อติกานต์เก็บของส่วนตัวลงใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่และแบ่งใส่กล่องรวมถึงกระเป๋าผ้าที่พอจะใส่ของได้ อยู่กันมานานกว่าสามปีสิ่งของที่มีก็ไม่ใช่น้อย กระเป๋าใบเดียวขนไปไม่หมดหรอกมันมีพวกของใช้จุกจิกหลายชิ้น ขณะที่ต่อตระกูลนั่งมองดูหญิงสาวด้วยแววตาขุ่นขวาง สีหน้ามึนตึง ทว่าก็ไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา เขาก็ต้องยอมรับว่าเวลามันเดินมาจนสุดทางแล้ว
“จะย้ายไปอยู่ไหน”
ในที่สุดเสียงถามห้วนสั้นก็ดังขึ้น อติกานต์เหลือบตามอง บอกไปตามตรง
“ไปอยู่กับเพื่อนก่อนค่ะ รอทำเรื่องไปเรียนต่อ”
เธอเองก็มีอนาคต ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานะให้เขาเหยียบย่ำหัวใจอีกต่อไป ที่ผ่านมาเพราะเธอยังเด็ก สิ้นไร้บุพการีคอยโอบอุ้มขาดประสบการณ์ชีวิต ไม่รู้จะเดินทางไหน พอเขายื่นมือมาให้จับเธอก็จับมือกับเขา จนถึงตอนนี้เธอสามารถขีดเส้นทางเดินของตัวเองได้แล้ว เธอก็จะไปอย่างมั่นคง
ต่อตระกูลกระดกแก้วน้ำสีอำพันในมือขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะกระแทกก้นแก้วลงบนโต๊ะอย่างแรง ไม่ชอบใจกับท่าทีอวดดีที่หญิงสาวแสดงออกตอนนี้มันเหมือนเธอไม่แคร์เขาแล้ว ร่างสูงลุกขึ้นเดินมารั้งหัวไหล่มนให้อติกานต์ลุกขึ้นมาเผชิญหน้า ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองก่อนจะรั้งตัวเธอเข้ามากอดซุกไซ้ตามอารมณ์ปรารถนา อติกานต์ดิ้นขัดขืนในตอนแรกก่อนจะสยบลงในเวลาต่อมา ถือเป็นครั้งสุดท้าย
“ฉันจะคอยดูเธอนะเอย ว่าเธอจะไปได้ไกลซักแค่ไหน”
เป็นคำพูดสุดท้ายที่ได้ยินจากปากต่อตระกูล ก่อนเธอจะก้าวเท้าออกจากห้องนี้แล้วไม่กลับมาอีก
“ไม่ต้องคอยดูหรอกค่ะ เราคงไม่ได้เจอกันอีก”
เป็นคำพูดสุดท้ายจากปากอติกานต์ที่ต่อตระกูลไม่ได้ยินเช่นกัน
เมื่อต่อตระกูลกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งในเขาก็พบแต่ความว่างเปล่า ภายในห้องนอนไม่พบแม้แต่ร่องรอยของเธอ หญิงสาวเก็บของใช้ส่วนตัวของตัวเองเรียบไม่หลงเหลือสักชิ้น
ไม่คิดว่าจะขนของออกไปเร็วขนาดนี้ คิดว่าจะได้อยู่ด้วยกันอีกคืน เขายังมีเงินขวัญถุงที่จะให้เธอไปใช้ชีวิตอีกก้อน ชายหนุ่มหงุดหงิดเดินออกมาข้างนอก หาอะไรดื่มย้อมใจแต่ภาพที่เห็นกลับเป็นภาพสาวน้อยที่เคยอยู่ด้วยกันเดินวนเวียนอยู่รอบกาย มองไปมุมไหนก็เห็นเธอในอิริยาบทงดงาม
แต่จะทำไงได้สำหรับเขาชีวิตคู่ที่เหมาะสมต้องมาก่อน...ความรักเสมอ
รักเหรอ... ไม่ใช่หรอก มันก็แค่ความเคยชินเท่านั้นแหละ
ยอมรับว่ารู้สึกเสียดายเธออยู่ ยังมีความหวงของที่เป็นของตัวเองอยู่ แต่ตอนนี้เขาเลือกที่จะทำความรู้จักกับลัลนาแบบจริงจังแล้วก็จำต้องปล่อยเธอไป
ชายหนุ่มกวาดสายไปตาไปรอบห้องก็สะดุดกับพวงกุญแจตุ๊กตาหมีที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะกระจก เขาลุกไปหยิบมันขึ้นมาดู กำไว้แน่น
เธอเป็นคนขอเขาไปเองนึกว่าจะนำติดตัวไปด้วย นิ่งคิดอยู่แป๊บหนึ่งร่างสูงก็เดินไปที่ถังขยะก่อนจะปล่อยมือทิ้งตุ๊กตาหมีตัวนั้นลงไป
จะเก็บไว้ให้รกห้องทำไมก็ไม่รู้ ในเมื่อเขาเองก็ไม่คิดจะใช้มันอยู่แล้ว
พอสอบวิชาสุดท้ายเสร็จเพื่อนที่เช่าหอพักอยู่ก็กลับบ้านที่เพชรบุรีก่อน เนื่องจากไม่มีงานอะไรต้องส่งอีกแล้วเหลือแค่รอลุ้นเกรดเฉลี่ยที่จะประกาศผ่านระบบของมหาวิทยาลัยสามารถเข้าดูทางออนไลน์ได้ อติกานต์จึงอยู่ที่ห้องเพื่อนตามลำพังมีเวลาร้องไห้เสียใจโดยไม่ต้องเกรงใจ หรือกลัวว่าใครจะเห็น พอเดินออกมาหญิงสาวก็ตัดการติดต่อกับต่อตระกูลทุกช่องทาง
ขณะนั้นร่างบางที่นั่งเหม่อก็รู้สึกอยากอาเจียนจนต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำ โก่งคอตรงชักโครกหากแต่ไม่มีอะไรออกมามากมายนัก ก่อนจะกลับออกมานอนพัก
คงจะเครียดมากไป
ทางด้านของต่อตระกูลค่ำคืนนี้เขาออกมานั่งรับประทานอาหารกับสายน้ำผึ้งพี่สาวพร้อมด้วยลัลนา ‘แฟนสาว’ เขาพยายามแล้วที่จะปรับอารมณ์ให้เข้ากับบรรยากาศที่แสนรื่นรมย์ ผู้คนที่ขึ้นมารับประทานอาหารหรือนั่งดื่มที่บาร์แห่งนี้สีหน้าคลอเคล้าด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ คงมีแต่เขาเท่านั้นที่นั่งหน้าขรึมจนพี่สาวต้องคอยสะกิดเตือนหลายครั้ง และในตอนที่ลัลนาลุกไปเข้าห้องน้ำเสียงหนึ่งก็แว้ดขึ้น
“เป็นอะไร นั่งหน้าเครียดตั้งแต่มาแล้วนะ คนเขาดูออก อย่าบอกนะว่าคิดเรื่องนังนั่น แล้วไล่มันไปรึยัง”
สายน้ำผึ้งเซ้าซี้ จุกจิก หลายต่อหลายครั้งที่น้องชายรู้สึกรำคาญ แต่ด้วยนิสัยของผู้ชายอย่างเขาที่ไม่ชอบพูดอะไรมาก ทำได้ก็แค่การเดินหนีจากพี่สาว
“ผมจัดการแล้ว ก็บอกแล้วไงไม่ต้องเป็นห่วง”
สายน้ำผึ้งเหยียดปากยิ้มด้วยความพอใจ
“ดี ให้มันได้อย่างนี้สิ ผู้หญิงแบบนั้นหาเมื่อไหร่ก็ได้ ตอนนี้ผู้หญิงที่มีค่าคู่ควรกับน้องชายพี่อยู่ตรงหน้าแล้ว”
พี่สาวยกเครื่องดื่มขึ้นจิบด้วยความพอใจ ต่อตระกูลที่คล้ายมีบางอย่างติดอยู่ในใจจึงพูดต่อว่า
“ผมยังมีบางอย่างที่ต้องให้เอย”
“อะไร”
พี่สาวหันขวับมามองตาขวาง
“เงิน อย่างน้อยก็ให้ไว้เป็นเงินเก็บ”
ตอนแรกสายน้ำผึ้งจะออกปากห้าม แต่ทำเป็นใจดีบอกว่า
“แกไม่ต้องเอาไปให้เอง พี่จะจัดการให้ ขืนแกไปเจอกันอีก ก็ตัดกันไม่ขาดสักที ตัดบัวอย่าเหลือใย ไม่งั้นใยมันจะกลับมาพันตัวแก”
ต่อตระกูลมองหน้าพี่สาวอย่างชั่งใจ ก็จริงอยู่ว่าเขายังตัดอติกานต์ออกจากความคิดไม่ได้ หากเจอหน้าเธออีกครั้งก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ทว่าอีกใจก็ไม่อยากทำให้เรื่องมันยืดเยื้อในเมื่อเขาเลือกที่จะคบกับลัลนา
“พี่จะให้เค้าจริงใช่มั้ย”
“นี่ ฉันเป็นพี่สาวแกนะ บอกว่าจะให้ก็ต้องให้สิ แค่เอาเช็คไปให้เด็กนั่นมันจะไปยากอะไร ดีกว่าให้แกเอาไปให้”
สายน้ำผึ้งเบ้ปาก ชักสายตามองน้องชายอย่างรู้ทัน ต่อตระกูลจึงตัดสินใจว่าเงินที่เขาตั้งใจให้เธอไว้อยู่แล้วหลังเรียนจบจะให้พี่สาวเป็นคนนำไปให้
ลัลนาเดินกลับมาที่โต๊ะทว่าท่าทางการเยื้องย่างดุจนางพญา ใครที่เห็นก็อดไม่ได้ที่จะมองตาม หญิงสาวนั่งลงข้าง ๆ แฟนหนุ่ม ก่อนจะบอกว่า
“นานาขอออกไปชมวิว แล้วก็ถ่ายรูปข้างนอกหน่อยนะคะ”
สาวสวยเอ่ยมาก่อนจะลุกเดินออกไปอีกครั้งพร้อมคว้าโทรศัพท์มือถือติดมือไปด้วย สายน้ำผึ้งเลิกคิ้วมองน้องชายด้วยสีหน้าระอา
“ตามไปสิ ตามไปถ่ายรูปให้น้องนานา นี่ต้องให้ฉันบอกกี่ครั้งเป็นผู้ชายต้องเทกแคร์แฟนให้มากกว่านี้นะตาต่อ”
ร่างสูงลุกตามหญิงสาวไป ทำหน้าที่แฟนที่ดีด้วยการถ่ายรูปให้เธอในหลากหลายอิริยาบถ มองเผิน ๆ ก็ดูเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
“พี่ต่อโอเคนะคะ วันนี้นานารู้สึกว่าพี่ต่อดูเครียด ๆ”
“อ้อ เรื่องงานน่ะครับ”
“เหรอคะ เทอมนี้นานาก็สอนเสร็จแล้ว ได้ประสบการณ์จากการเป็นอาจารย์พอสมควร ต่อจากนี้คงจะกลับมาทำงานที่บริษัทเหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ งั้นเราไปเที่ยวทะเลพักผ่อนกันสักวันสองวันมั้ยคะ นานามีบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน”
“อืม...พี่ขอดูตารางงานก่อนนะครับ แล้วจะให้คำตอบ”
ลัลนายิ้ม แววตามองแลลึกเข้าไปในดวงตาคมเหมือนกำลังค้นหาบางอย่าง
“ได้ค่ะ ว่าแต่ ให้นานาไปค้างที่คอนโดกับพี่ต่อได้รึยังคะ ถ้านานากลับมาทำงานที่บริษัทเต็มตัว ค้างกับพี่ต่อที่คอนโดคงสะดวกกว่าอยู่บ้าน อีกอย่างเราก็จะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย”
สาวสวยส่งยิ้มหวาน ต่อตระกูลไม่มีข้อโต้แย้งหรือหาเหตุผลประวิงเวลาต่อไปอีกแล้ว
“ถ้าน้องนานาสะดวกก็ได้ครับ”
จากนั้นลัลนาก็อัปรูปคู่ของเธอกับแฟนหนุ่มอวดชาวโซเชียล
“พี่ต่อน่าจะเล่นไอจีนะคะ เอาไว้อัปรูปสวย ๆ เก็บเป็นความทรงจำ เวลาลงรูปคู่นานาจะได้แท็กด้วย”
ลัลนาเปรยขึ้น ต่อตระกูลเริ่มรู้สึกสนใจช่องทางนี้ขึ้นมา เผื่อจะได้เอาไว้ส่องความเคลื่อนไหวของใครบางคนด้วย
เขาจึงสมัครบัญชีเป็นครั้งแรก จากที่ไม่เคยสนใจจะให้ใครติดตามผ่านโลกโซเชียลเลย จำได้ว่าอติกานต์ก็เล่นแอพพลิเคชันนี้เหมือนกัน
^
^
^
***ขอหายหน้าไปสักพัก จะกลับมาเมื่อคนอ่านเรียกร้อง อิอิ
ฝากเฮียกั้ง เฮียเติ้ง ไว้ใน ebook นะคะ กดอ่านรอได้เลย