ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขอโทษซักคำ คิวริก็ดึงตัวเอฟากลับออกไปทันทีจังหวะเดียวกับที่อาจารย์เข้าสอนคาบแรก ให้ตายสิ! ผมเพิ่งนึกเสียใจเอาวันนี้เองที่ไม่ขยันเรียนให้ได้อยู่ห้องคิงแบบเอฟา แบบปูโน่ จะได้มีโอกาสใกล้ชิดคิวริ... แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ผมเก็บเอาซากอ้อย(หมดความหมาย) ของโทรศัพท์มือถือนั่นมาประกอบใหม่ด้วยความตั้งใจแล้ว
ต้องขอให้เธอยกโทษให้ภายในวันนี้ให้ได้!
“เอสโซ่ ย้ายห้องโว้ย เรียนวิทย์”
คิมบอกตอนหมดคาบสอง ปัดโธ่! มันเห็นมั้ยว่าผมกำลังพยายามปลุกปล้ำเศษซากเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันให้ฟื้นคืนชีพอยู่น่ะ โชคยังดีนะที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมอยากอัปเกรดคอมใหม่ให้มันโคตรเทพเอาไว้เล่นเกมออนไลน์ เลยไปทำงานพิเศษที่ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แล้วได้ความรู้ติดตัวมา ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้จะทำยังไงกับโทรศัพท์ราคาแพงลิบของกระต่ายน้อยเครื่องนี้แน่ T-T
“ไม่ไป วันนี้กูโดด” ผมตอบคิมทั้งที่ยังไม่ยอมเงยหน้า
“แน่ใจเร้อ~”
เสียงนั่นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นขมวดคิ้วมองคิมอย่างรำคาญนิดๆ ก่อนก้มหน้าก้มตาหมกมุ่นกับโทรศัพท์ตรงหน้าต่อ และเอ่ยตอบอย่างหนักแน่น
“เออ แน่ใจ”
“แต่วันนี้เรียนรวมกับห้องคิงนะ”
กระต่ายน้อยที่น่าสงสารของผมมองค้อนมาวงใหญ่เลยอะ พอเห็นก๊วนผมเดินเข้าไปในห้องวิทยาศาสตร์ อาจารย์ยังไม่เข้า ผมเลยปล่อยให้สองซี้เดินไปจองที่นั่งให้ และเดินดิ่งไปหากระต่ายน้อยที่นั่งรวมกลุ่มกับเอฟากับปูโน่ ฮึ่ย... อิจฉาว่ะ ได้เรียนด้วยกันทุกวัน ทุกคาบ
ทั้งที่ผมกับมันหน้าเหมือนกันอย่างกับอะไร แต่ทำไมชะตากรรมช่างแตกต่างแบบนี้ว้า~
“คิวริ...”
“เอฟา ฉันอยากไปห้องน้ำ”
ร่างบางลุกพรวด ก่อนฉุดตัวหมีโหดให้เดินตามออกไป ปล่อยให้ผมเดินคอตกไปนั่งกินแห้วอยู่โต๊ะหลังสุดมุมห้อง พอสองคนนั้นกลับมา ผมก็ไม่ละความพยายาม เดินเข้าไปหาอีก
“คิวริคือ…”
“เอฟา ฉันไม่เข้าใจตรงนี้”
มาคุยกันก่อนได้มั้ย T_T อย่าทำแบบนี้สิคนดี
“คือว่า...”
“ฟังมันหน่อยเถอะคิวริ” ปูโน่เอ่ยแทรกด้วยโทนเสียงเรียบเรื่อย ด้วยสีหน้านิ่งๆ มึนๆ อย่างเคย แต่ใครจะรู้ละว่ามันถนัดนักเรื่องกวนโทสะผมโดยที่คนอื่นไม่ทันรู้ อย่างจงใจเนี่ย! “ดูหน้ามันสิ อย่างกับหมาตามหาเจ้าของ”
“ให้มันน้อยๆ หน่อย!”
พอผมฟิวส์ขาด ตะคอกเสียงดังพร้อมกับปราดเข้าไปหาพี่ชายตัวเอง ก็ถูกเอฟาลุกพรวดขึ้นยืนขวาง และผลักอกผมไม่ให้เข้าไปใกล้สุดที่รักของเธอ!
ให้ตาย...หลบอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงคิดว่าเท่รึไงวะ
“แม่งเอ๊ย!”
ปึ้ง!
เสียงกำปั้นผมที่กระแทกโต๊ะตรงหน้าทำเอาใครหลายคนในห้องสะดุ้ง จากที่มีเสียงพูดคุยเซ็งแซ่ก็กลับเงียบกริบกันไปหมด ผมเดินฮึดฮัดกลับไปที่โต๊ะตัวเอง แล้วพยายามประกอบเศษชิ้นส่วนมือถือพวกนั้นอย่างหงุดหงิด แล้วทั่วทั้งห้องก็เงียบกริบ...
“พูดอะไรกันหน่อยก็ได้นะ ข่าวว่าตอนนี้อาจารย์ยังไม่เข้าสอน”
ผมบอกเพื่อนในกลุ่มประชดๆ ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากเศษซากเทคโนโลยีตรงหน้า โมโห!... โคตรโมโหตัวเองเลยว่ะ ถ้าไม่ทำโทรศัพท์บ้าๆ นี่พัง ทุกอย่างมันก็ไม่แย่แบบนี้หรอก
กับนิสัยทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง สงสัยผมต้องพยายามแก้ไขอย่างจริงจังซะที
@ หลังเลิกเรียน
จะว่าไปในห้องวิทย์วันนี้...
ผมทำให้กระต่ายน้อยตกใจรึเปล่านะ T_T (< เพิ่งสำนึก)
แต่หลังจากปลุกปล้ำกับเศษซากมือถืออยู่เป็นนานสองนาน ตอนนี้มันก็กลับมาใช้ได้ซะที ดีใจโคตร... ทุกเทคโนโลยีบนโลกยังปลอดภัย -_-+ เอาละ วันนี้ผมต้องง้อคิวริให้สำเร็จ เย่ห์! ปลุกใจตัวเองด้วยการตบอกข้างซ้ายแรงๆ สองสามที
เออ แล้วผมจะตามหากระต่ายน้อยได้ที่ไหนวะ เลิกเรียนแล้ว คิวริก็คงกลับบ้าน หรือไม่อย่างนั้นก็ไปเรียนพิเศษแบบที่เด็กเรียนเก่งชอบไปกัน เดินคิดไปคิดมาก็มาเจอปริ๊นซ์กำลังเดินผิวปากพร้อมกับหมุนลูกบาสเล่นไปทางสนาม ผ่านรูปปั้นผู้อำนวยการหน้าโรงเรียนพอดี
“ปริ๊นซ์”
“หือ?”
“มึงเห็น... คิวริป่าววะ”
“จะไปขอโทษเรื่องวีรกรรมชายทำชายคือยอดชายเมื่อเช้ารึไง” ปริ๊นซ์หนีบลูกบาสไว้กับเอว พลางล้วงมือหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วยิ้มกวนๆ พร้อมกับจึ้ก! ยิงลูกศรล่องหนมากลางกระหม่อมผม
“ยุ่ง! แล้วตกลงเห็นเธอมั้ย”
“เห็น กูทักไปด้วย เห็นว่าจะไปเรียนพิเศษกับเอฟา แล้วนี่มึงคงไม่ตามไปถึงที่กวดวิชาหรอกนะ โดดซ้อมเดี๋ยวไอ้คุณหัวหน้าทีมคิมก็บ่นหูชาอีกหรอก”
ผมถอนหายใจแรงๆ ก่อนพยักหน้าให้มันเป็นเชิงชวนเดินไปสนามบาสเกตบอลด้วยกันท่ามกลางบรรดาเด็กนักเรียนที่เดินกันขวักไขว่ ...อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบกายเผื่อจะเจอกระต่ายน้อย แต่ก็แห้วอย่างที่คิด เฮ้อ...
หืม? ป๊าโทรมาทำไม
“ฮะ ป๊า ว่าไง” ผมยกโทรศัพท์ขึ้นกดรับสาย
((มาร้านกาแฟด่วน ถ้าไม่อยากถูกถีบออกมากองมรดก))
พูดจบก็วางสาย ให้มันได้อย่างนี้สิพ่อผม
“โทษทีว่ะปริ๊นซ์ ฝากบอกคิมด้วยว่าวันนี้ขอโดดซ้อมวันนึง ต้องไปช่วยงานร้านป๊า สงสัยปูโน่มันแกล้งตายอีกแล้ว”
“เออๆ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน”
ผมพยักหน้าให้มัน ก่อนยกกำปั้นขึ้นทุบขึ้นทุบลงแล้วจบลงด้วยการชนกับเพื่อนเป็นเชิงลาสีหน้าเซ็งเป็ด แล้วเดินล้วงกระเป๋า คอตก หูตก หางลู่ออกมานอกรั้วโรงเรียน
เฮ้อ~ ซวยชิบเป๋ง!