14

1332 คำ
14 ย่างเข้าสู่วันที่สองของการทำงาน แขวลัยซึ่งยังตื่นเต้นไม่หายกับการได้ดูแลคนไข้หนุ่ม หลังจากที่หญิงสาวเดินออกจากห้องนอนของลูอีสในตอนสายนั้น หน้าที่ต่อไปของเธอก็คือจัดเตรียมอาหารเช้าให้เขารับประทาน พอเสร็จสิ้นก็จะเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของเขาคือการนั่งฟังเพลง โดยมีเธอคอยยืนดูห่างๆ ไม่กล้าเข้าไปใกล้ร่างหนามากนัก เพราะกลัวว่าลำแขนดุจดังปลาหมึกของเขาจะรัดร่างเธออีก พอถึงเวลาอาหารกลางวันและเย็น แขวลัยก็จัดเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพ พอเขาเข้านอนก็หมดเวลาการทำงานของเธอ วันนี้แขวลัยตื่นมาทำหน้าที่ของตนเองแต่เช้า พอจัดการกับตัวเองเสร็จเรียบร้อย เธอก็เดินลงมายังชั้นล่างของบ้าน ตรงไปยังห้องครัวเพื่อลงมือทำอาหารเช้าให้ลูอีสรับประทาน ซึ่งไม่มีพยาบาลคนไหนทำอย่างนี้มาก่อน “เป็นไงบ้าง หัวหายโนหรือยัง แล้วจะทำงานไหวมั้ยเนี่ย?” ปราทิเซียเอ่ยถามเมื่อทุกคนนั่งประจำที่เพื่อรับประทานอาหารเช้า ตอนสายของเมื่อวานนี้นางและซาบริน่าได้เห็นหน้าผากที่ปูดโนของเธอตอนที่ลงมานำอาหารเช้าขึ้นไปให้ชายเอาแต่ใจ นางยอมรับว่าตกใจไม่น้อยที่เห็นหลักฐานการไม่พอใจพยาบาลคนใหม่ของลูอีส คราแรกนางตั้งใจว่าจะขึ้นไปต่อว่าหลานชายกับการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทว่าแขวลัยได้ห้ามไว้ด้วยเหตุผลที่ว่า เธอหลบไม่ทันเอง อีกประการหนึ่งถ้าหากปราทิเซียขึ้นไปต่อว่าลูอีสจริงๆ เธออาจจะทำงานลำบากเพราะเขาต้องคิดว่า เธอเป็นสาวช่างฟ้อง นางจึงนิ่งปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไป และที่ถามออกไปเช่นนั้น เพราะคิดว่าแขวลัยคงจะถอดใจเหมือนกับพยาบาลรายอื่นๆ หากเป็นนาง นางก็คงลาออกไปตั้งแต่ที่ถูกทำร้ายแล้ว “ไม่โนแล้วค่ะ มิแชลเอาน้ำอุ่นประคบค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะมิแชลไม่ถอยแน่นอนค่ะ” เธอตอบพร้อมกับให้ความมั่นใจกับผู้ว่าจ้าง แม้ว่าวานนี้ตนเองจะถูกลูอีสหยามศักดิ์ศรีด้วยการคว้าตัวไปจูบ แต่ถึงกระนั้นแขวลัยก็ไม่อาจเลิกล้มงานที่ทำอยู่กลางคันได้ เงินก็เบิกล่วงหน้าไปแล้ว หนี้สินที่เมืองไทยก็รอให้สะสางอยู่ ภาระที่จะต้องดูแลครอบครัวก็ต้องทำ ฉะนั้นแขวลัยต้องทำงานต่อไป “เธอนี่มีน้ำอดน้ำทนดีเหมือนกันนะ ถ้าเป็นคนอื่นเปิดก้นหนีไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” ทั้งเสียงอาละวาด ทั้งเสียงขว้างปาสิ่งของ ซึ่งเป็นเสียงที่ได้ยินจนชินชา แล้วเมื่อสิ้นเสียงนั้นคราใด พยาบาลรายนั้นๆ ก็จะต้องวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้อง แล้วขอลาออกกันทุกคน ยกเว้นแขวลัยที่ยังไม่ทำอย่างคนที่ผ่านๆ ความอดทนของเธอยังมี แล้วไม่รู้ว่าจะหมดลงในวันใด ทุกคนภายในบ้านจึงลุ้นแล้วลุ้นอีก “มิแชลทนได้ค่ะ คุณลูอีสไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรมากมายค่ะ แค่อารมณ์ร้าย ขี้โมโหมากกว่าคนอื่นๆ เท่านั้นเอง หากเราเข้าใจตรงจุดนี้ เราเอาความใจเย็นเข้าข่ม ใช้ความอดทนให้มากๆ ทุกอย่างมันก็จะไปได้ด้วยดีค่ะ” แขวลัยนำธรรมะที่เคยได้รับฟังและถูกสั่งสอนมาใช้ในชีวิตประจำวันเสมอ ดับความร้อนในอารมณ์ของคนอื่น ด้วยความใจเย็นดั่งน้ำแข็งในใจตน ผู้ว่าจ้างทั้งสามมองหน้ากันหลังจากที่ได้ยินคำพูดของแขวลัย เอาความใจเย็นเข้าข่ม ใช้ความอดทนอย่างนั้นหรือ คนที่ทำตามที่ว่าได้ ต้องใช้น้ำแข็งในใจอย่างมากมาย ใช้ความอดทนอย่างท่วมท้น ไม่เช่นนั้นคงรับมือกับลูอีสได้ยาก พวกเขามองไม่เห็นว่าใครจะทำได้ นอกจากผู้พูดที่ไม่รู้ว่าจะทำได้มากน้อยแต่ไหน “ถ้าเธอไม่ไหวก็บอกนะมิแชล ไม่ต้องฝืนแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องเงินที่เธอเบิกไป ฉันถือเสียว่าเป็นค่าเจ็บตัวและค่าเสียเวลา” เลอแตรงค์พูดให้แขวลัยคลายความตึงเครียดในการทำงาน หากไม่ไหวขอให้บอกซึ่งพวกเขาไม่คิดเสียดายเงินที่เธอของเบิกไป เพราะคิดตามคำพูดนั้นจริงๆ “มิแชลไหวค่ะ” แขวลัยยืนยันกับนายจ้างอีกครั้ง “เห็นมาเรียบอกว่าเธอทำอาหารเช้าให้ลูอีสทาน ทำไมต้องทำด้วยล่ะ มันไม่ใช่หน้าที่เธอนะ?” ซาบริน่ามารดาลูอีสเอ่ยถามหลังจากจบประเด็นแรก ก่อนหน้าที่นางจะเข้ามาในห้องรับประทานอาหารเช้า มาเรียได้บอกกับนางว่า แขวลัยลงมือทำอาหารให้ลูอีสรัประทาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติเนื่องจากไม่เคยมีพยาบาลคนไหนทำเช่นนี้ แล้วที่สำคัญลูอีสเป็นคนทานยาก หากอาหารไม่ถูกปากจะไม่แตะเลย “อาหารการกินของคุณลูอีสก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของมิแชลค่ะ เมื่อวานนี้มิแชลมองดูเวลาคุณลูอีสทานอาหารในแต่ละมื้อ ดูๆ เหมือนว่าคุณลูอีสจะเบื่ออาหารค่ะ ทานอาหารไม่หมดจาน มิแชลเลยลองเปลี่ยนอาหารให้คุณลูอีสทานบ้างค่ะ” แขวลัยตอบเหตุผลของการทำอาหารในครั้งนี้ให้ผู้ว่าจ้างได้รับฟัง ซึ่งทั้งสามก็รู้สึกไม่ต่างกับผู้พูด หลังๆ มานี้ลูอีสทานอาหารไม่หมด เหลือครึ่งหนึ่งบ้าง บางครั้งพร่องไปเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ไม่กล้าปรับเปลี่ยนอาหารให้ลูอีส เพราะเปลี่ยนครั้งใด จานอาหารต้องตกมาแตกบนพื้นทุกครั้ง “เปลี่ยนน่ะมันเปลี่ยนได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนะมิแชล แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่าลูกชายของฉันเป็นคนกินยาก จะเลือกกินเท่าที่ชอบเท่านั้น ฉันกับทุกคนก็เลยกลัวว่า อาหารที่เธอทำให้ลูอีสทาน มันจะถูกเททิ้งเสียของเปล่าๆ น่ะสิ” เลอแตรงค์บอกความกังวลใจที่เขามีให้แขวลัยได้รับฟัง แล้วยิ่งช่วงนี้อารมณ์ของลูอีสไม่อยู่กับร่องกับรอย เขาจึงกลัวว่าลูกชายจะแผลงฤทธิ์ร้ายอีก “จริงอย่างที่เลอแตรงค์พูด ลูอีสไม่เหมือนคนอื่นนะ บทจะไม่ก็ไม่ บทจะยอมก็ยอมอย่างง่ายดาย เรื่องอาหารการกินก็เหมือนกัน ถ้าไม่ถูกปากรับรองได้ว่าอาหารที่เธอทำให้หลานฉันกินต้องลอยมาตกบนพื้นแน่นอน” ปราทิเซียกล่าวเสริมอีกคน “มิแชลอยากลองดูค่ะ ไม่ลองไม่รู้ค่ะคุณท่าน ถ้าคุณลูอีสไม่ชอบมิแชลก็จะไม่ทำให้ทานอีกค่ะ” แขวลัยขอเพียงได้ลองก่อนเท่านั้น หากมันออกมาในทิศทางที่ไม่ตรงกับใจ เธอก็จะไม่พยายามทำแบบนั้นอีก “งั้นก็ตามใจเธอเป็นพยาบาลดูแลลูกชายฉันนี่ มีสิทธิ์ที่จะดูแลอย่างเต็มที่ ขาดเหลืออะไรก็บอกนะ ฉันจะให้มาเรียทำอาหารอีกชุดหนึ่งให้ลูอีส เผื่อว่าเจ้าตัวดีไม่ยอมกินอาหารที่เธอทำให้” ซาบริน่าไม่ขัดความประสงค์ของพยาบาลสาว แต่ทว่านางก็ต้องให้แม่บ้านใหญ่ทำอาหารสำรองเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะออกมาในรูปใด “ขอบคุณค่ะที่ให้โอกาสมิแชล” แขวลัยพนมมือไหว้ขอบคุณผู้ว่าจ้างทั้งสาม ที่ให้โอกาสในการดูแลลูอีสเต็มที่ “กินข้าวเถอะ กินเสร็จเธอจะได้ไปดูแลหลานฉัน” ปราทิเซียพูดตัดบท ก่อนที่ทั้งหมดจะลงมือรับประทานอาหารเช้าแบบฝรั่งเศส ที่มีขนมปังหน้าตาหลายแบบสองสามชนิด มีเนย แยมสามรสและน้ำผึ้งไว้ทา กาแฟดำกลิ่นหอม น้ำผลไม้หนึ่งแก้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม