บทที่ 8 สาวใช้คนใหม่

1290 คำ
            ไป๋ฉิงเหวินรับทราบแล้วพานางไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นสตรีชาวบ้านเพื่อพบกับนายหน้าจัดหาสาวใช้ “เถ้าแก่จางนี่คือน้องสาวของข้า นางอยากเป็นสาวใช้ในคฤหาสน์หรูหรา ค่าจ้างเราไม่เรียกแพงเหมือนรายอื่น ท่านพอจะหาทางให้นางได้เข้าไปทำงานที่นั่นได้หรือไม่?”             ชายวัยกลางคนได้ยินราคาที่ชายหนุ่มเสนอแล้วก็ทำตาโต “เจ้าจะให้ข้าได้ส่วนค่าแรงของนางด้วยหนึ่งปีเทียว”             “ใช่! ข้าใฝ่ฝันอยากอยู่บ้านหลังใหญ่ ตอนที่พี่ใหญ่พาข้าเดินผ่านคฤหาสน์นอกเมืองข้าชอบใจมากอยากทำงานที่นั่น” นางทำหน้าตาเด๋อด๋าดูเพ้อฝันเหมือนสาวบ้านนอกที่เพิ่งได้เข้ามาในเมือง ทว่าหน้าตาของนางเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้านและดูน่ารักนักหนา             “เจ้าหนุ่ม น้องสาวของเจ้าช่างน่ารักเสียจริง หากเจ้าไม่บอกว่าบ้านอยู่บนเขาล่ะก็ ข้าคงคิดว่านางเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่สักคน”             “โอ๊ย! คุณหนงคุณหนูอะไรเล่า? ท่านดูเสื้อผ้าพวกเราสิทั้งเก่าทั้งหยาบกระด้างขนาดนี้ นางแค่โชคดีที่อยู่บนเขามีน้ำแร่ให้อาบเลยผิวพรรณดี” ไป๋ฉิงเหวินแก้ตัวอย่างรวดเร็วจนซินเอ๋อร์นึกชื่นชมพี่ชายของนาง             “มิน่า! ผิวพรรณของนางจึงดูคล้ายคนที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อน ทั้งขาวผ่องและเนียนละเอียด” เถ้าแก่จางเอียงคอมองซ้ายมองขวาอย่างชื่นชม เขาเป็นนายหน้าจัดหาสาวใช้ที่เพิ่งย้ายมาจากเมืองเทียนถางจึงยังไม่เคยพบเห็นคู่หูทั้งสองนี้มาก่อน เมื่อก้มหน้าลงคำนวณส่วนแบ่งที่จะได้จากค่าจ้างของนางหนึ่งปี นอกจากตนจะได้ค่านายหน้าแล้ว ยังได้เงินของนางเพิ่มอีกหากที่ไหนได้ “อา! ดาวโชคช่างเข้าข้างเจ้าเสียจริง วันนี้พ่อบ้านที่คฤหาสน์เพิ่งมาแจ้งว่าต้องการสาวใช้เพิ่มอีกสักคน ข้าทำสัญญาจ้างเจ้าเลยก็แล้วกัน”             เหลียงเจินซินมองเถ้าแก่จางอย่างรู้ทัน ‘ดาวโชคของข้าหรือของเจ้ากันแน่ หึ! เห็นเงินล่ะก็ตาโตเชียว’             “ท่านรีบเข้าเถิด ข้าอยากไปทำงานที่นั่นจะแย่แล้ว”             เถ้าแก่จางได้ยินเช่นนั้นก็รีบกุลีกุจอเชิญให้สองพี่น้องตระกูลเยี่ยนั่งลงแล้วทำสัญญาว่าจ้าง “แม่นางเยี่ย เจ้ารอสักครู่เดี๋ยวข้าจะให้คนไปส่งเจ้าที่คฤหาสน์เหวินเต๋อ”             นายน้อยเหลียงเพิ่งรู้ว่าคฤหาสน์แห่งนั้นชื่อว่าเหวินเต๋อ นางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองกับท่านพ่อเดินออกมาทางประตูเล็กด้านข้างจวนจึงไม่ได้อ่านชื่อคฤหาสน์  มือปราบไป๋รีบหันไปบอกน้องสาว “ประเดี๋ยวข้าจะไปส่งเจ้ากับพวกเขาด้วย”             “ดี! เราต้องไปหาจุดส่งข่าวด้วย”             ด้วยความดีใจที่ได้กำไรอย่างล้นเหลือเถ้าแก่จางจึงให้คนของตนเองเอารถม้าคันเล็กไปส่งสองพี่น้องที่คฤหาสน์ นักสืบซินหัวเราะร่วน “เจ้าดูสิ! เถ้าแก่จางได้กำไรจากค่าแรงข้าเยอะจนเราได้นั่งรถม้าแน่ะ”             “หึ! ใช่สิ ได้ทั้งค่านายหน้าและได้ทั้งค่ากินแรงงานเจ้า ผู้ใดไม่เอาก็บ้าแล้ว”             “เอาน่า แต่ข้าก็จะได้เข้าไปนั่นตามที่ต้องการนี่”             “เจ้าระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน อย่าให้เขาจับได้ว่าปลอมตัวมา”             “เอกสารเจ้าทำรัดกุมดีแล้วมิใช่หรือ?”             “ระดับมือปราบไป๋แล้วไม่ต้องห่วง สองพี่น้องนี้มีชื่อในทะเบียนราษฎร์จริงๆ แค่อยู่หมู่บ้านห่างไกลลึกในหุบเขาโน่น คงไม่มีผู้ใดอุตริไปสืบหาดอก”             “เยี่ยมจริงๆ สมกับเป็นพี่ชายของข้า”             สองพี่น้องสรรเสริญเยินยอกันไปจนถึงรถม้าแล่นถึงชานเมือง             “ประเดี๋ยวแม่นางเข้าไปข้างในกับข้า ส่วนพี่ชายเจ้าให้รออยู่ข้างนอกก็แล้วกันเพราะเจ้าของคฤหาสน์นี้ไม่ชอบให้ผู้ใดเข้าไปวุ่นวายโดยไม่ได้รับอนุญาต”             ไป๋ฉิงเหวินหันไปสบตาญาติผู้น้อง “เดี๋ยวข้าขอสั่งความกับน้องสาวข้าสักสองสามประโยคก่อน”             “เอาสิ” คนของเถ้าแก่จางเห็นว่าพวกเขาจะต้องแยกจากกันแล้วก็นึกเห็นใจ จึงปล่อยให้สองพี่น้องคุยกันสักเล็กน้อย ไป๋ฉิงเหวินยืนหันหลังบังไว้แล้วชี้ไปที่กอไผ่ใหญ่ริมรั้วด้านข้าง ลดเสียงลงพอได้ยินกันสองคน             “กอไผ่ตรงนั้นนะ เหมือนเดิม”             “อืม”             สองพี่น้องที่เคยส่งข่าวหากันด้วยวิธีที่ผู้อื่นไม่รู้อยู่บ่อยครั้ง พยักหน้าให้กันจากนั้นแม่นางเยี่ยซินก็รับห่อผ้าจากพี่ชายแล้วเดินไปหาผู้มาส่ง “ข้าพร้อมแล้ว”             นางเดินผ่านเข้าประตูเล็กที่เคยมาแล้วครั้งหนึ่งตามหลังผู้มาส่งไปติดๆ ในใจก็คะเนว่าวันนั้นนางกับเขายืนอยู่ไกลกันมาก เขาก็คงจะมองหน้านางไม่ถนัดนัก เมื่อนางเดินเข้าไปถึงตำแหน่งที่เขายืนมองนางครั้งก่อนก็ลองมองไปยังจุดที่ตนเอี้ยวศีรษะหันกลับมามองเขาก็เห็นว่า ระยะไกลมากพอที่จะสังเกตใบหน้าผู้ใดได้ไม่ถนัดนัก นางลองมองดูชายที่เฝ้าหน้าประตูก็มั่นใจว่าชายผู้ใส่หน้ากากและคนสนิทผู้นั้นคงจำใบหน้านางไม่ได้เป็นแน่ ส่วนคนเฝ้าประตูมิได้สนใจสังเกตผู้คนสักเท่าใด จึงมิได้สนใจจดจำ             ‘เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว ข้าล่ะกลัวว่าเขาจะมองเห็นข้าได้ถนัดเสียอีก ที่แท้ก็ไกลจนมองใบหน้าได้ไม่ชัด’             ทว่าผิดคาด นางมิได้เจอคนที่อยากเจอ ผู้มาส่งสาวใช้นำหนังสือรับรอง สัญญาว่าจ้างและทะเบียนราษฎร์ของนางไปยื่นให้กับพ่อบ้านเมี่ยว เมื่อชาย             วัยกลางคนมองเห็นสาวใช้มาใหม่ก็ชะงักเล็กน้อย             “ข้ามิได้บอกเถ้าแก่ของเจ้าหรือว่าห้ามเอาสตรีสะสวยมาส่งที่นี่” ใบหน้าบึ้งตึงของพ่อบ้านทำให้เหลียงเจินซินต้องหันไปมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ ที่นี่ไม่อยากได้สาวใช้หน้าตางดงาม ช่างน่าแปลกเสียจริง นางเคยได้ยินว่าคนส่วนใหญ่เมื่อเห็นสาวใช้หน้าตาดีก็มักจะส่งไปรับใช้เจ้านายเพื่อบางครั้งก็หวังให้เป็นสาวใช้อุ่นเตียง             “ข้าไม่ทราบ เห็นทีท่านน่าจะลืมระบุไป”             พ่อบ้านเมี่ยวก้มลงอ่านเอกสารที่ตนส่งไปอีกครั้งหนึ่งก็พยักหน้า “เป็นข้าที่พลาดไปจริงๆ แต่ก็ช่างเถิดถึงยังไงนางก็ทำงานแถวโรงครัวคงจะไม่ได้เจอกับนายท่านอยู่แล้ว” นางสังเกตว่าบุรุษที่ทำงานที่นี่ล้วนรูปร่างสูงใหญ่กว่าคนทั่วไปจนแลดูน่ากลัว ‘คนในคฤหาสน์น่ากลัวเยี่ยงนี้ ยังมีคนกล้าขโมยออกของไปจำนำอีกหรือนี่ หากโดนจับมาโบยคงตายตั้งแต่สิบทีแรกแล้วกระมัง’ นางเอี้ยวตัวกลับไปมองชายร่างใหญ่สองคนที่ยืนเฝ้าหน้าเรือนนี้อีกครั้งด้วยความรู้สึกหวาดๆ             “ซูปี้เจ้าพานางเอาของไปเก็บที่ห้องพักให้เรียบร้อย แล้วบอกนางด้วยว่าหน้าที่รับผิดชอบของเจ้าสองคนต้องทำสิ่งใดบ้าง?”             “เจ้าค่ะ” สาวใช้ที่หน้ากลมแบนดูเรียบร้อยรับคำแล้วเดินนำหน้านางไปทางด้านหลัง ผ่านโรงครัวที่ผู้คนทำงานกันขวักไขว่ เรือนหลังน้อยใกล้รั้วด้านหลังคือที่พักของนางและหมิ่นซูปี้ “นี่ล่ะห้องพักของเจ้ากับข้า”             “ที่นี่มีสาวใช้แค่เราสองคนหรือ?”   ----------------------------
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม