5
เจ็ดวันต่อมา ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
วันเดินทางของแขวลัยก็มาถึง หลังจากที่เธอได้จัดการภาระของตนเองเรียบร้อยแล้ว ดวงพรโทรศัพท์ไปพูดเรื่องที่แขวลัยขอเบิกเงินล่วงหน้าสองแสนบาท ซึ่งทางผู้ว่าจ้างไม่ติดขัดในเรื่องนี้ จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของแขวลัยในวันรุ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังประสานงานเรื่องหนังสือเดินทางและวีซ่าเข้าประเทศฝรั่งเศสให้ด้วย จนแขวลัยไม่ต้องทำอะไรมากแค่จัดเตรียมเอกสารที่จะต้องใช้ และนำร่างกายไปยังสถานทูตแค่นั้น อีกทั้งยังจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้พยาบาลกิตติมศักดิ์อีกด้วย ที่ทำลงไปทั้งหมดเพื่อความรวดเร็วในการเดินทางมาทำงานอันแสนหนักอึ้ง
แขวลัยจึงนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้จารุณี และทำตามความตั้งใจของตัวเอง แบ่งให้มารดาไว้ใช้สามหมื่นบาท นอกนั้นเก็บไว้สำรองในการจ่ายหนี้สินและค่าใช้จ่ายของครอบครัว
“แม่ดูแลตัวเองกับน้องด้วยนะจ้ะ มีอะไรก็โทรหาแขนะแม่”
คนที่กำลังเดินทางไปต่างประเทศเอ่ยกำชับวรารัตน์ย้ำนักย้ำหนาตั้งแต่อยู่ที่บ้านจนกระทั่งมาถึงสนามบิน
“แกจะพูดอะไรนักหนาเนี่ย พูดกรอกหูฉันตั้งแต่ที่บ้านยันจะขึ้นเครื่องบิน แกยังไม่เลิกพูดอีกเหรอ”
ตอนแรกที่นางได้ยินว่า แขวลัยจะไปทำงานเป็นพยาบาลพิเศษให้คนตาบอดยังต่างประเทศเพื่อนำเงินที่ขอเบิกมาใช้หนี้แทนตน แล้วเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือนจะทำให้ความเป็นอยู่ของตนและลูกอีกสองคนพลอยได้รับความสบายไปด้วย เพราะแขวลัยจะส่งเงินมาให้ใช้เดือนละสามหมื่น ใช้หนี้ให้จารุณีอีกเดือนละแสน นอกนั้นเก็บเอาไว้เป็นทุนสำรอง
วรารัตน์รู้สึกใจหายและรู้สึกผิดที่ทำให้ลูกสาวที่นางไม่ได้ให้ความรัก ความสนใจมากนักต้องลำบากลำบน ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำงานแดนไกล และเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนสูงมากด้วย แต่ความที่วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ลูกสาวทั้งสองคนของนางไม่ถูกจับไปขายซ่อง และความที่เห็นแก่เงินเดือนที่มากถึงสองแสนบาท มากพอที่จะทำให้ชีวิตของคนที่อยู่เมืองไทยสบาย โดยที่ไม่ต้องเขียมในการใช้จ่าย คิดว่าหากเงินหมดนางก็เพียงโทรศัพท์ไปขอแขวลัย แค่นี้เงินก็จะถูกโอนเข้าบัญชีทันที เพราะแขวลัยไม่มีวันปฏิเสธนางกับน้องๆ ได้อยู่แล้ว ไม่ปล่อยให้คนในครอบครัวอดอยากด้วย วรารัตน์จึงไม่ค้านที่แขวลัยจะเดินทางไปฝรั่งเศสในครั้งนี้
“ก็แขเป็นห่วงแม่กับน้องนี่จ๊ะ”
“ถ้าห่วงนักก็อย่าลืมส่งเงินมาให้ฉันกับน้องๆ ใช้ก็แล้วกัน” ไม่วายที่จะกำชับบุตรสาวที่แสนดี โดยมีลูกสาวคนกลางสุดที่รักพูดกำชับปิดท้าย
“ใช่พี่แข อย่าลืมส่งเงินให้ขวัญกับแม่ใช้ทุกเดือนล่ะ ได้เงินเดือนละตั้งสองแสนแต่ให้ใช้เดือนละสามหมื่น ตัวเลขมันไม่สมน้ำสมเนื้อเลยนะ”
“พี่ต้องใช้หนี้เจ๊นีก่อน พอหมดก็จะให้เพิ่ม”
แขวลัยตอบเสียงอ่อย มีความน้อยใจในน้ำเสียง แทนที่ครอบครัวอันเป็นที่รักจะเป็นห่วงเป็นใยการเดินทางไกลในครั้งนี้ของเธอ กลับห่วงเรื่องเงินมากกว่า คนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ทั้งสามชีวิต ถึงกับเพลียใจ หมดเรี่ยวแรงและสิ้นกำลังใจไปมากโข
“แขรีบเข้าไปเถอะ จวนได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วนะ” เสียงของดวงพรดังขึ้น เมื่อมองดูนาฬิกาข้อมือของตนเอง
“ค่ะพี่พร” แขวลัยหันไปรับคำพูดของดวงพร ก่อนจะหันมาลามารดาและน้องสาวที่วันนี้เดินทางมาส่งเธอที่สนามบิน “แม่จ๋า ขวัญ พี่ไปก่อนนะ”
คนที่กำลังจากบ้านเกิดเมืองนอนพนมมือไหว้มารดา แล้วกล่าวคำลา วรารัตน์สวมกอดลูกสาวคนโตอย่างเสียมิได้ เพราะนางเขินอายมากกว่าจะพูดคำดีดี คำอวยพร จึงเลือกที่จะกอดร่างของแขวลัย ซึ่งคนที่ถูกกอด กอดรัดร่างของมารดาเอาไว้แน่น ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจเนื่องจากอ้อมกอดของวรารัตน์เป็นอ้อมกอดแรกในรอบสิบปีที่ได้รับ อ้อมกอดในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนพลังในการต่อสู้กับอุปสรรคข้างหน้า
“ไปเถอะแข” ดวงพรเร่งอีกรอบ
“แขไปก่อนนะคะแม่”
แขวลัยผละห่างอ้อมกอดของมารดาด้วยความอาลัยอาวรณ์ กล่าวคำลาอีกครั้งแล้วหมุนตัวเดินไปยังประตูผู้โดยสารขาออก ไม่ลืมที่จะหันมายิ้มกับคนที่มาส่งอีกครั้ง
พอคล้อยหลังร่างของแขวลัยที่เดินหายเข้าไปในช่องผู้โดยสารขาออก ดวงพรหันกลับมายังสองแม่ลูกที่เดินทางมาส่งแขวลัยพร้อมกับเธอ สีหน้าของผู้พูดจริงจัง
“คุณน้าคะ โปรดรู้ไว้นะคะว่า ที่แขไปทำงานต่างบ้านต่างเมืองก็เพราะหนี้สินที่แขไม่ได้ก่อ แต่ต้องมารับภาระใช้หนี้ให้ แล้วไม่รู้ด้วยว่าไปอยู่ที่โน่นจะเป็นยังไง ถ้าคุณน้ารักแข และเห็นแขเป็นลูก พรขอนะคะ เลิกสร้างหนี้สร้างสินได้แล้ว พรบอกตรงๆ นะคะว่าสงสารแขมาก แต่ถ้าคุณน้าไม่เห็นแขเป็นลูกก็สุดแล้วแต่คุณน้าก็แล้วกันคะ พรลานะคะ สวัสดีค่ะ”
ดวงพรทิ้งคำพูดไว้ให้วรารัตน์ขบคิด ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าคำพูดทั้งหมดนั้นจะทำให้วรารัตน์เปลี่ยนแปลงตัวเองได้หรือไม่ ทุกสิ่งอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ใคร ขึ้นอยู่กับตัวของวรารัตน์คนเดียวเท่านั้น
คนที่ฟังอยู่อึ้งและสะอึกไปชั่วครู่ นางรู้ดีว่าเหตุใดแขวลัยถึงได้ไปทำงานต่างประเทศ เป็นเพราะต้องการใช้หนี้สินที่มากโข หนี้สินที่นางกับลูกสาวคนกลางก่อไว้
วรารัตน์ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นห่วงลูกสาวคนโต แต่ความที่ปากหนัก แสดงออกมาตลอดว่าไม่สนใจไยดี ด่าทอและว่ากล่าวทุกครั้งที่แขวลัยขัดใจ ทำให้นางมองข้ามที่จะทำดีต่อลูกคนนี้
เห็นทีนางจะต้องคิดใหม่ทำใหม่เสียแล้ว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเสียใหม่ เพราะอย่างน้อยแขวลัยก็เป็นลูกคนหนึ่งของนาง
เริ่มต้นจากวันนี้มันก็ยังไม่สาย