หมดเวลาแล้ว…7/2

1238 คำ
ตื่นเช้ามาก็ยังมึนตึงใส่กันก่อนจะแยกย้ายกันไป อติกานต์มาเจอเพื่อนที่มหาวิทยาลัยก็ถูกเพื่อนทักเรื่องดวงตาที่บวมเป่ง เธอก็ให้คำตอบไปว่าเผลอกดดูซีรีส์ที่ดรามาไปหน่อยเลยร้องไห้ตาม ส่วนลัลนาก็มาทำหน้าที่อาจารย์พิเศษตามตารางสอนที่มหาวิทยาลัยจัดให้แล้วบังเอิญได้เจอกับอติกานต์ที่หน้าร้านกาแฟตรงทางเชื่อมระหว่างตึก ขณะที่เพื่อนสองคนของเธอเดินไปเข้าห้องน้ำหญิงสาวเลยนั่งอยู่คนเดียว อาจารย์สาวคนสวยก็ทำทีเดินเข้ามาคุยด้วยอย่างเป็น...มิตร “สวัสดีจ้ะอติกานต์” หญิงสาวที่ก้มอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมอง วันนี้ริมฝีปากของอาจารย์แดงฉ่ำเป็นพิเศษ แต่งหน้าเข้มแต่ก็ดูสวยเอาอยู่ ไม่แน่ว่าอาจารย์จะไปไหนต่อหรือไม่ “สวัสดีค่ะอาจารย์ลัลนา” อติกานต์ทักทายกลับเสียงเบา ๆ แล้วก้มหน้าลง ลัลนาจึงพูดในสิ่งที่อยากบอกกับคนตรงหน้าโดยไม่เสียเวลา “รู้แล้วใช่มั้ยว่าแฟนอาจารย์เป็นใคร...” น้ำเสียงทวีความเยือกเย็นขึ้น “เด็กไซด์ไลน์อย่างเธอคงรู้ตัวดีนะว่าต้องวางตัวแบบไหน อาจารย์อยู่เมืองนอกหลายปีไม่ได้หัวโบราณถึงขนาดที่ว่า จะรับเรื่องที่ผู้ชายเลี้ยงเด็กนักศึกษาเอาไว้ไม่ได้ ตอนนี้อยากจะอยู่ในสถานะนี้ต่อก็แล้วแต่นะฉันไม่ถือ สำหรับฉันไม่เดือดร้อนหรอก แต่เร็ว ๆ นี้ฉันก็จะย้ายเข้าไปอยู่คอนโดเดียวกับพี่ต่อแล้วถ้าเธอยังไม่ไสหัวออกไป เธอไม่ได้อยู่เป็นสุขแน่...” ลัลนาเน้นเสียงในประโยคสุดท้ายเป็นการข่มขู่ให้อีกฝ่ายรู้ฤทธิ์ของเธอ ก่อนจะเดินจากไป สายตาลัลนาเหลือบไปเห็นตุ๊กตาหมีที่ห้อยอยู่กับกระเป๋าผ้าของอติกานต์ก็แสยะยิ้มออกมาอีกครั้ง บอกว่า “พวงกุญแจหมีนั่นฉันเป็นคนทำให้พี่ต่อเอง พอเธอนำมาห้อยกับกระเป๋าใบนี้มันก็ดูเข้ากันดีนะ รู้มั้ยว่ามันเป็นของที่ทำเล่น ๆ ฆ่าเวลา แถมราคาก็ยังถูกแสนถูกดูเหมาะกับของที่เธอใช้ นี่ถ้าเอามาแขวนกับกระเป๋าหนังราคาแพง มันต้องดูไม่เข้ากันมากแน่ ๆ เธอว่ามั้ยล่ะ” อติกานต์ก้มหน้าไม่ได้เงยสบมองดวงตาคนที่พูดกับเธอ ถึงคนพวกนี้ไม่มาย้ำเธอก็รู้ตัวดี เธอเตรียมตัวสำหรับทางเดินของตัวเองไว้แล้วไม่ต้องมาย้ำบ่อย ๆ นักหรอก วันสอบไฟนอลของมหาวิทยาลัยเริ่มขึ้นวันแรก สอบวันละหนึ่งถึงสองวิชา ใช้เวลาราวสองสัปดาห์ก็สอบเสร็จ สำหรับอติกานต์เธอไม่กังวลเรื่องการสอบอยู่แล้วหญิงสาวมั่นใจในความรู้ที่หมั่นทบทวน เชื่อว่าเทอมนี้ตนเองต้องทำได้สี่จุดศูนย์ศูนย์อีกแน่นอน ช่วงที่มีเวลาว่างเธอก็เตรียมเก็บกระเป๋าและหาห้องพักที่จะย้ายออกไปพักอาศัยชั่วคราวก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอดูเงินเก็บในบัญชีที่มีอยู่ประมาณสี่แสนกว่าบาทที่ส่วนหนึ่งเก็บออมไว้จากการทำงานและอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินโบนัสที่ต่อตระกูลให้ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ โชคดีตรงที่เธอสามารถเบิกค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนได้ถ้าในเดือนนั้นเงินที่เขาให้ไว้ไม่เพียงพอ แถมต่อตระกูลยังให้เธออีกเดือนละสามหมื่นเอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว นอกนั้นเขาไม่ได้ให้อะไรที่มันฟุ่มเฟือย ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้วมันคงพอให้เธอใช้จ่ายก่อนเดินทางไปเรียนต่อ ทางด้านต่อตระกูล สายน้ำผึ้งก็เข้ามาพูดกดดันเรื่องของน้องชายกับนางบำเรอถึงในห้องทำงาน “ตาต่อ นี่แกยังไม่ไล่อีเด็กนั่นออกไปอีกเหรอ น้องนานาบอกฉันว่าแกไม่ยอมให้เธอขึ้นคอนโด น้องนานาไม่ได้โง่นะที่จะเดาไม่ออกว่าแกมีผู้หญิงอยู่ด้วยน่ะ” ต่อตระกูลระบายลมหายใจออกเหมือนระอากับคำพูดพี่สาว ทั้งที่เขาเคยบอกไปแล้วว่าอติกานต์จะไปตอนไหน “อีกไม่กี่วันเธอก็จะสอบเสร็จแล้วเดี๋ยวก็ไปเองนั่นแหละ” “ทำไมต้องรอให้มันสอบเสร็จด้วย นี่อย่าบอกนะว่าแกเสียดายมันมากน่ะ ผู้หญิงขายตัวแบบนั้นจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผู้หญิงอย่างน้องนานาถ้าหลุดมือไปแล้วก็หลุดเลยนะฉันจะบอกให้” “เรื่องนี้ผมจัดการเองครับ” “จัดการเองงั้นเหรอ หึ เวลามันไม่คอยให้แกมาจัดการหรอกนะ น้องนานามีผู้ชายเข้ามาให้เลือกมากมาย ถ้าแกยังห่วงผู้หญิงขายตัวคนนั้นแกก็จะไม่ต่างจากพ่อหรอก” พูดจบสายน้ำผึ้งก็สะบัดหน้าเดินออกไป ฮึย...ตาต่อนะตาต่อ มัวแต่ชักช้าอยู่แบบนี้คงจะยังเสียดายมันมากละสิ เห็นทีพี่สาวอย่างเธอต้องจัดการเองซะแล้ว ต่อตระกูลนั่งดินเนอร์กับแฟนสาว เขาเริ่มเรียนรู้แล้วว่าลัลนาชอบดื่มไวน์ ชอบนั่งทานอาหารในร้านที่บรรยากาศสวย ๆ เคล้าเสียงดนตรีด้วยยิ่งดีสมกับฐานะของเธอ วันนี้นอกจากเขาเธอยังนัดกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอเจ็ดแปดคนมาปาร์ตี้ด้วย พอจะกลับก็ดึกดื่นเขาก็ต้องขับรถมาส่งเธอที่บ้าน “ถ้าไม่อยากขับรถมาส่งนานาที่บ้านพี่ต่อก็ต้องให้นานาไปค้างที่คอนโดพี่ต่อสิคะ เราจะได้กลับที่เดียวกัน” สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องคอแกร่ง ทำตาหวานซึ้ง “ครับ น้องนานารออีกหน่อยพี่กำลังจัดการอยู่” “นานาไม่อยากรออีกแล้วค่ะ นานาให้เวลาพี่ต่อภายในอาทิตย์นี้นะคะ พี่ต่อต้องเลือกว่าอยากให้นานาอยู่ในชีวิตพี่ต่อ หรือจะเลือก...” หญิงสาวละคำพูดอย่างไว้เชิงให้เขาคิดเอง ต่อตระกูลนิ่วหน้าถึงเวลาที่เขาต้องเลือกจริง ๆ แล้วสินะ ชายหนุ่มกลับมาถึงห้องในเวลาเที่ยงคืนกว่า เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก็เห็นร่างบอบบางนอนรออยู่จนชินตา พอถึงเวลาจริง ๆ มันก็ยากที่จะปล่อยอติกานต์ไป เวลาต่อมาคนที่หลับใหลในนิทราก็รู้สึกตัวขึ้นมาจากการถูกฝ่ามือลูบไล้ไปตามร่างกาย ก่อนจะถูกเขาจับพลิกร่างขึ้นมาเผชิญหน้ากัน หากมองดี ๆ จะเห็นว่าในดวงตากลมคู่หวานมีร่องรอยแดงช้ำจากการร้องไห้ ทว่ายามนี้นอกจากความต้องการแล้วต่อตระกูลคงมองไม่เห็นร่องรอยความเจ็บปวดใด ๆ ตอนนี้เขาเพียงคิดว่าผู้หญิงคนนี้ยังเป็นของเขา เขาจะทำอะไรก็ได้เมื่อเขาต้องการ ^ ^ ^ ***โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ใครไหวก็ไปกันต่อ แต่แอบบอกไว้ว่า คูมนักอ่านเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ นะคะ ยังไง๊ยังไงคุณต่อก็เป็นพระะอก แล้วพระเอกเรื่องนี้ไม่ถือศีลกินผักเสียด้วย ชอบกินเนื้อ ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม