หลี่สิงหยางเรียกนางเช่นนั้น หัวใจเขาพลันกระตุกไหว และมากล้นด้วยความรู้สึกที่เขาไม่อาจอธิบายได้ทั้งหมด แรกที่ได้พบหน้านาง ฝ่ายเขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นได้เห็นรูปวาดมาก่อน หากแตกต่างจากตัวตนที่แท้จริงของฟ่านหรันซี
เมื่อหลายปีก่อน เขาฝันร้ายติดต่อกัน มองเห็นตนเองคุ้มคลั่ง ไล่ฆ่าทั้งศัตรู และผู้บริสุทธิ์มากมาย สาเหตุนอกจากถูกพิษร้ายที่อยู่ในร่างเล่นงาน
กำแพงสูง เสียงกรีดร้อง และชุดสีขาวของสตรีที่ชโลม
ด้วยเลือดทำให้เขาตระหนักได้หลายอย่างว่าจะมีเรื่องร้ายแรง
เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามมันยังไม่สายหากเขาจะยุติมัน
ในขณะที่ชายหนุ่มคิดว้าวุ่นใจ แรงมือเรียวเล็ก ก็ตบลงที่แก้มเขาถึงสองครั้งด้วยกัน
พอฟ่านหรันซีจะตบครั้งที่สาม นางก็เปลี่ยนใจ จึงใช้ผงพิษร้องไห้ที่ซ่อนเอาไว้เป่าใส่ดวงตาพยัคฆ์
“โอ๊ย ตาข้าบอดแน่”
“ดี ยอดเยี่ยม ปีศาจตาบอด เหมาะสมกับท่าน”
ด้วยสมองของร่างใหม่นี้กระทบกระเทือนหนัก จึงมีบางส่วนยังไม่ปกติ บางทีฟ่านหรันซีก็คิดว่าตนมีความเป็นเด็กน้อยหลงเหลืออยู่มากไปสักหน่อย การแก้เผ็ดเขาอย่างนี้ ไม่เหมาะสมนักแต่นางแอบสะใจ
จากนั้นพอเขายื่นมือป่ายแปะจะคว้าตัวนางทั้งที่น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ฟ่านหรันซีก็ใช้เท้าข้างหนึ่งเตรียมเตะกล่องดวงใจของหลี่สิงหยาง
“อย่าได้คิดทำเช่นนั้น หากมันใช้การไม่ได้ เจ้าต้องรับผิดชอบชั่วชีวิต”
เขาว่าและคำรามขู่ นางจึงได้แต่ถอนหายใจแรงๆ แล้วบิดตัวหลบเลี่ยงไปอีกทาง ตั้งใจว่าอย่างไรก็ต้องช่วยฟ่านจื่อรั่วให้สำเร็จ ส่วนปีศาจอำมหิตตนนี้ ปล่อยไว้เสียก่อนนางยังมีเวลาคิดบัญชีกับเขาอีกยาวนาน
ฟ่านหรันซีไม่ได้สนใจคนตัวโต ยามนั้นบ่ายหน้าเพื่อไปช่วยลูกพี่ลูกน้อง ทว่าพอไปถึงก็พบเพียงแต่ซ่งเทาที่นอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น ส่วนฟ่านจื่อรั่วถูกพาขึ้นรถม้าแล้วหายไปจากจุดดังกล่าวอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูสาม คะ คุณหนูจื่อรั่ว ถะ ถูกจับตัวไป และทะ ท่านระวังตัวด้วย”
“พวกเจ้าออกมาทะที่นี่ มีใครรู้บ้างหรือไม่”
ซ่งเทาแทบไม่เชื่อหู และตาตนเอง ด้วยท่าทาง คำพูดของฟ่านหรันซีดูเหมือนหายเป็นปกติ ยิ่งกว่านั้น ยังเปี่ยมด้วยความมีไหวพริบ กระนั้นสาวใช้ก็ยังตอบว่า
“ท่านเจ้าเมืองไม่ทราบ ส่วนฮูหยินป่วย ทั้งหมดเป็นความลับ”
สาวใช้ตอบเรียบร้อย ฟ่านหรันซีก็จับสังเกตได้ว่า อีกฝ่ายมองนางอย่างสงสัย ดังนั้นมือเรียวจึงล้วงเข้าไปในอกเสื้อ ได้เข็มเงินมาก็จิ้มเข้าใส่จุดสลบของอีกฝ่ายทันที
เมื่อซ่งเทาไม่ได้สติ ร่างสูงของหลี่สิงหยางก็ใช้วิชาตัวเบามายืนตรงหน้าฟ่านหรันซี
ชายหนุ่มหัวเราะน้อยๆ เขาพอใจนางอยู่มาก ยิ่งเป็นสตรีที่ดูลึกลับ ชอบเล่นสนุกด้วยการแสดงบทบาทพิลึกพิลั่น เขาก็ยิ่งตื่นเต้นยามใกล้ชิด
“สตรีสมองพิการเช่นเจ้า ช่างเดินเหินคล่องแคล่ว และหายตัวไวยิ่งนัก นอกจากนั้น ของเล่นที่ซ่อนไว้ ยังมีสิ่งใดบ้าง ข้า...จะได้ระวังตัว”
ฟ่านหรันซีไม่อยากพูดสิ่งใดกับเขา จึงสะบัดหน้าไปอีกทาง ยามนี้ร้อนใจจะแย่
“ข้ารู้ว่า พี่สามพาเสี่ยวรั่วไปที่ใด” หลี่สิงหยางหมายถึง หลี่เสิ่นหลัวที่พาฟ่านจื่อรั่วขึ้นรถม้าไป
“มีผู้ใดถามหรือ...”
เขายกยิ้มมุมปาก แล้วก่อกวนนางด้วยการเอ่ยคำนั้น
“เป็นหรันซีน้อยๆ”
ฟ่านหรันซีทำคิ้วขมวด เสียงเขาและการแสดงออกในตอนนี้ คลับคล้ายช่วงเวลาในห้วงชีวิตสุดท้ายในชาติภพก่อนที่หลี่สิงหยางรู้ว่านางตั้งครรภ์ จู่ๆ เขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำดีต่อนาง อีกทั้งผู้ใดกลั่นแกล้ง หรือหาเรื่องฟ่านหรันซี บุรุษคนนี้ก็ไม่มีทางให้รอดพ้นโทษสถานหนัก รวมถึงพระสนมเยว่ผู้เป็นแม่เลี้ยงเขา
ทว่าเมื่อมองอีกมุมหนึ่ง ในช่วงวัยที่นางย้อนเวลามานี้ เป็นช่วงเวลาที่นางไม่เคยพบหลี่สิงหยางมาก่อน หากกล่าวว่าหาบุรุษผู้นี้อำมหิตโหดเหี้ยม ทำร้ายนางสารพัด แต่นั่นก็คือหลี่สิงหยางในชาติภพก่อน เอ สิ่งใด หรือ ผู้ใดกันที่เปลี่ยนหลี่สิงหยางให้เป็นบุรุษปีศาจอำมหิต เมื่อคิดแล้วหัวใจนางก็เต็มไปด้วยความบอบช้ำ
“พี่รั่วรั่ว จะต้องไม่ถูกผู้ใดทำร้าย หรือข่มเหง...”
คิ้วเข้มๆ ของชายหนุ่มเลิกสูงทั้งสองข้าง
“ข่มเหง”
เขาทวนคำ และมองใบหน้างดงามที่แสนเย่อหยิ่งของนาง
“ขะ ข้า หมายความเช่นนั้น”
“เด็กน้อย คงหมายถึงการหลับนอนกับบุรุษสินะ แต่ลูกสาวของใต้เท้าฟ่านนั่น นางล้วนทำตัวเองโดยแท้ และดูเหมือนจะชอบปีนเตียงบุรุษมากอำนาจและหล่อเหลา”
ฟ่านหรันซีหงุดหงิดขึ้นมาทันที เขากำลังก่อกวนนาง เฮ้อ ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ เหตุใดต้องเป็นเขาที่ตามตอแยนางด้วย
“เอาเถิด ลูกเต่าหัวหดสองตัวนั่น ข้าย่อมจัดการให้หรันซีได้ แต่ข้าไม่ทำงานให้ผู้อื่นโดยไม่ได้รับข้าจ้าง หรือสิ่งตอบแทน”
“ข้าย่อมจ่ายได้ หากทะท่านไม่ใช่ คนละโมบ”
“ฮ่าๆ ๆ แต่ครั้งนี้ ข้าไม่รับเงิน หรือสิ่งของ ต้องการแค่น้ำใจจากหรันซี”
“หยุด ระเรียกข้าเช่นนะ นั่น ทะ ท่าน...”
นางคิดไม่ทัน จึงนิ่งไปชั่วขณะ ฝ่ายเขาเลยตอบแทน
“ทะ ท่านไม่คู่ควรสินะ ฮ่าๆ ๆ”
เสียงทุ้มๆ และใบหน้าหล่อเหลาจัด ที่กล่าวล้อเลียนนาง มันชวนให้ใช้ทั้งสิบนิ้วข่วนให้เกิดลายทั้งหน้าและทั่วลำตัวเสียจริง
“เช่นนั้น มีชื่ออื่น หรือตำแหน่งอื่นให้ข้าเรียกหรืออย่างไร”
“คุณหนูสาม... ทะ ท่านจงจำให้ขึ้นใจ ขะ ข้า คือเสี่ยวซี”
นางตะคอกเสียงดังใส่เขา ทั้งที่อยากพูดให้ยืดยาวเท่าที่สมองสั่งการ แต่ร่างกายนี้ ยังต้องฟื้นฟูอีกมาก ด้วยทั้งประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งความทรงจำบางส่วนขาดหาย ที่จะแจ่มชัดเห็นจะเป็นเรื่องในภายหน้าที่เกิดสิ่งชั่วร้ายกับนาง และตระกูลฟ่าน
“พานางกลับมาอย่างปะ ปลอดภัย ดะ ได้หรือไม่”
“ได้ แต่หรันซี ต้องทำที่ข้าต้องการหนึ่งข้อ”
“คะ คุณหนูสาม”
เขาส่ายหน้า และเอ่ยว่า
“ซีซี...”
เขาเรียกนางเช่นนี้ยิ่งแล้วไปใหญ่ สมองหญิงสาวขาวโพลนไปหมด และท้องน้อยร้อนวูบวาบ แล้วตามด้วยอาการคลื่นไส้ นางทนต่อปากต่อคำกับเขาไม่ไหวแล้ว
“ข้าอยากกลับจวน ละ หลีกทาง!”