ตอนที่ 8
Talk พีค
ผมมายังคอนโดแห่งหนึ่งที่เคยซื้อไว้ให้กัส กัสเขาเป็นเด็กต่างจังหวัดไม่ใช่คนที่นี่เพียงแต่เข้ามาเรียนต่อและหางานทำที่กรุงเทพด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
กัสเขาทำงานเป็นดีไซเนอร์เบื้องหลังให้กับรายการหนึ่งที่ผมเคยไปออก และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมและเขาได้เจอกัน
ผมไม่ได้ชอบเพศเดียวกันมาตั้งแต่เด็กหรอกนะครับ เพียงแต่ผมผิดหวังกับผู้หญิงมาเยอะ ทุกคนที่เข้ามาล้วนแต่อยากได้อยากมีในสมบัติของผมทั้งนั้น แต่พอมาเจอกัสเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย สามปีที่เราคบกันมาเขาดีกับผมมาก มากที่สุด
มีแต่คุณแม่ไม่เข้าใจนั่นแหละ
“ผมมาแล้ว” ผมและกัสเราต่างมีคีย์การ์ดกันคนละอัน ซึ่งถ้าผมจะมาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเคาะประตู “หายไปไหน?” ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยหลังจากที่เดินเข้ามากลับพบแต่ความว่างเปล่า
แต่เมื่อเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องก็ทำให้ผมได้เจอกับโพสอิทที่กัสนั้นแปะไว้ ความว่า...
“กัสมีธุระด่วน ต้องไปภูเก็ต 3 วัน มีอะไรฝากข้อความไว้นะ"
“ไปไม่บอกกันเลย ขี้งอนจริงๆ” ผมส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหากัส
“ฮัลโหล? กัสไปทำไมที่ภูเก็ต” เมื่อปลายสายกดรับ ร่างสูงก็ยิงคำถามใส่ทันที
“พอดีญาติกัสที่ภูเก็ตเขาป่วยน่ะ ไม่มีคนดูแลกัสเลยต้องไปดูแลแทน”
“ใช่เหรอ....? ผมมาหากัสที่คอนโดนรู้ไหม งอนผมจนต้องหนีไปไกลขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เปล่า...แต่มันกะทันหันจริงๆ น่ะ”
“อืม...เข้าใจแล้ว ไว้กลับมาผมจะง้อคุณก็แล้วกันนะ”
“อื้ม...” ผมกดวางสายและคอตกทันทีหลังจากที่คุยกับกัสจบ นั่นก็เพราะ...
“คุณคงจะลืม....ว่าคุณเคยบอกผมว่าคุณเป็นคนอีสาน ไม่มีญาติที่ไหนอีกนอกจากที่อีสาน” ผมถอนหายใจก่อนที่จะทรุดตัวนั่งลงที่ปลายเตียง “ผมไม่ได้โง่นะกัส”
“ครับนาย” ผมกดโทรหาลูกน้องของผม มันกล่าวหลังจากที่กดรับสาย
“มึงไปสืบมา ว่ากัสไปทำอะไรที่ภูเก็ต ด่วน!”
“ครับนาย” ผมกดวางสายและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ผมหวังว่าคุณจะไม่ทรยศผมนะกัส
✂️✂️✂️✂️✂️✂️
หลายวันต่อมา
คฤหาสน์ตระกูลวชิราพัฒน์
Talk ยืนหนึ่ง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นเราก็ลาออกและกลับไปอยู่บ้านทันที
ล้อเล่น!!!
เรื่องอะไรจัยอมแพ้ง่ายๆ ล่ะคะ
หลังจากที่หายดีแล้วเราก็กลับมาเป็นยืนหนึ่งคนเดิมที่แซ่บและเฟียสหนักมาก บอกเลยว่าตอนนี้พร้อมมาก! พร้อมที่จะเป็นเมียคุณพีค! 555
“หนึ่งตาพีคอยู่ไหนทำไมไม่ลงมาอีก วันนี้เรามีนัดไปงานประมูลเพชรกันนะ” คุณผู้หญิงกล่าวพร้อมเดินมายังโต๊ะอาหารด้วยชุดที่ปัง และหน้าผมเป๊ะ
“เดี๋ยวหนูไปดูให้ก็ได้ค่ะ”
“เร็วๆ เลยนะฉันไม่อยากไปสาย” คุณผู้หญิงตอบ
“ได้ค่ะ” เรารับคำสั่งจากคุณผู้หญิงอย่างว่าง่ายแต่ในขณะที่ร่างบางกำลังเดินขึ้นบันไดเพื่อที่จะไปหาคุณพีคคุณผู้หญิงก็ได้พูดรั้งเราไว้เสียก่อน
“นี่เดี๋ยวก่อนสิ!”
“คะ...?” เราหยุดเดินและหันไปมองคุณผู้หญิงอย่าง งงๆ
“ฉันสวยหรือยัง?” คุณผู้หญิงพูดพร้อมกับยกกระจกคู่ใจมาส่อง
“สวยแล้วค่ะ ไปก่อนนะคะ”
เราเดินขึ้นไปหาคุณพีคที่ห้องโดยที่ใช้กุญแจสำรองที่คุณผู้หญิงให้เปิดเข้าไป แต่เมื่อเปิดเข้าไปแล้วกลับพบว่าเขายังคงนอนหลับอยู่ในจังหวะที่คุณผู้หญิงตีกะบังลงพร้อมแล้ว
“ผัวข๋า วันนี้ไปออกงานกับคุณผู้หญิงไม่ใช่เหรอ” เราเรียกเขาลากเสียงยาวเหยียดพร้อมกับเดินไปคว้าเอาผ้าห่มของเขาออก แต่เขากลับเงียบไม่ตอบสนองอะไรใดๆ
“......”
“นี่อย่าเงียบสิ คุณผู้หญิงแต่งตัวเสร็จแล้วนะคะตื่นได้แล้วคุณพีค!” เราตีแขนเขาไปหนึ่งทีจนรับรู้ได้ว่าที่เขาไม่ตื่นก็เพราะว่าเขานั้นไม่สบาย "ตัวร้อนมากเลย"
“บอกคุณแม่ให้ที ฉันคงไปไม่ไหวแล้วล่ะ ปวดหัวฉิบหาย” เขาพึมพำตอบเราด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“งั้นเดี๋ยวไปบอกคุณผู้หญิงให้นะคะ” ร่างบางยื่นมือไปอิงหน้าผากเช็กอาการของเขาอีกที เมื่อมั่นใจว่าเขาไม่สบายจริงๆ เราจึงลงไปบอกคุณผู้หญิง
“คุณพีคไปไม่ได้เแล้วล่ะค่ะ” เราแจ้งแก่คุณผู้หญิงทันทีที่ลงมาถึงด้านล่าง
“ทำไมล่ะ?” ป้าสมรถาม
“คุณพีคไม่สบายน่ะค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย” เราตอบไปตามความจริงที่มือของตัวเองได้สัมผัส
“ฉันจะไม่ไปก็ไม่ได้ด้วย ถ้าอย่างงั้นฉันฝากดูแลตาพีคด้วยแล้วกันนะยืนหนึ่ง” คุณผู้หญิงกล่าวก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถ
“จะดูแลให้ดีเลยค่า ><” ร่างบางยิ้มตาพริ้มและรีบวิ่งแจ้นเข้าครัวไปในทันที
เนื่องด้วยเราทำกับข้าวไม่เป็นเราจึงให้แม่ครัวทำข้าวต้มกุ้งให้เขา ส่วนเราก็ไปต้มน้ำร้อนและเตรียมยาเอาไว้ เมื่อทุกอย่างพร้อมเราก็ยกของที่เตรียมไว้ทั้งหมดไปหาคุณพีคที่ห้องทันที
“คุณพีคคะ หนูเอาข้าวเอาน้ำมาให้ค่ะ” เราวางถาดไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนที่จะช่วยพยุงตัวคุณเขานั่งขึ้น “กินข้าวนะคะจะได้กินยา”
“ปวดหัว...” เขาพูดพลางเอามือไปจับหัวตัวเองเบาๆ
“ก็กินข้าวสิคะ จะได้กินยา จะเช็ดตัวก่อนหรือจะกินข้าวกินยาก่อนล่ะคะ?”
“เช็ดตัวก่อนก็ได้ ทำดีดีล่ะ ฉันไม่มีอารมณ์มาด่าเธอหรอกนะ” เขาพูดพร้อมหันมามองตาขวางใส่เรา
“หนูไม่เอาคุณตอนนี้หรอกค่ะ ตัวร้อนเป็นไฟแบบนี้ แทงเข้าไปมีแต่จะร้อนใน hee เปล่าๆ”
“เธอนี่มันจริงๆ เลย!” เขามองตาขวางใส่เราเล็กน้อยพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ ด้วยความเอือมระอา
เราหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เขา พอดีว่าเขานอนด้วยบ๊อกเซอร์ตัวเดียวพอดี เลยไม่ต้องเสียเวลาถอดอะไรให้มากความ
เรารีบจัดการเช็ดตัวให้เขาอย่างตั้งใจและเบามือ โดยเราเริ่มจากเช็ดหน้าและแขนทั้งสองข้างให้เขาก่อน ก่อนที่จะลุกไปนั่งทับร่างเขา
“เฮ้ย! เธอทำอะไรเนี่ย!”
“ก็จะเช็ดตัวให้ไงคะ” ร่างบางยิ้มมุมปากพร้อมกับแสร้งทำหน้าซื่อ
“ท่านี้เนี่ยนะ! ยัยบ้า! ลุกไปเดี๋ยวนี้เลย!” เขาเบิกตากว้างและพยายามดันตัวของเราออก
“อ๋อ...อยากจับนมหนูก็ไม่บอก จับเลยค่ะ!” ร่างบางคว้ามือร่างสูงมาจับที่หน้าอกของตนเองเต็มๆ ทั้งสองข้าง “เต็มไม้เต็มมือดีนะคะ"
“นี่!” กระชากมือออก “ฉันไม่สบายจะตายอยู่แล้ว! เธอเลิกเล่นสักทีจะได้ไหม!”
“หนูก็เป็นของหนูแบบนี้แหละค่ะ หนูจะไม่ทำอะไรคุณเลยถ้าคุณยอมให้หนูอยู่ท่านี้ อยู่เฉยๆ ไปเถอะค่ะ เพราะว่าหนูสามารถข่มขืนคุณได้ทุกเมื่อ! อิอิ!”
“เธอมัน....ยัยตัวแสบ!” เขาชี้หน้าด่า
“นิ้วเดียวไม่มันส์หรอกนะคะ ต้องสามนิ้วขึ้นไปสิถึงจะมันส์” มือเรียวบางคว้ามือร่างสูงแตะไปที่บริเวณช่องทางรักของเราพร้อมกับกัดปากอ่อยเขานิดๆ "อ๊ะ"
“ยัยตัวแสบ!” เขารีบคว้ามือกลับทันทีอย่างเลิ่กลั่ก “จะทำอะไรก็ทำเถอะ ฉันจะได้พักผ่อนสักที ปวดหัวจะตายห่า"
“ค่ะๆๆๆ ก็กำลังเช็ดให้อยู่นี่ไงคะ” เราเบะปากมองบนก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดที่บริเวณซิกแพคของเขา
เห็นคุณพีคเป็นแบบนี้แต่ร่างกายของเขาก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะคะ ซิกแพคของเขาเพอร์เฟคเอามากๆ สำหรับเราแล้วผู้ชายมีซิกแพคนับว่าหล่อไปแล้วห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ตกหลุมรักคุณพีคไปรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ
กรี๊ด!!!
เขินอะ!
“ชิ!” เขาเบือนหน้าหนีเมื่อเราเริ่มถอยลงเช็ดลงต่ำไปเรื่อยๆ โดยที่เขานั้นไม่สามารถขัดขืนอะไรเราได้
“ข้างในบ๊อกเซอร์นี่ต้องเช็ดไหมคะ?”
“ไม่ต้อง!” เขาตะคอกปฏิเสธใส่เขาทันควัน
“หว่า...อดเลยอ่า” เรายิ้มหน้าแป้น ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเช็ดตรงบริเวณอื่นให้เขาแทน
“เธอนี่มันจริงๆ เลย! ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแล้วจริงๆ!”
“ก็ด่าหนูโดยการเอา -วยฟาดปากหนูสิคะ อ๊าส์! คงจะฟินน่าดูงู้ยย น้ำที่แตกคาปากในวันนั้นภาพมันยังติดตา”
“อยากโดนถีบอีกไหมล่ะ! ถ้าไม้อยากก็รีบๆ เช็ด!” เขาจ้องหน้าเราเขม็ง
“จ้าๆ เข้าใจแล้วจ้า” เมื่อเขาขู่ดังนั้นเราก็หยุดเล่นหันไปก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวให้เขาต่อ
เราเลื่อนต่ำลงที่ขาเขาข้างหนึ่ง เชิงว่าคร่อมขาเขาอยู่ เราตัวเล็กเขาคงไม่เมื่อยหรอกนะ
555
ซึ่งขาของเขาอยู่ที่ร่องช่องทางรัก....ตรงนั้นของเราพอดีเลยล่ะค่ะ
อืม...คิดอะไรสนุกๆ ได้แล้วล่ะ หึหึ!