะดวกสบายเท่าไรนัก ระหว่างหัวสมองกำลังคิดว่าหลังจากโดนไล่ออกจากงานนี้แล้วจะไปหางานอะไรทำต่อ สายตาของหญิงสาวก็หันซ้ายแลขวามองหน้ามองหลังไปทั่วด้วยความระแวดระวัง แม้จะเลือกพักในย่านชุมชน แต่การเดินเข้าซอยซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นตั้งวงกินเหล้ากันตั้งแต่หัวค่ำจนเมาได้ที่ในเวลารุ่งสางแบบนี้ มองอย่างไรก็ไม่น่าไว้ใจสำหรับเธอ เฟญารินใช้จังหวะที่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินสวนทางออกมารีบซอยเท้าจนเกือบเป็นวิ่งผ่านตรงนั้นไปให้เร็วที่สุด แม้จะได้ยินเสียงแซวตามประสาคนเมาตามไล่หลังมาบ้าง แต่สุดท้ายเธอก็กลับขึ้นห้องได้อย่างปลอดภัย หญิงสาวรีบปิดประตูห้องแล้วลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก …ชีวิตที่แสนรันทดของแม่สาวน้อยร้อยอาชีพ รนหาที่เกินไปหรือเปล่า แล้วเธอจะทนอยู่ในบรรยากาศอันตรายสุดติ่งกับชีวิตแบบนี้ได้ถึงไหนกัน แต่ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มากกว่านี้ ทันทีที่หายตกใจแล้วลืมตาขึ้นมาเห็นภาพเสื้อผ้าในตู้ถูกรื้อออกมาโยนกระจัดกระจายไปรอบทิศทาง เธอจำได้ว่าถึงตัวเองจะเป็นคนซกมกไม่ค่อยมีระเบียบ แต่ก็ไม่ใช่ไร้ความเป็นกุลสตรีไทยจนเห็นห้องรกขนาดนี้แล้วจะอยู่เฉยๆ ได้ แล้วที่น่าตกใจยิ่งกว่า แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์ แล้วก็เงินที่ลืมวางไว้บนโต๊ะไม่ได้หาย สิ่งที่ถูกขโมยไปคือชุดชั้นในของเธอ!! ไอ้โจรโรคจิต!! สภาพตู้เสื้อผ้าถูกรื้อค้นยับเยินแต่ของที่หายไปมีแค่ชุดชั้นในล้วนๆ ทำให้เธอตัดสินใจได้ว่าไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไปแม้สักวินาที ตอนนี้เฟญารินกำลังตกอยู่ในสภาพจิตตกเต็มขั้น มือรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนที่มีอยู่ไม่กี่คนในเชียงใหม่ และเวลานี้คนที่เธอนึกถึงและคิดว่าคงพอจะช่วยกันได้ก็คือชญานิน “ไอ้ฝ้าย แกต้องช่วยฉันนะ” เสียงสั่นรีบโพล่งออกไปทันทีที่ปลายสายกดรับ หญิงสาวไม่รอช้ารีบเล่าเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้เพื่อนฟังจนแทบลืมหายใจ ชญานินหรือฝ้ายเป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่สมัยอนุบาล เพิ่งมาแยกกันก็ตอนที่ชญานินสอบติดแพทย์ที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนตัวเธอเข้าเรียนในคณะจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังในกรุงเทพ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังคงสนิทกันอยู่เหมือนเดิม “แล้วนี่แกบ้าหรือไงตัวยุ่ง ถึงได้เอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้น ถึงผู้หญิงอย่างแกจะใจกล้าบ้าบิ่น แต่ไม่รู้หรือไงว่ามันน่ากลัวขนาดไหน เกิดเป็นพวกฆาตกรโรคจิตฆ่าต่อเนื่องอย่างที่เป็นข่าวนี่ไม่แย่หรือไง” “แกว่าไงนะ” คำขู่แม้จะด้วยน้ำเสียงพูดไปเรื่อยไม่จริงจังนักของเพื่อน แต่เมื่ออยู่ในสถาการณ์สุ่มเสี่ยงแบบนี้ ก็ทำเอาคนได้ยินอดระแวงขึ้นมาไม่ได้ “นี่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาแม่นักเขียนมิลเลี่ยนก๊อปปี้ ข่าวสารบ้านเมืองแกเคยสนใจบ้างไหม เขาลงกันออกให้โครมๆ ฆาตกรโรคจิตฆ่าผู้หญิงด้วยการกดน้ำแล้วเอาดอกกุหลาบวางไว้ข้างศพ อึ้ย แค่คิดก็สยอง เลิกพูดเถอะ” คนเล่าทำเสียงน่าขนลุกแล้วก็ตัดบทไปเสียดื้อๆ เฟญารินเห็นด้วยกับเพื่อนเพราะอยู่ดีๆ แค่พูดถึงน้ำ เธอก็รู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก “ว่าแต่แกเถอะ เดี๋ยวเช้ารีบออกมาจากที่นั่นให้เร็วที่สุดเลยนะ แล้วก็เลิกได้แล้วไอ้การผจญภัยคนเดียว ถ้าอยากได้ประสบการณ์มากนัก เดี๋ยวฉันจะหาที่อยู่แล้วก็งานที่ปลอดภัยให้แกใหม่” ปลายสายพูดออกมาแล้วก็ลอบถอนหายใจ เฟญารินเป็นคนสุดขั้วเสมอ อาจเพราะพ่อแม่ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่ ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวที่เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดีเท่าไรนัก ความอบอุ่นแบบขาดๆ เกินๆ คงเป็นปัจจัยหนึ่งที่หล่อหลอมให้เพื่อนเธอเป็นคนแบบนี้ “ก็ถ้าแกจะใจดีขนาดนี้ แกก็มารับฉันหน่อยไม่ได้เหรอ ถือว่าเห็นแก่สวัสดิภาพของเพื่อนตาดำๆ” “ไม่ได้ย่ะ แกต้องเอาตัวรอดเอาเอง เพราะฉันก็มีคนไข้รออยู่บานเบิก เบี้ยวไม่ได้ ไม่งั้นโดนรุ่นพี่งับหัวตายแน่ๆ เอาเป็นว่าตอนเช้าแกมาหาฉันที่โอพีดี เอากุญแจบ้านพักแพทย์ของพี่มิ้นท์ไป แล้วก็หอบเสื้อผ้าเข้าไปอยู่ได้เลย พี่ฉันเขาไปดูงานที่ต่างประเทศอีกหลายเดือนกว่าจะกลับ ถ้ามีใครถามแกก็บอกว่าเป็นญาติฉันละกัน” เสียงตะโกนเรียกจากแพทย์รุ่นพี่ทำให้ชญานินต้องรีบตัดบทฉับ ไม่ใช่ว่าไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของเพื่อน แต่เธอมั่นใจว่าแม้ในยามปกติเฟญารินจะดูขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง แต่คนเก่งถึงขนาดสอบติดแพทย์แต่เลือกแหกค่านิยมของสังคมไปทำตามใจฝันค้นหาจิตใจผู้คนด้วยการเรียนจิตวิทยาอย่างเพื่อนเธอก็คงใช้ไหวพริบและมันสมองจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ไม่ยาก หลังจากปิดป้ายประกาศรอบอพาร์ตเมนต์เอาเรื่องผู้จัดการที่ไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ เรื่องที่เธอโดนโจรโรคจิตขโมยชุดชั้นในอุกอาจขึ้นมางัดห้อง เฟญารินก็เก็บข้าวของ ไปแจ้งความ แล้วเดินทางไปรับกุญแจจากเพื่อนที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก จากนั้นจึงใช้บริการรถแดงเข้าไปทำธุระในตัวเมือง ก่อนจะต่อรถโดยสารประจำทางสายสีเหลืองกลับเข้าไปในส่วนที่พักของบุคลากรในโรงพยาบาลอีกครั้งในตอนเย็น มีสิ่งปลูกสร้างลักษณะคล้ายกันตั้งอยู่เรียงรายทำให้หญิงสาวต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะหาบ้านหลังที่สามจากทางแยกตามที่เพื่อนบอกพบ รอยยิ้มสดใสปรากฏชัดบนใบหน้า หลังจากหาจนเหงื่อแตกแถมเดินหลงไปหลายรอบในที่สุดก็หาเจอสักที เฟญารินเดินเข้าไปเปิดประตูรั้ว แม้รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยเพราะมันไม่ได้ล๊อกกุญแจ แต่เธอก็ไม่ได้คิดใส่ใจมากนัก …ทว่ายิ่งเดินเข้าไป คิ้วเรียวก็ยิ่งขมวดปมแน่นขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าจะแค่ประตูรั้ว แต่นี่แม้กระทั่งประตูหน้าบ้านก็ยังไม่ได้ล๊อกไว้ด้วยเหมือนกัน สงสัยจะไม่มีคนอยู่มานาน หญิงสาวมองซ้ายมองขวาแล้วหาข้อสรุปให้กับตัวเอง ก่อนเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้าน… บ้านสองชั้นสภาพกลางเก่ากลางใหม่ เฟญารินวางกระเป๋าเป้ลงบนโซฟา แล้วกวาดตามองสำรวจไปรอบๆ นอกจากความรกที่เห็นได้ชัด ก็ไม่มีอะไรบ่งบอกสภาพเหมือนเป็นบ้านที่ถูกปล่อยร้างไว้เลยสักนิด หญิงสาวส่ายหน้าให้กับความคิดฟุ้งซ่านเตลิดไปไกลของตัวเอง หลังสำรวจด้านล่างเรียบร้อยก็เดินขึ้นไปบนชั้นสอง ที่นี่มีห้องนอนสองห้อง และเธอสรุปแล้วว่าจะนอนห้องใหญ่ …ดูจากสภาพของห้อง เฟญารินคิดเอาเองว่าพี่สาวของเพื่อนคงจะยุ่งไม่น้อย ถึงได้ไม่มีเวลาแม้แต่จะเก็บเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนย้ายออกไปจากบ้าน หญิงสาวก้มลงหยิบเสื้อกาวน์สั้นสีขาวที่ถูกโยนทิ้งไว้บนเตียงกับเก้าอี้โยนใส่ตะกร้าผ้า ตามด้วยถุงเท้าอีกสองสามคู่ กางเกงขายาวทั้งสีครีมและสีเข้ม แล้วยังมีบ๊อกเซอร์ที่ถูกโยนไว้บนพื้น แต่ เอ๊ะ ว่าแต่ทำไมมีบ๊อกเซอร์?? ระ… หรือว่าพี่มิ้นท์เอาผู้ชายมาไว้ในบ้าน!! เฟญารินเบิกตาโตเอามือปิดปาก เธอเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม แล้วก็ไม่ได้อยากจะคิดอกุศล พี่มิ้นท์นิสัยดีมีเมตตา ส่วนหน้าตาก็คล้ายกับเพื่อนเธอราวกับเป็นฝาแฝด จากที่รู้จักแม้จะติดนิสัยห้าวๆ ไปสักหน่อย แต่เธอก็ไม่คิดว่าพี่ของเพื่อนจะอยากเป็นผู้ชายเต็มขั้นจนต้องไปหาซื้อของลอกเลียนความเป็นชายมาใส่อะไรแบบนั้น อาจจะใช่ หรือไม่ก็ไม่ใช่… ระหว่างสมองกำลังประมวลผลให้วุ่น เสียงฝีเท้าคนเดินขึ้นบันไดทำให้หญิงสาวรีบพาตัวเองเข้าไปแอบในตู้เสื้อผ้า กลิ่นอับชื้นกับขนาดพื้นที่เท่ารู้หนูในนั้นไม่ได้ทำให้ความรู้สึก ‘ฟิน’ เหมือนที่เขียนบรรยายในนิยายเลยสักนิด แต่ถึงอย่างไรเธอก็จำเป็นต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน เพราะถ้าไม่ใช่ผู้ชายของพี่มิ้นท์ ก็อาจเป็นโจร… เสียงผิวปากฮัมเพลงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เฟญารินหยิบไม้แขวนเสื้อสองสามตัวกระชับไว้มั่นในมือ ก่อนสอดสายตาลอดผ่านช่องแคบๆ ของประตูตู้ที่แง้มไว้ออกไปสำรวจสถานการณ์ด้านนอก ผู้ชายจริงๆ ด้วย!! ตากลมฉายแววระแวดระวังมองตามเจ้าของช่วงขายาวที่เดินทำนั่นทำนี่รอบห้องไปเรื่อย เขาทำทุกอย่างเหมือนอยู่ในบ้านตัวเอง ความซวยบังเกิดซ้ำซ้อน ถ้าพี่มิ้นท์เอากิ๊กมาซุกไว้ในบ้านจริงๆ แล้วอย่างนี้คืนนี้เธอจะไปซุกหัวนอนที่ไหน แล้วนั่นเขากำลังจะทำอะไร อย่านะ!! เฟญารินเอามือปิดปากบังคับไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมาขณะกำลังกรีดร้องลั่นอยู่ในใจ ทั้งที่เธอพยายามสั่งตัวเองว่าอย่ามอง แต่ร่างกายกลับทรยศทำตรงกันข้าม ดวงตากลมเบิกกว้างมองคนยืนหันหลังให้ที่เริ่มเปลือยกายตาไม่กระพริบ เริ่มตั้งแต่แผ่นหลังกว้าง มันดูแข็งแรงและขาวออร่ามาก นั่นยังไม่รวมกล้ามแขนเป็นมัดๆ พอถอดเสื้อเสร็จเขาก็โยนมันไว้บนเตียงลวกๆ ….เซ็กซิเพียร์ เซ็กซี่บาดใจ ถึงซกมกไปหน่อยแต่ให้อภัยได้เพราะหุ่นนี่มันพระเอกนิยายโรมานซ์ชัดๆ ยิ่งมองยิ่งตาค้าง เฟญารินกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองหายใจไม่ออก ต้องเป็นเพราะในตู้นี้มันคับแคบเกินไปแน่ๆ เธอเริ่มอึดอัดมากขึ้นเมื่อเขาเลื่อนมือลงไปตั้งท่าจัดการกับกางเกง คนใจสั่นแต่ก็มองไม่วางตาสูดหายใจลึก ทั้งที่พยายามสั่งตัวเองว่าอย่ามองๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่สำเร็จ ผิวขาวออร่าของผู้ชายที่สายตาเธอเห็นมากที่สุดเพียงแค่ระดับหน้าอกของเขายิ่งมองหญิงสาวยิ่งตาค้างเติ่ง กางเกงออกกำลังกายขาสั้นร่วงลงพื้นไปแล้ว ตากลมมองมือหนากำลังยุ่มย่ามอยู่แถวขอบบ๊อกเซอร์เตรียม ‘ถอด’ ปราการด่านสุดท้าย แล้วก็ทนไม่ไหวส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังๆ กรี๊ด….
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม