“ต่อไปถ้าเจอกันอีกไม่ต้องทำเป็นรู้จักฉันนะ ฉันไม่ได้อยากรู้จักเธอ”
หญิงสาวจึงได้แต่พยักหน้าน้อย ๆ อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว แม้จะไม่ได้มองหน้าอีกฝ่ายตรง ๆ แต่เธอก็รับรู้ถึงสีหน้าและสายตาที่มองเธออย่างเหยียดหยัน
แม้ต่อตระกูลจะไม่ได้บอกใครว่าเลี้ยงดูอติกานต์ในฐานะอะไรแต่ก็ไม่อาจปิดบังเรื่องนี้จากพี่สาวที่ชอบยุ่งวุ่นวายเรื่องของคนในครอบครัวได้อยู่ดี สายน้ำผึ้งแม้จะเป็นพี่แต่ก็ทำตัวเหมือนแม่มากกว่าพี่สาว ที่เจ้าตัวตั้งตนเป็นใหญ่ในบ้านคอยจับตาดูทุกคนเพราะมารดาของพวกเขาเสียไปแล้ว
ตอนที่สายน้ำผึ้งรู้เรื่องว่าน้องชายพาผู้หญิงมาอยู่ที่คอนโดด้วยก็มาโวยวายใส่เธอ จนต่อตระกูลต้องลากเข้าไปคุยกันในห้อง พักใหญ่กว่าจะพากันออกมา พวกเขาสองคนคุยอะไรกันเธอไม่ทราบและคงไม่กล้าไปถาม ทว่าเมื่อออกมาจากห้องแล้วท่าทีของสายน้ำผึ้งก็ดูจะอ่อนลงบ้าง ไม่โวยวายใส่เธอแต่เปลี่ยนมาเป็นการเหยียดหยามทางสีหน้าและสายตาแทน
สายน้ำผึ้งออกมาเจอกับลัลนาที่เดินดูเสื้อผ้ารอในชอป ก็เอ่ยถามอีกฝ่าย
“น้องนานารีบกลับรึเปล่าคะ ถ้าไม่รีบเราไปหาร้านอาหารอร่อย ๆ วิวสวย ๆ นั่งดื่มกันหน่อยดีมั้ย พี่นัดน้องชายพี่ให้ออกมาด้วย เผื่อจะได้ทำความรู้จักกันไว้”
อาจารย์สาวทำหน้าคิด เลิกคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าสนใจ ก็ไม่มีอะไรเสียหายนะ
“ได้ค่ะพี่ผึ้ง นานาไม่ได้รีบกลับไปไหน”
“เยี่ยมค่ะ ดีเลย น้องชายพี่ก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องนานาหรืออาจจะมากกว่าก็ไม่กี่ปีหรอก หน้าตาหล่อ และยังโสด ถ้าน้องนานาคุยแล้วชอบพี่เชียร์เต็มที่”
“แหม พี่ผึ้งคะ ให้เราได้เจอหน้ากันก่อนนะคะ อาจจะเป็นแค่เพื่อนกันก็ได้”
“จ้ะ”
สายน้ำผึ้งยิ้มกรุ้มกริ่ม เชื่อในสายตาตัวเองว่าหากลัลนาได้เห็นน้องชายตนเองต้องชอบต่อตระกูลแน่ ๆ ต้องผู้หญิงเพียบพร้อมระดับนี้เท่านั้นที่จะคู่ควรกับน้องชายและตระกูลของเธอ จะได้เขี่ยนังผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้นออกไปจากชีวิตน้องชายสักที แค่เห็นหน้าตนก็รู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกแล้ว
ในวันนี้ตอนแรกต่อตระกูลคิดว่าจะไม่ออกไปไหน อยู่ในห้องรออติกานต์กลับมาเข้านอนด้วยกันก็แค่นั้น แต่พอได้รับสายโทรศัพท์จากพี่สาวตามออกไปที่ร้านอาหารบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย และคะยั้นคะยอเขาไม่เลิกจึงตัดสินใจออกไป
ที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมบนชั้นสูงสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งเมือง บรรยากาศรื่นรมย์มีดนตรีประกอบ ต่อตระกูลมาถึงในเวลาหนึ่งทุ่มตรง เขามาร้านแบบนี้บ่อยครั้งชินกับบรรยากาศและการต้อนรับที่ดีเยี่ยม ชายหนุ่มแต่งตัวสบาย ๆ ด้วยเสื้อคอจีน กางเกงชิโน สวมรองเท้าหนัง หากแต่ดูเรียบหรูเมื่ออยู่ในรูปร่างที่สูงสง่า ผมแต่งทรงเล็กน้อยก็รับกับใบหน้าหล่อเหลาได้อย่างไร้ที่ติ
สายน้ำผึ้งกับลัลนามารออยู่ก่อนแล้ว พอพี่สาวหันไปเห็นน้องชายที่กำลังมองหาโต๊ะก็ยกมือส่งสัญญาณให้เห็น พลางหันไปบอกลัลนาที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่
“นั่นไงคุณชายของพี่มาแล้วค่ะ”
ครั้นหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองต่อตระกูลก็มานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ดวงตาหนุ่มสาวสบประสานกันในวินาทีนั้น ก่อนจะเกิดรอยยิ้มขึ้น
อื้ม ๆ มีเสียงกระแอมเบา ๆ ดึงทั้งคู่ออกมาจากภวังค์ที่ตกลงไปพร้อมกัน สายน้ำผึ้งอมยิ้มเมื่อเห็นสายตาของน้องชายและสาวสวยที่หมายมั่นไว้ให้น้องในอนาคตเหมือนกับสายตาของคนที่ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็น
“ต่อนี่น้องนานา นานาคะ นี่น้องชายพี่ค่ะ ชื่อต่อ ต่อตระกูล”
ลัลนามีสีหน้าเขินอายอย่างเห็นได้ชัด แม้หญิงสาวจะพยายามปกปิดรอยยิ้มและพวงแก้มที่แดงปลั่งของตนเอง แต่เก็บไม่อยู่ ทุกอย่างในร่างกายมันสั่นไหวไปหมดตอนนี้
“สวัสดีค่ะพี่ต่อ”
ปีนี้ต่อตระกูลอายุสามสิบแล้ว ลัลนาเพิ่งยี่สิบเจ็ด ชายหนุ่มพนมมือรับไหว้
“สวัสดีครับคุณนานา”
สายน้ำผึ้งมองคู่หนุ่มสาวด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ทำความรู้จักกันไว้นะคะ เผื่ออนาคตจะได้สนิทกันมากขึ้น”
สายน้ำผึ้งออกอาการเชียร์น้องชายและฝ่ายหญิงอย่างออกนอกหน้า
“เนี่ยตาต่อ น้องนานานอกจากจะทำธุรกิจที่บ้านแล้วยังเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยอีกนะ รู้แล้วจะอึ้ง”
“เหรอครับ เก่งจังเลยนะครับ”
ต่อตระกูลพยักหน้ารับ สบตากับอีกฝ่ายบ่อยครั้ง
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ พอดีมีพี่ที่รู้จักกันเสนอให้นานาเข้าไปสอนความรู้ที่ใช้ในธุรกิจจริง ๆ ให้นักศึกษาน่ะค่ะ นานาเห็นว่ามันดีก็เลยไป แต่เป็นอาจารย์สอนพิเศษนะคะ ไม่ได้สอนตลอดไป”
“อ้อ ครับ”
“แต่น้องนานาก็มีเวลาว่างใช่มั้ยจ๊ะ หากจะมีคนอยากนัดเจออีก”
สายน้ำผึ้งแทรกขึ้น อีกฝ่ายตอบอย่างขัดเขิน
“ก็พอมีค่ะ นานาแบ่งเวลาได้”
“คราวหน้า ต่อก็นัดน้องนานาออกมาทานข้าวกันเองบ้างนะ จะได้เรียนรู้กัน”
พี่สาวส่งสายตาให้น้องชายรุกจีบลัลนามากกว่านี้ หากแต่โดยนิสัยส่วนตัวของต่อตระกูลเขาไม่ได้ชอบที่จะจีบใครแบบตรง ๆ แค่สบตา สายตาก็บ่งบอกแทนความรู้สึกได้หลายอย่างแล้ว