สองนางที่จับมือกันเป็นพันธมิตรเฉพาะหน้าชั่วคราว ก็หันมามองหน้ากันแบบรู้ใจ ก่อนจะเดินไปทางสามีของพวกตน
“พี่สิงห์ ทำไมไม่กลับบ้านบ้างล่ะจ๊ะ หลายวันแล้วนะ” ชิดชนกเมียคนที่สองเข้าไปถามสามีด้วยความคิดถึง และหึงผู้ชายของตนเองมากกว่าดวงใจเมียคนแรกของพันสิงห์เสียอีก
“พี่มาทำงานนะ ไม่เห็นเหรอว่าพี่มาเปิดสำนักหมอดูใหม่ที่นี่ และที่นี่ลูกค้าก็เยอะมากด้วย ถ้ากลับไปบ้าน ก็ไม่ค่อยมีลูกค้ามากมายเหมือนเดิมแล้ว สู้ที่นี่ไม่ได้”
คำตอบของเขาก็แค่แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆเท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้เดือดร้อนสักนิดกับการทำงานของเขา ไม่ว่าลูกค้าจะมากหรือจะน้อย เขาก็ไม่ได้สนใจ แต่เขาสนใจสาวน้อยที่กำลังหัวเราะคิกคักอยู่กับไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนนั่นมากกว่า เพราะหล่อนแนะนำว่าเขาเป็นเพียงเจ้าหนี้ของพ่อแม่หล่อนเท่านั้น ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันถึงยังมีความหวัง
ดูตามันก็รู้ว่ามันคงคิดจะแอ้มลลิน แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าลลินรู้สึกยังไงกับผู้ชายคนนั้น
“พี่สิงห์แล้วว่าที่เมียเด็กของพี่กำลังคุยกับใครอยู่เหรอ หล่อจังเลย” ดวงใจที่ร้ายลึกกว่าถามสามีแบบหยั่งเชิง
“เพื่อนกันน่ะ นานๆเจอกัน”
“เหรอจ๊ะ ใช่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อหรือเปล่า”
“ก็ลองมันคิดไม่ซื่อดูสิ”
ดวงใจเก็บอาการหึงหวงแทบไม่มิด เมื่อรู้สึกได้ว่าสามีของเธอท่าจะหลงว่าที่เมียเด็กคนนี้มากๆ หลงถึงขนาดไม่พอใจที่มีผู้ชายคนอื่นมาคุยกันลลิน
และเธอก็มีความรู้สึกว่าอาจจะต้องเสียผัวคนนี้ให้กับเด็กสาวเมื่อวานซืนไปจริงๆก็ได้
เพราะขนาดยังไม่ได้แต่งงานกัน พันสิงห์ก็ถึงกับมาเปิดสำนักหมอดูที่นี่โดยใช้คำว่า ‘งาน’ มาบังหน้า และถึงขนาดไม่พอใจที่มีผู้ชายคนอื่นมาคุยกับเด็กสาวคนนั้น มันเริ่มไม่โอเคแล้วสำหรับเธอ
สำหรับชิดชนก แปลกเหมือนกันที่เธอไม่ได้หึงหวงอะไรนัก เพราะรู้ว่าถึงยังไงชิดชนกก็มีลูกให้กับพันสิงห์ยังไม่ได้เช่นเดียวกับเธอ เพราะต่างก็พยายามกันมาหลายปีจนพากันถอดใจแล้ว
แต่ว่าพันสิงห์อยากมีลูกมาก เขาจึงขอเธอมีเมียเพิ่มอีกคน ด้วยเหตุผลที่นอกจากเรื่องงานแล้ว ยังมีเรื่องลูกเข้ามาอ้างด้วยทำให้เธอต้องจำใจยอม เพราะยังไม่มีปัญญามีลูกให้กับเขาได้
“ยังไงพี่ก็ยังไม่กลับจนกว่าจะแต่งงานพาเมียเด็กของพี่เข้าบ้านใช่ไหม” ชิดชนกถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกเกลียดชังลลินขึ้นมาเต็มหัวใจในทันที
“ใช่”
เขาตอบสั้นๆ เพราะขี้เกียจขยายความ
“งั้นเราสองคนขอไปทักทายว่าที่เจ้าสาวของพี่ก่อนนะ ปะพี่ดวงเราไปทักทายแม่นั่นกันเถอะ ไปถามดูว่ามันดีใจจนเนื้อเต้นขนาดไหนที่จะได้แต่งงานเพื่อปลดหนี้ให้กับพ่อแม่ของมัน” ชิดชนกจับมือดวงใจร่วมทัพไปหมายไปกำจัดศัตรูหัวใจด้วยกัน
พันสิงห์มองตามหลังสองสาวแล้วต้องถอนหายใจหนักๆออกมา ‘หวังว่าจะไม่เกิดสงครามแย่งผัวแย่งเมียกันเหมือนในละครหลังข่าวสองทุ่มหรอกนะ”
ลลินที่กำลังคุยอยู่กับนิคมอยู่ตรงแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน ก็ตกใจที่จู่ๆก็เห็นผู้หญิงแปลกหน้าสองคนเดินตรงเข้ามาหา
เธอไม่รู้จักทั้งสองนางนี้หรอก เพราะไม่เคยเจอหน้า
แต่ทั้งสองนางรู้จักลลินดี
“นี่น้องลลินใช่ไหม เราสองคนเป็นเมียของพี่สิงห์นะ” ชิดชนกที่เป็นเหมือนทัพหน้ารีบเข้าทักทายคู่อริด้วยสีหน้ายิ้มร้าย คือปากปราศรัยแต่น้ำใจเชือดคอนั่นเอง
“ใช่ค่ะ”
“ฉันกับพี่ดวง เราต่างก็เป็นเมียพี่สิงห์เหมือนกัน แต่ว่าพี่สิงห์บอกเราว่าจะมีน้องลลินมาเป็นเมียคนที่สาม เราสองคนก็เลยมาทำความคุ้นเคยด้วยสักหน่อยจ้ะ หน้าตาสวยใสแบบนี้นี่เองพี่สิงห์ถึงอยากได้เป็นเมียอีกคน”
“แนน ที่พี่สองคนนี้พูดเป็นเรื่องจริงเหรอ แนนกำลังจะแต่งงานเหรอ”
“เอ่อ คือว่าแนน แนนต้องแต่งงานเพื่อปลดหนี้ให้พ่อกับแม่น่ะ”
“โธ่แนน ทำไมแนนถึงไม่โทรหาคมล่ะ คมช่วยแนนได้แน่นอน”
“ก็แนนไม่มีเบอร์ของคมนี่”
“แล้วแนนเป็นหนี้เขาอยู่เท่าไหร่”
“ล้านหนึ่ง”
“ล้านหนึ่ง! ทำไมเยอะขนาดนั้นล่ะ”
นิคมเองก็ตกใจไม่น้อย เขาก็เดาๆเอาว่าน่าจะหลักแสน อาจสักสองสามแสนเหมือนกับพ่อแม่ของเขา ที่เขาปลดหนี้ให้แล้วก่อนกลับมาบ้าน
แต่ว่าหนี้ของครอบครับของลลิน ‘เป็นล้าน!’ มันมากไปจริงๆ เพราะตอนนี้เงินเก็บของเขาก็มีประมาณนั้น แต่ว่าเขาต้องเก็บไว้เลี้ยงดูครอบครัวด้วย
“พ่อกับแม่ของแนนเคยติดการพนันมาก่อนน่ะคม เป็นหนี้พนัน” เธอตอบนิคมด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม เพราะอายเขาเหมือนกันที่ต้องบอกความจริงไปแบบนี้
“ว่าแล้ว คมก็ว่าต้องเป็นหนี้การพนันแน่ แต่ว่าขอเขาผ่อนผันไม่ได้เหรอ ให้คมช่วยได้นะ คมยินดี”
“ใช่แล้วน้องลลิน น้องนิคมน่ะเขาเป็นนักร้องเสียงดี ได้ทำงานดี รายได้ดี พวกพี่คิดว่าน้องนิคมคงช่วยน้องลลินได้แน่ๆจ้ะ” ดวงใจแสนอแนะออกไป
“แต่มันคงสายไปแล้วค่ะ ในเมื่อพ่อกับแม่ได้ยกแนนให้กับเขาไปแล้ว”
“ก็ล้มเลิกงานหมั้นได้นี่จ๊ะ เอาไหมพี่สองคนจะช่วยเองถ้าน้องลลินไม่เต็มใจ”
“จริงเหรอจ๊ะ พี่ทั้งสองคนจะช่วยแนนได้จริงๆเหรอจ๊ะ” ลลินเริ่มมีความหวังขึ้นมาเรืองรอง