ตอนที่ 7
เช้าวันต่อมา
Talk พีค
ผมเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล คุณพ่อของผมทิ้งทุกอย่างไว้ให้มากมายและบริษัทอีกหลายแห่ง
วันต่อวันหนึ่งผมต้องเข้าบริษัทหลายแห่งในวันเดียวกันแทบปางตาย แต่ด้วยทายาทเพียงคนเดียวจึงขัดอะไรไม่ได้ แต่ผมก็มีวันหยุดพักผ่อนด้วยเหมือนกันนะ
ผมจัดตารางการทำงานของตัวเองแบบวันเว้นวันซึ่งสำหรับวันนี้เป็นอันว่าหยุด
อ่า...นั่งคิดเรื่องเมื่อคืนก็สมเพชตัวเองฉิบหาย!
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายัยนั่นจะทำให้ผมเสร็จได้!
คงจะเป็นผู้หญิงคนแรกในรอบห้าปี
“ชิ!” ผมจิ๊ปากเล็กน้อยด้วยความหัวเสียหลังจากที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ!
“อือ” ร่างบางงัวเงียเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตื่นอะไร เพียงแต่พลิกตัวไปมาทำอย่างกับเป็นห้องตัวเอง!
“ยัยตัวแสบตื่นได้แล้ว” ผมลุกขึ้นพร้อมใช้เท้าเขี่ยสะกิดเธอเล็กน้อยให้เธอตื่น “นี่....ฉันบอกให้เธอตื่นไง”
“อือออ หนูจะนอน อย่ามากวนได้ไหม!” เธอโวยวายใส่แต่ก็ยังคงหลับตานอนไม่ยอมตื่น
“เธอเป็นสาวใช้นะ งานการไม่มีทำหรือยังไง! เช้าแล้ว กลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัว ลุกไปทำงานได้แล้ว!”
“อือ...สายวันนึงไม่เป็นไรหรอกนะคะ"
“จะไม่ตื่นใช่ไหม?”
“สายๆ ก็ได้ อืออ ง่วงไม่ไหว” เธอยังคงรั้นหนำซ้ำยังคว้าผ้าห่มของผมไปห่มอีก
“ได้...ไม่ตื่น ไม่ตื่นใช่ไหม!”
ปึก!
ตุบ!
“โอ๊ย!” ด้วยความโมโหผมจึงถีบเข้าที่ท้องของเธออย่างรุนแรงจนเธอร่วงตกเตียงลงไป “โอ๊ย! เอาะ! อึก!
“สมน้ำหน้า อยากตื่นยากเองทำไมล่ะ หึ! นี่ห้องฉันฉันจะทำอะไรก็ได้” ผมแสยะยิ้มมองเธอด้วยความสมเพช
หลังจากนั้นผมก็ลุกออกจากเตียงนอนและไปแต่งตัว แต่แทนที่เธอจะลุกขึ้นและออกจากห้องของผมเธอกลับนิ่งและนอนขดตัวอยู่ที่พื้นแทน
อ่า...นี่ไม่ฟังกันเลยใช่ไหม
จนกระทั่งผมแต่งตัวเสร็จสรรพ เธอก็ยังคงนิ่งไม่ลุกออกไป
“นี่! เธอจะนอนกองตรงนั้นอีกนานไหม ลุกกลับห้องเธอไปได้แล้ว ได้เวลาทำงานหน้าที่สาวใช้ของเธอแล้ว!”ร่างสูงยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมใช้เท้าข้างหนึ่งเขี่ยขาของร่างบางเบาๆ "ฉันไม่ได้จ้างให้เธอมานอนเล่นนะ"
“ฮึกกก อึก!” เธอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่สะอื้นออกมา
“เฮ้ย...ยัยตัวแสบเป็นอะไรวะ!”ผมย่อตัวลงพร้อมเขย่าตัวเธอเบาๆ “หนึ่ง...ไอ้หนึ่ง!”
“ป...ปวดท้อง อึก! ช่วยด้วย ฮึก!” ร่างบางกล่าวตอบพร้อมกับสะอื้นออกมาอีกครั้ง ฟังจากน้ำเสียงดูท่าทางจะเจ็บจริงๆ ไม่ได้แกล้ง! “ช่วยหนูด้วย เอาะ! หนูปวดท้อง?”
“ฉัน...ฉันถีบแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะ! แกล้งฉันไหมเนี่ยไม่ตลกนะยัยตัวแสบ!” แม้น้ำเสียงของเธอจะดูเจ็บปวด แต่ยืนหนึ่งก็คือยืนหนึ่งผมยังไม่ปักใจเชื่อสักเท่าไหร่
“หนูเจ็บจริงๆ ฮึก! ช่วยหนูด้วย อึก! ปวดเหลือเกิน”ยิ่งถามเธอก็ยิ่งร้องไห้ออกมาหนักขึ้นเรื่อยๆ แถมยังนอนขดตัวมากขึ้นกว่าเดิมอีก
“......” กูว่ามันไม่ใช่ละ!
พรึบ!
ร่างสูงอุ้มร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาว ก่อนที่จะรีบพาเธอลงมายังโซฟาด้านล่างเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ
นี่กูถีบแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะ!
“ก...เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” ป้าสมรวิ่งตาตื่นเข้ามาถาม “ยืนหนึ่งเป็นอะไรเหรอคะ?”
“เธอปวดท้อง” ผมตอบป้าสมรออกไปเพียงแค่นั้น ไม่ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ปวด ครั้งก่อนที่เคยถีบเธอผมถีบแรงกว่านี้ร้อยเท่าแต่ทำไมครั้งนี้ถึงเจ็บหนักขนาดนี้ก็ไม่รู้ แปลก!
“ใช่เหรอคะ? ทำไมนอนขดเป็นหนอนดักแด้แบบนั้นล่ะ ไม่น่าจะปวดท้องธรรมดาแล้วนะคะ” ป้าสมรถามด้วยความสงสัย
“เอาเป็นว่าโดนตีนก็แล้วกันนะ!” ผมตวาดใส่ป้าสมรไป ถามมากจริงๆ! “รีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่ยัยนี่จะตายห่า!”
“ค่ะๆ” ป้าสมรพยักหน้ารัวๆ ก่อนที่จะวิ่งเข้าครัวไป
“ยัยตัวแสบ ไหวไหมเนี่ย!” หลังจากที่ป้าสมรวิ่งจากไปผมก็หันมาถามอาการของเธอแต่ก็ไร้เสียงตอบกลับใดๆ
“ฮึกกก!” มีเพียงแค่เสียงสะอื้นตอบกลับผมมาเท่านั้น
“แม่งเอ๊ย! กูโดนด่าอีกแน่งานนี่!” ร่างสูงสบถหยาบอย่างหัวเสีย พักหลังคุณแม่ดูชอบยัยนี่มากเป็นพิเศษ แล้วก็ดูจะรักเธอมากด้วย
มากกว่าผมที่เป็นลูกชายแท้ๆ เสียอีก!!!
กริ๊งๆๆๆ
“ฮัลโหล” สายสำคัญจากกัสหรือก็คือคนรักของผมโทรเข้ามา
“พีคอยู่ไหนเหรอ กัสแต่งตัวเสร็จแล้วนะ พีคคงไม่ลืมนะว่าวันนี้พีคนัดกัสไปสวนสนุกน่ะ” ใช่...วันนี้ผมหยุดไม่ได้ไปทำงาน แต่ที่ผมตื่นแต่เช้าก็เพราะผมมีนัดกับกัส
“พีคขอโทษนะกัส ตอนนี้พีคมีธุระด่วนน่ะ คงจะไปไม่ได้แล้วล่ะ ไว้วันหลังนะ”
ผมกลั้นใจตอบปฏิเสธกัสไป ผมไม่อยากพูดคำคำนี้ออกไปเลยจริงๆ ไม่อยากผิดสัญญากับกัส แต่ว่าตอนนี้ยัยตัวแสบยืนหนึ่งนี่ดันมาจะเป็นจะตายก่อน ผมก็เลยต้องผิดสัญญากับกัส
ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องปฏิเสธกัสเพื่อยัยนี่...?
ก็ผมเป็นคนถีบยัยนี่ยังไงล่ะ!
“แต่พีคสัญญาแล้ว...” กัสพูดด้วยน้ำเศร้าบ่งบอกว่าน้อยใจ “เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานมากแล้วนะพีค”
“พีครู้ แต่พีคมีธุระสำคัญจริงๆ ขอโทษนะครับ ไว้วันหลังนะ ไม่งอนพีคนะครับ พีคไม่มีทางมีคนอื่นอย่างแน่นอน”
“ช่างมันเถอะ...เวลาเปลี่ยนใจคนก็เปลี่ยน กัสคงไม่สำคัญแล้วล่ะ”
ตู๊ดๆๆๆๆ
“เดี๋ยวกัส...”ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อกัสเขาก็รีบกดวางสายหนีผมไปทันทีด้วยความงอน แฟนผมนี่ก็งอนเก่งจริงๆ แต่จะไปว่ากัสอย่างเดียวก็ไม่ได้ อันดับแรกต้องว่ายัยนี่ก่อนเลย อันดับสองค่อยว่าตัวเองที่ไปถีบยัยนี่!
หลายชื่อเหลือเกิน ยืนหนึ่ง ยัยนี่ ยัยตัวแสบ ยัยยืนแปด!
“สมรไปเอากระเป๋าน้ำร้อนกับยาแก้ปวดมาให้แล้วค่ะ” ป้าสมรเดินมาพร้อมกระเป๋าน้ำร้อนและยาแก้ปวด
“ก็ดี เอาให้เธอกินซะ”
“ค่ะๆ ยืนหนึ่ง มากินยาเร็ว” ป้าสมรพูดพร้อมๆ กับพยายามดึงตัวร่างบางให้ลุกขึ้น แต่ก็เหมือนว่าเธอจะกลายเป็นท่อนซุงไร้การตอบสนองไปเสียแล้ว
“ปวดท้อง....”เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและยังคงนอนนิ่งอยู่ดังเดิม
“ไม่ได้เรื่องเลย!”ผมตวาดใส่ป้าสมรเล็กน้อยก่อนที่จะคว้ากระเป๋าน้ำร้อนมาวางลงที่ท้องของร่างบางอย่างเบามือ“ดีขึ้นไหม?”
“อ...อืม” เธอตอบ
“ป้าจับกระเป๋าน้ำร้อนไว้” ป้าสมรพยักหน้าและเข้ามาจับกระเป๋าน้ำร้อนแทนผม ในจังหวะเดียวกันผมก็ค่อยๆ พยุงตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่ง
“เอายาให้ยัยตัวแสบกินสิ!”ผมสลับกับป้าสมรเปลี่ยนมาจับกระเป๋าน้ำร้อนแทน “เร็วๆ สิป้า!”
“ค่ะๆ ป้ารีบให้อยู่ค่ะ”
“ทำไมเธอถึงได้ปวดท้องขนาดนี้?” เมื่อร่างบางกินยาเข้าไป ผมก็ได้เอ่ยปากถามข้อข้องใจที่สงสัยออกไป
“ก็ผัวถีบหนูแรงขนาดนั้น ดูขนาดตัวเราสิคะ ห่างกันขนาดนี้ เมียก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดาสิ” คงจะดีขึ้นเยอะแล้วละมั้ง ถ้าไม่ดีผัวๆ เมียๆ คงไม่ออกมาจากปากของเธอ
“แต่มันดูปวดหนักมากเลยนะ อย่างกับเธอเป็นประจำเดือนแล้วฉันถีบเธอ” ทั้งสองเงียบพร้อมมองหน้ากันอย่างมีลับลมคมใน
“ตกใจอะไรกัน เธอเมาจนลืมไปหรือยังไงยัยตัวแสบว่าเธอเป็นสาวประเภทสองน่ะ!”
“อ...อ๋อ! ไม่ลืมค่ะ แต่แบบคือยังไงดีล่ะ หนูปวดท้องโรคกระเพาะน่ะค่ะแล้วคุณผัวก็ซัดเข้าให้ ก็เลยสภาพอย่างที่เห็นน่ะค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว”
“เพราะเธอ! เธอทำให้ฉันทะเลาะกับเมีย” ผมเอ็ดเธอหนึ่งทีเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มพูด เริ่มกลับมาปากดีเหมือนเดิม
“ก็หนูไงเมียคุณ”
"หึ...! ตอบแบบนี้แสดงว่าคงจะหายแล้วสินะ ทีเมื่อกี้จะเป็นจะตาย" ผมกอดอกพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“ไม่เกี่ยวเลยค่ะ คุณนั่นแหละผิด ถ้าคุณผัวไม่ถีบเมีย คุณผัวก็คงจะไม่ทะเลาะกับนังเมียน้อยนั่นหรอกค่ะ” นอกจากจะมโนว่าเป็นเมียผมแล้ว ยังยัดเยียดความมโนของตัวเองใส่กัสให้กัสเป็นเมียน้อยอีก!
“ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ฉันยังไม่เคยบอกเลยนะว่าเธอเป็นเมียฉัน!”ผมกล่าวพร้อมมองหน้าเธอนิ่งๆ “เลิกมโนแล้วไปพักซะ พักก่อน!”
” แล้วที่ลมอูลวยคู(อม-วย)ให้เมื่อคืนนี้ไม่เรียกว่าผัวเมียกันอีกเหรอคะ หรือว่าเพราะยังไม่ได้แทง เลยยังไม่นับ?”
“เธอมันสมชื่อยัยตัวแสบจริงๆ!” ผมชี้หน้าด่าเธอก่อนที่จะเดินหนีออกมา ขืนอยู่ต่อมีหวังได้แฉผมต่อหน้าป้าสมรหมดเปลือกแน่ๆ!
“ง้อเข้าไปเถอะค่ะนังเมียน้อยน่ะ” เธอตะโกนตามหลังมา เมื่อเห็นว่าผมเดินออกจากคฤหาสน์เพื่อที่จะไปที่รถ ใช่ครับผมจะไปง้อกัส ไม่รู้ว่าป่านนี้จะงอนไปถึงดาวอังคารหรือยัง
“ลีอูเลี้ยหู้ ลอตูแซหลู!!! (อีเหี้ย ตอแหล) ” ร่างบางตะโกนเสียงดังตามมา แหม! ตะกี้ยังเจ็บจะเป็นจะตาย เจ็บปานเส้นจะเสียงขาด แต่พอมาแบบนี้ดันมาปากดีตะโกนใส่ ซึ่งผมก็ใช่ว่าจะยอมอะไรง่ายๆ จึงได้ตอกกลับเธอไปด้วยว่า
“ลีอูซ่านรู!!!” (อีร่าน)
“ลีอูซ่านรู...” ร่างบางทำหน้างงไปขณะหนึ่ง และสมองของเธอก็เริ่มแปลประมวลผลคำอีกครั้ง “ลีอูก็อี ซ่านรูก็ ร่าน ลีอูซ่านรูน อีร่าน...อ๋อ เดี๋ยว! อีร่าน!
“ก่อนจะว่าเมียว่าร่าน! ไปหัดร่านให้ได้ครึ่งของเมียก่อน!!!!!”
เอาไปอีกชื่อ ยัยประสาทแดก!
--.--