ซ่า~
สายน้ำเย็น ๆ ไหลลงบนร่างกายเรียกความสดชื่นกลับมา
ตอนแรกจะนอนแช่ในอ่างแล้วแต่เกรงใจ กลัวว่าเราจะเหมือนใช้ของใช้ร่วมกัน แค่คิดมันก็เขินจนตัวแทบแตกเลยเลือกอาบน้ำจากฝักบัวดีกว่า
รอบนี้ฉันหยิบชุดเป็นจั้มสูทแบบกางเกงขายาวผ่าข้างแหวกสูงถึงขาอ่อน ส่วนด้านบนเป็นแขนตุ๊กตาเว้าลึกตรงอกแต่ไม่ได้ดูโป๊จนน่าเกลียด
ชุดนี้ซอฟต์สุดแล้วนะ ถ้าปกติอยู่ที่นู่นสไตล์ฉันนี่เป็นฝรั่งจ๋าเลย เปิดบนปิดล่าง เปิดล่างปิดบน เน้นเซ็กซี่ขยี้ใจชาย
แต่อย่างว่าที่นู่นสาว ๆ ส่วนใหญ่ก็แต่งแบบนั้นทำให้ผู้ชายไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่
ปึง!
ปิดประตูห้องเรียบร้อย สองขาก้าวเดินกลับไปที่บ้านหลังใหญ่อีกครั้ง เริ่มเห็นผู้คนกำลังขวักไขว่แลดูชุลมุน
"มีอะไรให้ช่วยไหมคะ" ฉันถามผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าจะอายุเยอะกว่านิดหน่อย
"คุณเป็นแขกของนายหญิง เข้าไปนั่งด้านในเถอะค่ะ" เธอพูดกับฉันอย่างนอบน้อม
แม้จะเคยเข้าออกบ้านป้าขจีตั้งแต่ยังจำความไม่ได้แต่เพราะหายไปเรียนเมืองนอกหลายปีทำให้จำใครที่นี่ไม่ได้สักคน หมายถึงคนใช้น่ะ
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอหนูเจ้าจันทร์" เสียงติดแหบของผู้ชายวัยกลางคนน่าจะอายุราว ๆ ห้าสิบปลาย ๆ ถามขึ้น
ท่านนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์รอบเช้าวันนี้อยู่
"สวัสดีค่ะคุณลุง" คนตรงหน้าแม้จะอายุเกือบจะเข้าเลขหกแล้วแต่ใบหน้าท่านยังหล่อเหลาฉบับรุ่นเก๋าอยู่ ซึ่งนั่นไม่แพ้กับลูกชายของท่านที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้สักนิดเดียว
เอาจริง ๆ ถ้าให้เฮียราชย์มานั่งคู่กับพ่อของเขาคงจะเรียกแฝดคนละช่วงวัย
"ไปอยู่ที่นู่นตั้งนาน ลุงนึกว่าจะไม่กลับมาเยี่ยมเยือนฝั่งนี้ซะแล้ว"
ลุงจอมศักดิ์ เจ้าของธุรกิจสายการบิน TPs-airlines และเป็นนายใหญ่ของบ้านทวีทรัพย์ไพศาลเอ่ยแซวเล่น
"เจ้าจันทร์ต้องกลับมาอยู่แล้วค่ะ" มาตามหาหัวใจเจ้าจันทร์ ต่อท้ายประโยคในใจเมื่อเหลือบเห็นรูปถ่ายของคนเย็นชาตั้งคู่กับครอบครัวอยู่ที่ตู้โชว์ใบเขื่อง
"แล้วมีแพลนจะอยู่นี่ยาวหรือกลับไปที่นั่นอีกล่ะ"
"คงอยู่ที่นี่ค่ะ เจ้าจันทร์เรียนจบแล้ว" ไม่มีข้ออ้างที่จะหนีไปที่ไหนได้อีก ยกเว้นว่าฉันจะย้ายหนีหัวใจตัวเองไปตลอดชีวิต
"ดีแล้วลูก แม่ของหนูมาบ่นคิดถึงเรากับขจีทุกวัน" ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ กลับไป
แม่นะแม่ ขนาดฉันคอลฯ หาท่านทุกวัน วันละแทบจะสามเวลายังจะมาบ่นกับคนอื่นเหมือนลูกสาวปล่อยทิ้งงั้นแหละ
"หิวหรือยัง เดี๋ยวลุงให้เด็กตั้งโต๊ะให้ ลุงเพิ่งทานข้าวเที่ยงเสร็จเมื่อกี้เอง" เวลาผ่านไปกี่ปี สมาชิกบ้านหลังนี้ยังอบอุ่นกับฉันเช่นเดิม
"ยังค่ะ แล้วป้าขจีไปไหนคะ" ปกติถ้าสามีอยู่บ้าน ป้าขจีก็ต้องอยู่ข้าง ๆ ด้วย
"ไปบ้านหนูไง"
ป้าขจีไปบ้านฉัน?
"คืนนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดคุณจันทร์เพ็ญแม่ของหนู ขจีเลยแวะไปคุยเล่นจะได้ไม่มาที่นี่ให้เสียแผน"
อ้อ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง
แต่เอาจริง ๆ แม่ฉันจะเซอร์ไพรส์อยู่ไหมเนี่ย ก็ป้าขจีมักจะจัดเลี้ยงวันเกิดให้แม่ฉันแบบนี้ทุกปี พูดให้ถูกคือผลัดกันจัดงานเมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดของกันและกัน
"งั้นเจ้าจันทร์ขออนุญาตเดินดูรอบ ๆ บ้านได้ไหมคะ"
"เอาสิ ตามสบายเลย คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเอง" ลุงจอมศักดิ์ส่งยิ้มมาให้ ฉันเลยได้แต่ก้มหัวให้ท่านเพื่อมารยาทแล้วปลีกตัวออกมา
ตุ้บ!
"โอ๊ย!!" เดินมายืนรับลมเย็น ๆ ข้างบ้านได้ไม่ถึงห้านาที กิ่งไม้ก็หล่นลงมาใส่หัว ซวยแต่วันเชียว
"เมี้ยววว" เสียงต้นเหตุที่ทำให้กิ่งไม้หล่นใส่หัวฉันร้องขึ้น
เงยหน้าตามเสียงเห็นเจ้าแมวขนปุกปุยนอนกระดิกหางไปมาอยู่บนกิ่งไม้ขนาดใหญ่ ใต้ร่างของมันมีร่างหนานอนราบไปกับความยาวของกิ่งไม้นั้น ใบหน้าหล่อเหลากำลังหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์
เมี้ยวววว~
"ว้าย!!"
ให้ตายเถอะฉันเกือบล้มแหนะ เจ้าแมวอ้วนขนปุกปุยสีขาวจู่ ๆ ก็กระโดดจากกิ่งไม้ด้านบนลงมาให้ฉันอุ้ม
"อย่ามาอ้อนนะ รู้จักกันเหรอเรา" แมวตัวนี้ดูเชื่องดีนะ ขี้อ้อนซะด้วย
"เหมี๊ยวววว" มีการร้องตอบฉันอีก
"ชื่ออะไรคะสุดหล่อ" เมื่อกี้เห็นพวงไข่เล็ก ๆ ของเจ้าอ้วนเลยรู้ว่าเป็นเพศอะไร
"แคท" เสียงทุ้มของคนที่คิดว่าหลับอยู่ตอบ
"ชื่อเจ้าแคทเหรอเรา" ฉันไม่ได้สนใจคนบนต้นไม้
ที่ไม่สนใจเพราะเขาไม่ได้ใส่กระดุมเสื้อ แล้วพอเขานอนโดยที่ไม่มีเจ้าแมวอ้วนทับอยู่ซิกซ์แพ็กเขาก็เลยโชว์เด่นแก่สายตา ยิ่งถ้ำมองฉันยิ่งรู้สึกร้อนที่ใบหน้าเลยไม่กล้าเงยมองเขาอีกเลย
"เมี๊ยวววว" คราวนี้ร้องเสียงสูงพร้อมเอาหน้ามาไซ้ซอกคอฉันอีก
"ไม่เอาสิ จักจี้นะ" ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เจ้าแมวอ้วนเอาแต่ถูไถขนปุย ๆ ของมันตามร่างกายฉัน
นี่คิดอะไรกับเจ้าจันทร์ไหมเรา?
ตุบ!!
เสียงเหมือนมีอะไรหล่นลงมาอีก พอหันไปมองเป็นร่างสูงผมสีแดงอมชมพูยืนอยู่บนพื้นห่างฉันไม่กี่ก้าว
"มานี่" ลงมาจากต้นไม้เสร็จก็เรียกแมวตัวเองกลับทันที
คนอะไรใจร้ายจัง...
"ไปสิเจ้าแคท เจ้าของแกเรียกแล้ว" ฉันนั่งยอง ๆ ลงเพื่อวางแมวอ้วนส่งคืนเจ้าของ แต่ดูเหมือนแมวตัวนี้จะติดฉันแล้วล่ะ
"อย่าดื้อ" เสียงเข้มกึ่งดุดังขึ้น เขาใช้สายตาเรียบนิ่งมองมาทางฉัน
เอ่อ... มองแมวหรือมองฉันกันล่ะนั่น
"แง้วววว" ครั้งนี้เหมือนมันกำลังขู่เจ้าของมันแล้วกันมาซุกอกฉันใหญ่เลย
"แปรพรรค?" คนถูกเมินกำลังทะเลาะกับแมว
"งั้นแกก็เตรียมอายุสั้นได้เลย" เสียงเย็นชาดังขึ้น
ถ้าคนอื่นฟังคงงงกันว่าเขาหมายความว่ายังไง แต่เพราะเป็นเจ้าจันทร์คนนี้ถึงรู้ความหมายแฝงของคำว่า 'อายุสั้น' นั้นได้
"เจ้าจันทร์คงไม่ใจร้ายถึงขั้นฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรอกค่ะ" ทนไม่ไหวเลยตะโกนไล่หลังออกไป
คนตัวโตชะงักขาที่กำลังจะก้าวต่อแล้วเอียงองศาใบหน้าหันมามองฉันเล็กน้อย
"ใครจะรู้ ถ้าฉันบอกว่าแมวตัวนั้นคนที่ฉันรักให้มา มันอาจจะชีวิตสั้นลงก็ได้"
เจ็บ! เป็นประโยคสนทนาที่เจ็บปวดที่สุดเท่าที่ได้คุยมา
เขากำลังตีตราว่าฉันเป็นคนพาล เป็นผู้หญิงจิตใจโหดเหี้ยมโดยการเอาความผิดพลาดในอดีตมาตัดสินว่าฉันจะทำลายข้าวของทุกอย่างที่เป็นของคนรักเขา