ตอนที่2โป๊ะแตก

1328 คำ
คลั่งรัก 2 ขนมผิง “ตกลงคุณคือคนที่พ่อฉันจ้างมาดูแลฉันจริงๆหรอ” ฉันถามขึ้น ไม่ยอมก้าวเข้าไปในรถตู้สีดำที่มีผู้ชายหื่นกามนั่นนั่งรออยู่ด้านใน “พ่อคุณไม่ได้จ้างผม” “นั่นไง ฉันว่าแล้ว พ่อไม่มีทางจ้างคนโรคจิตแบบคุณหรอก พวกคุณเป็นใคร!!?” ฉันรีบควานหาสเปรย์พริกไทยในกระเป๋าเพื่อเตรียมเอามาป้องกันตัว ถอยห่างจากพวกเขาอย่างระมัดระวัง “โอ๊ย กูจะบ้า หน้าตาก็สวยทำไมไม่ฉลาดเลยวะ” ริมฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่น นึกเจ็บใจที่โดนเขาพูดใส่แบบนั้น และมือฉันดันไวกว่าสมอง ฉีดสเปรย์พริกไทยใส่เขาเต็มๆ “โอ๊ยแสบ เธอฉีดบ้าอะไรของเธอใส่ฉัน” “คุณชายเป็นอะไรรึเปล่าครับ” “แสบสิวะ เอาน้ำมา” “ครับๆ” ผู้ชายในชุดสูทสีดำคนหนึ่งรีบหาน้ำยื่นให้ไอ้หน้าหล่อแต่โรคจิตคนนั้นและผู้ชายในชุดสูทสีดำอีกคนเดินเข้ามาหาฉัน “อย่าเข้ามานะ” ฉันทำท่าจะวิ่งหนีแต่โดนมือของใครบางคนกระชากแขนไว้ “คิดจะหนีหรอ” ใบหน้าจากที่เคยหล่อเหลาราวเทพพระบุตรบัดนี้แลดูน่ากลัวยิ่งกว่าอสูรกายเสียอีก “ก็คุณ...” “แค่เธอว่าฉันเป็นโรคจิตก็มากเกินพอแล้วนะ นี่เธอกล้าทำร้ายร่างกายกันเลยรึไงวะ!!!” ฉันสะดุ้งโหยง ตกใจเสียงตะคอกของเขา น้ำใสๆเอ่อล้นตรงขอบตา ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครดุขนาดนี้มาก่อนเลย T_T “คุณชายครับผมว่า” “ไม่ต้องเสือก!!” บอดี้การ์ดสองคนนั้นรีบถอยออกไปด้วยความรวดเร็ว ใบหน้าของผู้ชายตรงหน้าฉันเริ่มดุขึ้นกว่าเดิม(ยังดุได้อีก) “ส่วนเธอ มานี่ ฉันฆ่าเธอแน่” เขาลากแขนฉันด้วยแรงที่ฉันไม่อาจขัดขืนได้ไปทางบันไดหนีไฟก่อนจะผลักฉันกระแทกกับประตูเมื่อมันปิดลง “โอ๊ย เจ็บนะTT” “ไม่ต้องมาบีบน้ำตา!!” “T_T” แง ฉันไม่ใช่คนขี้แยเหมือนยัยลูกชุบแต่สถานการณ์ตอนนี้มันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้วจริงๆ “อย่ามาร้องนะ ที่เธอทำฉันเจ็บกว่านี้อีก” จริงอย่างที่เขาว่าเพราะตาเขาที่โดนฉันฉีดสเปรย์ใส่ตอนนี้แดงเถือก น่ากลัวเชียว แต่ก็ใช่ว่าเขาจะมาตะคอกฉันแบบนี้ได้สักหน่อย “ก็คุณ ฮรึก เป็นใครไม่รู้และคุณ ฮรึก ไม่น่าไว้ใจ” ฉันพูดไปปาดน้ำตาไป ให้ตายเถอะ นี่มันไม่ใช่ขนมผิงเลย ขนมผิงที่คนภายนอกรู้จักต้องเชิดๆ หยิ่งๆสิ “ถ้าพ่อเธอไม่ส่งฉันมา ฉันจะมารับเธอหาพระแสงอะไรวะ” เสียงของอ่อนลง ฉันเงยหน้าสบตากับเขาครู่หนึ่งก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นเขาใช้มือขยับเนคไทเหมือนจะถอดออก “พ่อเธอไม่ได้จ้างฉันแต่พ่อฉันบังคับให้มาดูแลเธอ รู้ไว้ซะด้วยยัยผิงผิง” “แล้วทำไมไม่พูดตั้งทีแรก” ฉันบ่นอุบอิบก่อนจะมีอะไรสักอย่างโยนมาใส่ เมื่อมองดูจึงรู้ว่าเป็นเนคไท “เช็ดน้ำตาซะ น่าเกลียด” พูดจบเขาจึงผลักประตูหนีไฟเดินออกไป ทิ้งให้ฉันยืนถือเนคไทในมือ อ้าปากค้าง เมื่อกี้เขาว่าไงนะ เขาว่าฉันน่าเกลียดอย่างนั้นหรอ!! ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ฉันกำลังนั่งอยู่ในรถตู้หรูสีดำของไอ้โรคจิต ไม่ใช่สิ เขาบอกว่าเขาชื่อฟรานซิสถ้าฉันเรียกโรคจิตอีกเขาจะเย็บปากฉัน(โหดร้าย) “ฉันต้องนอนโรงแรมแอพเพอริทิปเท่านั้นนะ” ฉันพูดขึ้นทำลายความเงียบ โรมแรมแอพเพอริทิปเป็นโรงแรมประจำของฉันเอง ฉันมักจะไปนอนที่นั่นเวลามาทำธุระที่เมืองไทยแทนที่จะไปนอนคอนโดน้องสาวเพราะยัยนั่นซกมกจะตาย “หึ เธอชอบโรงแรมนั้นรึไง” “อืม ดีไซน์ดี ทำเลดี บริการดีและเจ้าของคงเป็นคนดีกว่าใครบางคน” ฉันอดไม่ได้ที่จะตอบแบบแอบเหน็บแนมฟรานซิสด้วยความหมั่นไส้เพราะก่อนหน้านี้เขาหาว่าฉันตาต่ำ ผู้หญิงเกือบทั้งประเทศหลงใหลเขาแต่ฉันกลับว่าเขาโรคจิต “ก็จริงอย่างที่เธอพูด เจ้าของที่นั่นหล่อและดี เรียกว่าเพอร์เฟคเลย” “เหอะ พูดอย่างกับรู้จัก” ฟรานซิสไม่ตอบเพียงแค่ไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะก้มลงเล่นมือถือต่อ “เขาคงไม่ลดตัวมายุ่งกับนายสินะ” “หึ ถามหน่อยระหว่างฉันกับเจ้าของแอพเพอริทิป เธอจะเลือกใคร” อยู่ฟรานซิสก็ยื่นหน้าเข้ามาถาม แขนแกร่งสองข้างคร่อมเบาะฉันไว้แต่ฉันต้องทำเป็นเชิดเพื่อกลบอาการประหม่า “ก็ต้องเลือกเจ้าของแอพเพอริทิป” “ทั้งที่ยังไม่เคยเจอหน้าเนี่ยนะ” “ใครบอก ฉันรู้จักเขา เราสนิทกันจะตาย” ด้วยความอยากเอาชนะ ฉันเลยพูดออกไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วแม้แต่ชื่อเจ้าของแอพเพอริทิป ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ>_< “สนิทกันขนาดนั้นเลย” ฟรานซิสถามขึ้นเสียงสูง ยกยิ้มมุมปากเหมือนดูถูก “เออ ถ้าเจอ ฉันจะกระโดดจูบให้ดู” “หึหึ แล้วจะรอดู” บ้าจริง พูดอะไรของแกออกไปเนี่ยยัยขนมผิง ถ้าเกิดเจอขึ้นมาจริงๆ ฉันจะกระโดดจูบคนที่ไม่รู้จักกันได้ยังไง -_-“ ฉันนั่งกุมขมับอยู่คนเดียว เลยไม่ทันสังเกตเห็นว่าคนด้านข้างแอบยิ้มๆขำๆกับท่าทางหนักอกหนักใจของฉัน โรงแรมแอพเพอริทิป เราเดินทางมาถึงโรมแรมซึ่งฟรานซิสพาฉันเข้ามาในทางที่ฉันไม่เคยรู้ว่ามี แถมห้องที่เขาพามายังเป็นชั้นเดียวกับที่จอดรถ เหมือนทั้งชั้นเป็นไพรเวทยังไงอย่างนั้น “นี่ห้องใคร” ฉันถามขึ้นเมื่อมองไปรอบห้องเนื่องจากห้องนี้ดูไม่เหมือนห้องพักของทางโรงแรม มันดูหรูหรากว้างขวางและลึกลับกว่าปกติ “ห้องฉัน” “ถ้าอย่างนั้นช่วยกรุณาไปส่งฉันที่ห้องพักของฉันด้วย” “ที่นี่แหละห้องพักของเธอ” “ฉันไม่ตลก!” ฟรานซิส ยักไหล่ก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตออกเผยให้เห็นแผงอกกำยำ น่าสัมผัสของตัวเอง “หึหึ มองขนาดนี้ รับผมไปทานมั้ยครับ” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่น เดินตรงเข้าไปหาฟรานซิสก่อนจะต้องหยุดชะงักเมื่อมีคนเดินเข้ามา “คุณชายเรียกดิฉันหรอคะ” “อืม เดี๋ยวให้คนมาจัดห้องนั้นด้วยนะ” ฟรานซิสหันไปพูดกับสาวในชุดเมทคนนั้น ชี้ไปทางประตูสีขาวด้านขวามือ คือห้องเขาแบ่งเป็นสองฝั่ง ซ้ายและขวาเป็นทางเดินยาวและมีห้องโถงกว้างที่เรากำลังยืนกันอยู่ตรงกลาง “ไม่ต้อง ฉันไม่ยอมนอนห้องเดียวกับนายหรอก” “เอ่อ...” “คุณคะ ดิฉันขอพบเจ้าของโรมแรมได้มั้ยคะ” “เอ่อคือ” แม่บ้านคนนั้นมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย ฉันเลยรีบพูดต่อ “ฉันรู้จักกับเขาและเขาจองห้องอื่นไว้ให้ฉัน ฉันต้องการรู้ว่าห้องไหน” สิ่งที่ฉันพูดเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด ฉันแค่พูดไปเพื่อให้หลุดออกไปจากห้องนี้เท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าคำตอบของแม่บ้านคนนั้นจะทำให้ฉันช็อกระดับสิบ “คือ คุณฟรานซิสไงคะเป็นเจ้าของโรมแรมนี้” “0_0” “ไงครับ ไหนบอกเจอกันจะกระโดดจูบไง” ฟรานซิสพูดพลางยื่นหน้าเข้ามาจะจูบฉันจริงๆ ฉันเลยรีบดันหน้าเขาออก “อร๊าก ออกไปนะ” “อะไร เราสนิทกันไม่ใช่หรอ หึหึ” ——————-
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม