ตอนที่ 1
คุณหนูไฮโซเปรี้ยวจี๊ดอย่าง รีริส ต้องกลายเป็นเชลยสาวของโจรสลัดอย่าง เมซุต อสูรร้ายที่ทั้งหล่อล่ำ และเสน่ห์ร้อนฉ่าละลายใจ เขาคิดว่าเธอเป็นนางนกต่อให้ตำรวจ ทำยังไงเธอจะหนีจาก อ้อมกอด ของเขาได้ กันนะ
เสียงกุกกักที่ดังเบา ๆ และพื้นที่โคลงเคลงไปมาทำให้ รีริส ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นภายในสภาวะที่รอบ ๆ นั้นอยู่ในบรรยากาศของแสงสลัว สาวไทยร่างเล็กซึ่งอยู่ในชุดที่เกือบจะเป็นชุดลำลองนั่นคือเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นแบบฮอตแพนท์แต่พะยี่ห้อดังอย่าง คาลวิน ไคลน์ สวมรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วค่อย ๆ เปิดเปลือกตาที่ถูกระบายด้วยอายแชโดว์สีฟ้าอมน้ำตาลเป็นประกายเพื่อให้นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเปิดรับภาพรอบตัวชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“อืม...อือ”
ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มเคลือบลิปสติกสีแดงสดระบายลมหายใจพร้อมด้วยเสียงครางออกมาเบา ๆ แก้มนวลยังเป็นประกายเปล่งปลั่งด้วยบรัชออนสีส้มบนดวงหน้าสวยหวานแต่อยู่ภายใต้กรอบเรือนผมถูกดัดเป็นลอนและทำสีทองเปรี้ยวจี๊ด
“อืม...”
รีริสครางอยู่ในลำคออีกครั้งอย่างขัดใจเมื่อรู้สึกอึดอัดที่ข้อมือทั้งสองกระทั่งสติสัมปชัญญะหลังจากหลับเป็นตายมาเกือบสิบชั่วโมงถูกดึงกลับมาเต็มที่
แล้วเธอก็ลืมตาตื่นพร้อมด้วยสติที่กลับคืนมาเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ หญิงสาวในวัยยี่สิบทำท่าจะขยับแต่กลับเขยื้อนมือไม่ได้ มีอะไรบางอย่างบีบรัดอยู่ที่ข้อมือของเธอซึ่งถูกไพล่ไว้ด้านหลังและร่างน้อยนั่งอยู่บนเก้าอี้
“โอ...ไม่...ให้ตายซี! ”
รีริสรู้สึกตระหนกขึ้นมาในทันที ที่นี่มันที่ไหนกัน! เธอถูกจับมัดมือไพล่หลังนั่งอยู่บนเก้าอี้บนพื้นไม้ภายในห้องที่รอบ ๆ กั้นด้วยแผ่นไม้หนาแต่ดูเก่า ภายในห้องนั้นแม้มีแสงสลัวแต่เธอก็เห็นชัดเจนว่ารอบตัวมีอุปกรณ์จำพวกคันเบ็ดและเชือกขนาดใหญ่วางกองอย่างไม่เป็นระเบียบ
พื้นห้องโคลงเคลงไปมาเล็กน้อย หญิงสาวนึกขึ้นได้ในทันทีว่าเธออาจอยู่ในเรือกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ ใช่...มันต้องเป็นอย่างที่เธอคิด เพราะก่อนหน้านี้เธอยังมีความทรงจำที่ยังระลึกถึงมันได้ดี
เธอเดินทางมาจากเมืองไทยเพื่อร่วมงานปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ที่ริมชายหาดของเกาะโบรา โบรา หนึ่งในหมู่เกาะบนมหาสมุทรแปซิฟิก นั่นก็คือประเทศโพลีนีเซีย
มันเป็นชายหาดที่สวยงามแปลกตาราวกับดินแดนในสวรรค์ แสงแดดเจิดจ้า หาดทรายนุ่มละเอียดและรายล้อมด้วยน้ำทะเลสีเทอควอยซ์จนทำให้เธอจินตนาการไปว่ากำลังอยู่ในฉากหนึ่งของนวนิยายเรื่องโรบินสัน ครูโซ อย่างไรอย่างนั้น
ชีวิตของคุณหนูไฮโซอย่างเธออยู่กับการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกหลังเรียนจบชั้นมัธยมปลาย รีริสก็แค่สนใจที่จะเรียนด้วยตัวเองทางไกลกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ
ก็แน่ล่ะสิ...ในเมื่อครอบครัวของเธอเป็นเจ้าของธุรกิจซอฟท์แวร์ขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองไทย พ่อแม่รวยติดอันดับและมีเธอเป็นลูกคนเดียว เพราะฉะนั้นเลยไม่มีใครขัดใจ เธอจึงเดินทางท่องเที่ยวเรื่อยไปโดยไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากใช้เงินและ...แต่งตัว
เธอเดินทางมาเฉลิมฉลองงานปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนานบนชายหาดของเกาะแสนสวย ดื่มไวน์กินอาหารทะเลและเต้นรำอย่างชื่นบานกับเพื่อนต่างชาติทั้งชายหญิง
แต่หญิงสาวก็ยังจำได้ว่าเธอไม่ได้ดื่มเหล้าจนเมามายและถึงขั้นไม่รับรู้เลยว่าตัวเองทำอะไรบ้างที่ริมชายหาด ก็แค่สนุกกับเพื่อน ๆ กินดื่มสรวลเสเฮฮา และ...
“รู้สึกตัวแล้วหรือ...สาวน้อย”
เสียงทุ้มลึกแต่กังวานที่ดังขึ้นพร้อมบานประตูไม้ที่ถูกผลักเข้ามาทำให้ร่างเล็กสะดุ้งตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก รีริสเงยหน้าขึ้นและต้องชะงักไปชั่วครู่เมื่อดวงตาคู่สวยสะท้อนภาพของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาและรูปร่างบึกบึนภายใต้เสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงเดนิมสีฟ้าซีด ๆ แถมเก่าขาดก้าวเข้ามาและนั่งลงบนเก้าอี้ไม้กลมที่อยู่ตรงหน้าเธอ
“นะ...นี่มันเรื่องอะไรกัน! นายใช่มั้ยที่จับฉันมาแล้วมัดฉันไว้แบบนี้”
หญิงสาวถามด้วยเสียงตะกุกตะกัก ปากบางจิ้มลิ้มสีแดงสั่นระริกขณะจ้องตรงไปยังหนุ่มหล่อชาวต่างชาติที่รูปร่างทั้งสูงใหญ่และกำยำแต่เขากลับยกยิ้มมุมปากอย่างมีนัยขณะประสานมือทั้งสองไว้ข้างหน้า
“ใช่...ฉันจับเธอมาที่นี่เอง เธอชื่อรีริสใช่มั้ย?”
“นายรู้จักชื่อฉันด้วย...นี่มันเรื่องอะไรกัน นายเป็นใคร! ”
รีริสทำท่าฮึดฮัดและพยายามจะลุกจากเก้าอี้ แต่เธอก็ทำไม่ได้เพราะมือของเธอถูกจับไพล่ไว้เบื้องหลังและดูเหมือนเชือกที่มัดข้อมือของเธอจะผูกติดอยู่กับขาเก้าอี้อีกชั้น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน หญิงสาวอยากจะกรีดร้องใส่หน้าคนที่พาเธอมาเสียจริง
“เรียกฉันว่าเมซุต” เขาว่าพลางเอนหลังพิงเก้าอี้ ท่าทีสบาย ๆ แต่ยียวนนั่นทำให้รีริสอยากกระโดดเข้าไปบีบคอเขาแทบบ้า
“นายจับตัวฉันมาเพื่ออะไร แล้วที่นี่ที่ไหน ถ้าอยากจับฉันมาเพื่อเรียกค่าไถ่ นายอยากได้เท่าไหร่ล่ะ พ่อฉันเป็นนักธุรกิจใหญ่นะจะบอกให้! ”
เมซุตเลิกคิ้วสีน้ำตาลเข้มเป็นปื้นเหนือดวงตาสีน้ำเงินบนใบหน้าหล่อเหลา เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากจริง ๆ หล่อยิ่งกว่านายแบบโฆษณาระดับโลก แต่ไม่น่าคิดสั้นทำตัวเป็นโจรเรียกค่าไถ่กระจอกแบบนี้ รีริสคิดอย่างเจ็บแค้น
“ฉันรู้...ว่าพ่อของเธอเป็นนักธุรกิจใหญ่...อู๊ว...เขามีเงินนับหมื่นล้าน แต่ดูซี ทำไม๊ถึงไม่มีเงินให้ลูกสาวซื้อเสื้อผ้าดี ๆ ใส่”
“ไอ้บ้า! ” หญิงสาวตะโกนออกมาอย่างเหลืออด สายตาที่ลามเลียไปตามเรียวแขนและเรียวขาที่โผล่พ้นเสื้อกล้ามและกางเกงฮอทแพนท์ทำให้เธอขยะแขยงเขาเป็นที่สุด
“แกไม่รู้หรอกว่าฉันใส่อะไร นี่มันชุดยี่ห้อคาลวิน ไคลน์ โจรอย่างแกคงไม่รู้จักมันแน่ ๆ “
เมซุตยักไหล่อย่างอารมณ์ดีขณะยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดบนเข่าอีกข้าง
“ฉันน่ะไม่รู้จักหรอกไอ้เสื้อผ้าที่นกต่ออย่างเธอว่ามา”
รีริสตาโต “นางนกต่ออย่างนั้นหรือ! นี่นายว่าฉันเป็นนางนกต่อหรือเมซุต นายมันคนบ้า! ” หญิงสาวแหวใส่อย่างเดือดดาล
“ฉันไม่ใช่คนบ้านะแม่สาวน้อย เธอควรจะรู้จักโจรสลัดอย่างเมซุตเอ่ไว้ ชื่อของฉันใคร ๆ ในน่านน้ำแถวนี้ก็รู้จักฉันกันทั้งนั้น! ”