เรื่องราวจบได้ด้วยดี ตำรวจรวบคนร้ายตัวจริงได้ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก แต่กว่าจะจบก็ต้องอยู่จนเช้า น่าสงสารจังคงจะเหนื่อยมากถึงขั้นหลับทั้ง ๆ ที่ยังใส่ชุดทำงานอยู่เลย ปล่อยให้นอนแบบนี้ดีกว่า
“จะไปไหน”
“ไปอาบน้ำสิคะ”
“อยู่เป็นหมอนข้างให้ก่อน ไม่มีเธอฉันก็นอนไม่หลับ” คำพูดที่ทำเอาฉันต้องใจอ่อนยอมให้นอนกอดแบบนี้ ว่าแต่นอนซุกนมแบบมันสยิวกิ้วนะคะ
ฉันนอนให้พี่ซันกอดจนเขาตื่น แต่กว่าจะตื่นก็เที่ยง ทำเอาฉันเมื่อยไปหมด พอจัดการตัวเองเสร็จ เราลงมาก็เจอคุณนนท์นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว
“มาได้ยังไงคะ”
“มาทวงสัญญา ที่บอกหายไข้แล้วจะไปกินติมกัน”
“พี่คงยอมให้ไปด้วยไม่ได้” ฉันแอบหันไปมองคนพูดด้วยความดีใจที่วันนี้เขายอมแสดงออกมาว่าหวงฉัน
“ไม่เจอกันอาทิตย์นึง คิดถึงใจจะขาด ซียังน่ารักเหมือนเดิมเลย “เมินประโยคเมื่อกี้กันเลยทีเดียว
อีตานี่เป็นคนที่รับมือยากที่สุด เพราะบทจะมึนก็มึนจนไม่ยอมฟังอะไรกันเลยทีเดียว ฉันได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริง ๆ แต่คนที่หงุดหงิดกว่า คงจะเป็นคนที่ยืนข้างหลังฉัน
“พี่ซันเลี้ยงไม่ดีใช่ไหม ตัวนิดเดียว” วันนี้เดรสที่ฉันใส่เป็นเดรสเข้ารูปสีเทา เลยทำให้เห็นสัดส่วนชัดเจน
“ฉันไม่ชอบกินผักล่ะมั้งคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันชอบแบบนี้ เรียกว่าคลั่งไคล้เลย” ฉันเริ่มกลัวหมอนี่แล้วสิ ทำไมเขาถึงทำเหมือนยั่วโมโหพี่ซันอยู่ตลอดเวลาเลย
“เธอเป็นเมียพี่”
“แค่ในนามหรือเปล่าล่ะครับ”
โอ๊ยยยยยย คนสวยเซ็ง ไม่ได้ชอบให้มีคนมาแย่ง เพราะฉะนั้นไม่ต้องแย่ง ฉันอยากได้แค่คนคนเดียว เฮ้อ...ปวดหัว นึกว่าวันนี้จะได้อยู่ด้วยกันแค่สองคนแล้วแท้ ๆ
“งั้นก็ไปกินด้วยกันหมดนี่แหละ” พี่ซันยื่นข้อเสนอ
“พี่ซันนนนน”
“ซีคิดว่าถ้ามันไม่ได้ไป มันจะยอมกลับหรอ” พี่ซันกระซิบเบา ๆ เพราะกลัวอีกคนได้ยิน
“ก็ได้ค่ะ”
พี่ซันเป็นคนอาสาพาไปเอง เพราะขากลับจะแวะเข้าโรงแรมด้วย แต่ว่าอีตานี่นั่งใกล้ฉันไปไหม ไล่ไปนั่งหน้าก็ไม่ยอมไป พอฉันจะไปนั่งหน้าก็ไม่ยอม ที่นั่งเยอะแยะ แต่แทบจะมาสิงฉันอยู่แล้ว
“คุณนนท์ ฉันร้อนค่ะ” ฉันพูดแบบอ้อม ๆ
“หงุดหงิดแล้วเหรอ”
หึหึ เล่นสงครามประสาทกับฉันอยู่เหรอ ทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบนั้นคืออะไร ฉันหันไปฝืนยิ้มจนตาหยี
“ไม่ได้หงุดหงิดค่ะ ฉันร้อนจริง ๆ แล้วอีกอย่างคุณไม่เคยทำให้ฉันหงุดหงิดเลย” ฉันประชดเสียงสูง
“เพราะชอบฉันหรือเปล่า”
“เพราะฉันมีคนที่ทำให้หงุดหงิดได้แค่คนเดียว แล้วนั่นไม่ใช่คุณ” ฉันหันไปยิ้มให้คุณชานนท์ “หงุดหงิดแล้วเหรอคะ??" ฉันย้อนถามคนที่ตอนนี้คิ้วขมวดเป็นปม อยากจะเอาชนะฉันเร็วไปอีกร้อยปี
“ยิ่งรู้จัก ยิ่งอยากได้ต้องทำยังไงดี”
“อึ้มมม!!!” เสียงกระแอมจากคนข้างหน้าทำให้บทสนทนาเราจบลง
เรามาถึงคาเฟ่แห่งหนึ่งแถว ๆ โรงแรม เป็นร้านโทนสีชมพู ตกแต่งได้น่ารักมาก ฉันไม่เคยเข้าร้านแบบนี้เลย ไม่คิดว่าจะมีร้านน่ารัก ๆ แบบนี้ด้วย
“ชอบเหรอ เจ้าหญิง” คุณนนท์ถามเพราะเห็นฉันดูตื่นเต้นมาก ๆ
“อื้อ”
เมื่อพนักงานนำเมนูมาให้ มันกับดูละลานตาไปหมด กินอะไรดี อาหารก็ดูน่ากินไปหมด ไหนจะขนมอีก จะสั่งอะไรดี
“เรากินนี่กัน" คุณนนท์ชี้ให้ฉันดูเซตฟองดู ที่มีช็อกโกแลตไว้สำหรับจิ้มผลไม้ และเครื่องเคียงต่าง ๆ
“เอาสิคะ”
“ผมเอาอเมริกาโน่หวานน้อย”
“ค่ะ “บริกรรับออเดอร์ไป
“เธอดูตื่นเต้นนะ”
โดนจับผิดอยู่หรือเปล่าวะ หรือเราทำตัวสะเหล่อเกินไป
“ฉันไม่ได้กินขนมแบบนี้มานานแล้วค่ะ”
“คบกับฉันสิ ฉันจะพากินทุกวันเลย" คุณนนท์พูดพลางยิ้มหวานให้ฉัน
“ฉันมีสามีแล้วค่ะ”
“ฉันไม่เคยเห็นเธอพกกระเป๋าเลย โทรศัพท์ก็ไม่พก เธออยู่แบบไหนเนี่ย มนุษย์ถ้ำหรอ”
“พกไมอะ เงินก็ไม่ต้องพก สามีจ่าย โทรศัพท์พกทำไม อยู่บ้านเดียวกัน”
“จะมีชีวิตเพื่อพี่ซันเลยหรือไง”
ไม่เคยคิดข้อนี้เลย เพราะในใจลึก ๆ ฉันคิดมาตลอดว่าฉันเป็นแค่คนที่ถูกขายมา เป็นแค่สมบัติชิ้นหนึ่งที่มีชีวิต แล้วแบบนี้ฉันมีความสุขไหมนะ
“มีคนเคยพูดว่าฉันเหมือนม้าที่พยศ ถ้าใครปราบได้ฉันจะเป็นของเขาแค่คนเดียว”
“แต่คนคนนั้นเป็นของพี่สาวฉันก็แค่นั้น แล้วไอ้มุกม้าเนี่ย.....ช่างเถอะ”
“เขาเป็นของฉันค่ะ!!!!" เฮือก ของขึ้นจนลืมตัว ฉันรีบหันไปขอโทษที่ตัวเองระงับตัวเองไม่ได้ แต่ดูเหมือนพี่ซันจะไม่ได้โกรธอะไร
เริ่มไม่เข้าใจซะแล้ว ว่าจุดประสงค์ของคุณนนท์คืออะไร แต่ถ้าทำให้ฉันสับสน เขาทำสำเร็จ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองหลงลืมอะไรไป
พอกินเสร็จเราก็แวะที่โรงแรมเพื่อให้พี่ซันเข้ามาเซ็นเอกสารที่ค้างไว้ ฉันขอขึ้นไปด้วย แต่กลับโดนอีกคนรั้งไว้ พี่ซันเลยบอกให้ฉันอยู่ในที่คนเยอะ ๆ อย่าไปไหนกับเขาแค่สองคน ทำไมหุ้นส่วนคนนี้ถึงได้สำคัญมากนักนะ
“ตัวขัดขวางไปแล้ว “พอพี่ซันไปธาตุแท้ก็ออกเลยนะ
“คุณต้องการอะไร”
“ฉันชอบนะ สาวเวอร์จิ้น แถมยิ่งได้ยาก ๆ แบบนี้ ฉันยิ่งสนใจ”
“ใครบอกคุณ ฉันอาจจะผ่านมาเยอะแล้วก็ได้”
เขาลูบที่แขนของฉันเบา ๆ พร้อมโน้มตัวลงมาใกล้ฉันในขณะที่ฉันไม่ตั้งตัว ฉันเลยรีบผลักเขาออกด้วยความตกใจ
“อาการเธอมันฟ้อง”
“คุณรู้ไหม ฉันยังอยากเป็นเพื่อนกับคุณอยู่นะ”
“แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเธอ!!” เสียงตะคอกหนัก ๆ จนหลายคนหันมามอง
“ใจเย็น ๆ หน่อยสิคะ คนมองใหญ่แล้ว”
“ยิ่งเธอมั่นคงแค่ไหน ฉันยิ่งอยากได้ ยิ่งเธอทำเพื่อเขามากแค่ไหนฉันก็ยิ่งอยากได้ ฉันแค่อยากได้คนที่จะมีแค่ฉันคนเดียว” เขายังคงเสียงดัง ทำไมนายนี่ถึงเหมือนกับฉันขนาดนี้
ยิ่งเห็นนายนี่แล้วรู้สึกเหมือนกำลังมองตัวเองในกระจก
“เราเจอกันช้าไปค่ะ ฉันรักเขาไปแล้ว ถึงเขาจะไม่ได้รักฉัน แต่ฉันก็รักเขาไปแล้ว”
ไม่นานพี่ซันก็กลับมา ทำให้เราจบบทสนทนาแต่เพียงเท่านี้
เราขับรถกลับบ้านด้วยความเงียบ คำพูดของคุณนนท์เหมือนระเบิดที่ถูกวางไว้เพราะมันทิ้งคำถามให้ฉันมากมาย เมื่อเรากลับมาถึงบ้าน มันเหมือนว่าเราอยากมีเวลาส่วนตัวกันซักพัก ฉันออกมานั่งที่สระน้ำ นั่งมองน้ำในสระที่ไหลไปไหนไม่ได้ ได้แต่อยู่ในสระเท่านั้น
“มานั่งทำอะไร”
“ฉันคิดเรื่อยเปื่อยค่ะ”
“เรื่อง???”
“ฉันคิดว่า ฉันเองมากกว่าที่ตอนนี้ขายวิญญาณให้พี่ไปแล้ว “ฉันนั่งกอดเข่าแล้วมองหน้าสามีด้วยยิ้มเจื่อน ๆ
“แล้วไง ชีวิตเธอเป็นของฉันตั้งแต่วันที่แต่งงานแล้ว ถึงเธอจะคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา แต่ความจริงก็ไม่เปลี่ยนว่าชีวิตของเธอตอนนี้มีไว้เพื่อฉัน จำไว้" สายตาเรียบ ๆ แบบนี้ของเขามันทำเอาฉันรู้สึกสยอง
“ค่ะ นายท่าน”
“ทุกวันอยู่กับฉันมันทุกข์มากรึไง”
“มีความสุขมาก ๆ เลย" ฉันเงยหน้าขึ้นไปจูบคนตรงหน้าเบา ๆ
“เลิกคิดอะไรไร้สาระ เลิกคิด เลิกฟัง เลิกตอบ มันกำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเธอ ยิ่งเธอตอบ ยิ่งเธอใส่ใจ มันจะเข้ามาอยู่ในใจเธอทีละนิด ต่อไปตอบมันให้น้อย คิดมันให้น้อย แกล้งโง่บ้าง”
“เรามาต่อจากเมื่อคืนกันไหมคะ”
“ไว้ก่อน วันนี้เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น" ขอบคุณนะคะที่ใส่ใจ
วันนี้ฉันอาบน้ำให้เขาเป็นปกติ ชอบในความขาวออร่าของซิกส์แพ็กนี่จัง ฉันเอานิ้วลูบลอนบนหน้าท้องอย่างเผลอตัว ชอบเห็นตอนมันขยับชะมัด
“ล่างอีกนิดสิ ถ้าจะลูบซะขนาดนี้แล้ว รู้ไหมเธอกำลังทำฉันมีอารมณ์”
“ก็ฉันชอบมันนี่คะ”
“ขอ 3 วันนะซี ขอเคลียร์งาน 3 วัน “พี่ซันพูดพร้อมหอมที่หัวฉันเบา ๆ
“เราจะไปไหนกันคะ”
“ฮันนีมูน ครั้งนี้จะไม่ยอมให้ใครมาขัดอีกแล้ว”
อยากถามเรื่องคนชื่อน้ำจัง แต่กลัวว่าถามไปแล้วจะถูกดุอีก ถ้าเป็นคนรักฉันจะทนได้รีเปล่านะ
“หรือเราจะทำกันคืนนี้เลย”
“ไม่ได้เตรียมใจไว้ค่ะ” ฉันบอกปฏิเสธอย่างอ้อม ๆ
“ฉันชอบนะ ที่เธอยอมทิ้งตัวเองเพื่อฉัน มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว” คำพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ดูจริงจัง
พออาบน้ำเสร็จ ฉันต้องตกใจเมื่อชุดนอนมันเปลี่ยนเซตใหม่ วันนี้ชุดเมดหรอ ใคร ใครเขาใส่ชุดแบบนี้นอนกัน ไม่ได้ละ ต้องไปโวยหน่อย อย่างน้อยก็ลดลงมานิส มันเริ่มจะคอสเพลย์เกินไปแล้ว
“พี่ซันชุดนี้มันยังไงคะ มีใครใส่แบบนี้นอนกัน”
“จะโวยวายทำไม เธอเคยขัดใจฉันได้หรือไง แต่เธอใส่มันเหมาะกว่าที่คิดนะ” พี่ซันละสายตาจากหนังสือเพื่อมาตอบฉัน
แปลว่าต้องใส่มันนอนสินะ ถ้างั้นก็เล่นด้วยหน่อยละกัน ชอบสาวเมดใช่ไหม ฉันรู้ว่าเวลาอ่านหนังสือห้ามกวน แต่.......
“ถ้างั้นพี่มานอนบนตักตรงนี้สิคะ" ฉันพูดพร้อมเอาหมอนมารองบนตัก
มีอาการละสายตาจากหนังสือเบา ๆ แต่ไม่ยอมมาแฮะ
“มานะคะ ให้ฉันได้ดูแลนายท่านเถอะค่ะ” ได้ผลแฮะ หนังสือถูกปิดทันทีเลย
“จะเล่นอะไร”
“ดูแลนายท่านยังไงล่ะคะ” ฉันจับคนตรงหน้าหันหลังแล้วนอนลงบนหมอน
ฉันค่อย ๆ นวดเบา ๆ ที่ใบหน้า เน้นที่หัวคิ้วและขมับ แล้วค่อยเลื่อนมาที่ไรผม ค่อย ๆ นวดอย่างแผ่วเบาหวังให้คนตรงหน้าผ่อนคลายก็ยังดี
“ดีไหมคะ”
“อื้ม นวดเก่งนะเนี่ย”
“เพราะตอนก่อนสอบฉันอ่านหนังสือหนักมาก ไมเกรนขึ้นทุกวัน ทำแบบนี้มันได้บรรเทาได้ค่ะ”
ก๊อก ก๊อกกก ก๊อกกกก!!!!!
ทำไมเราถึงมองหน้ากันอย่างรู้ทันนะ เหมือนเดาไว้ในใจอยู่แล้ว เหมือนมีลางสังหรณ์ ว่ายังไงต้องมีคนกวนแน่ ๆ แล้วมันก็เป็นจริง พี่ซันออกไปเปิดประตูห้อง
“คุณซันคะ พวกคุณโจมาค่ะ อูววว ชุดนี้น่ารักค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ลงไปด้วยกันไหม” พี่ซันหันมาถามฉันที่ยังคงอยู่ในชุดเมด
“จะได้มั่นใจว่าพี่ไม่ยุ่งกับสาว ๆ ที่มันพามาจริง ๆ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามดื่ม”
“สัญญาค่ะ” นี่เป็นครั้งแรก ที่พี่ซันชวนลงไปนั่งด้วย เหมือนเราปรับตัวเข้ากันทีละนิด
“ไม่ต้องมายิ้ม แค่อยากโชว์ว่าเมียน่ารักแค่ไหน” คำพูดของเขาที่ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าแดง
เราเดินลงมาที่โต๊ะกลางห้องรับแขก วันนี้มีสาว ๆ มาเยอะกว่าที่คิดแฮะแต่ละคนสวย ๆ ทั้งนั้น พอเดินลงมาฉันก็ทักทายทุกคน มีบางคนที่ฉันไม่รู้จัก พี่ซันก็แนะนำให้ได้รู้จัก แล้วขาดไม่ได้ขาประจำอย่างพี่โจและพี่ส้ม
“โห โอ้ววว บ๊ะ ๆ น้องซี ไปเป็นสาวใช้บ้านพี่บ้างสิ”
“ได้ไหมคะ” ฉันแกล้งหยอกสามีที่สรรหาชุดพวกนี้มาให้ แต่ได้เพียงสายตาดุ ๆ กลับมา
“หื้ยยยยย คนหวงเมียว่ะ” พี่ส้มแกล้งแซว
ถึงบอกจะให้มานั่งเล่นด้วย แต่กลับต้องมานั่งอยู่ระหว่างขาของพี่ซันจนแทบกระดุกกระดิกไม่ได้ วันนี้ฉันโดนบังคับให้กินน้ำเปล่าแทน เพราะมันปราศจากแอลกอฮอล์แน่นอน
พอพวกพี่ ๆ เขาเริ่มเมา งานเผาก็ต้องมา ฉันได้รู้เรื่องของพี่เขา และวีรกรรมแสบ ๆ เพิ่งจะรู้ว่าตอนเด็ก ๆ ก็แสบไม่ใช่เล่นเหมือนกันแฮะ สาว ๆ ที่มากับพวกพี่ ๆ ก็พอรู้ว่าจ้างมา แต่บางคนก็นัวเนียเกิน กอดบ้าง จูบบ้าง จับนมบ้าง กลายเป็นสามีฉันดูเรียบร้อยสุดเลย
“พอมีเมีย ดูเป็นคนดีเลยนะมึง” พี่เต๋าหนึ่งในกลุ่มเพื่อนเอ่ยแซว ๆ
“แสดงว่าปกติไม่ใช่แบบนี้หรอคะ”
“น้องซีขา เจ้าชู้ตัวพ่อ จีบใครได้ทุกคน” พี่โจตอบ
“อย่ามาจุดไฟเผาบ้านกู”
“ต่อไปนี้ห้ามทำแล้วนะคะ” ฉันเอามือแนบแก้มพี่ซันทั้งสองข้าง แล้วมองด้วยสายตาอ้อน ๆ ไม่มีคำตอบใด ๆ กลับมา นอกจากหอมฟอดใหญ่ที่หัวไหล่เบา ๆ
“อ้อนแบบนี้ จะหนีไปไหนได้วะ อิจฉา”
พวกพี่เขากินอึดดีจัง อย่างพี่ซันก็หลายแก้วแล้วนะ เป็นสิบแล้วยังไม่มีอาการเมาเลย มีเพียงมือปลาหมึกที่แอบจับโน่นจับนี่เวลาไม่มีใครมอง ลูบขาบ้าง เอวบ้าง สะโพกบ้าง แต่จริง ๆ ทุกคนก็นัวเนียสาว ๆ อยู่แล้ว ไม่รู้เลยว่าพี่ส้มก็มีรสนิยมชอบผู้หญิง
“พวกมึงตามสบายละกัน พาเมียไปนอนดีกว่า กูเมาละ”
พอเข้ามาถึงห้อง ฉันก็นึกว่าจะมานอนแบบที่ผ่าน ๆ มา แต่กลับนัวเนียฉันอย่างหนัก
“ต้องให้รางวัล คนที่ทำตัวน่ารัก" พอพูดจบริมฝีปากก็เข้าประกบทันที
ฉันถูกอุ้มวางลงบนโต๊ะหนังสือ รุนแรงจัง มือของเขาลูบวนที่ต้นขา
“อ่าาาา พี่ซัน รุนแรงจัง”
“เหม็นกลิ่นเหล้าไหมคะ”
“ฉันชอบกลิ่นนี้” ริมฝีปากของเขางับเบา ๆ ที่ติ่งหู ไล่ลงมาถึงซอกคอ เขาร้อนแรงกว่าตอนไม่เมาอีก
ไม่ไหว เหมือนจะละลายเลย เขาถอดเสื้อตัวเองออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะพยายามถอดชุดของฉันออก แต่เพราะมันเป็นชุดที่ต้องรูดซิปด้านข้าง มันเลยไม่ง่ายนัก
“ยากนัก ตัดมันทิ้งเลยก็แล้วกัน”
“เดี๋ยวที่รักใจเย็น ๆ” ตัดทิ้งเลยหรอ ฉันถอดให้ก็ได้
“เย็นไม่ไหวแล้ว เมียน่ารักขนาดนี้”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!!
เสียงเคาะประตูที่ทำให้คนตรงหน้าฉันหัวเสีย จนหงุดหงิด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!!
“โอ้ยยยย จะเคาะทำห่าไรนักหนา”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!!
พี่ซันเดินออกไปเปิดประตูอย่างคนหัวร้อน
“มึงมีอะไร”
“กุญแจห้องอะ แม่บ้านบอกมึงเก็บไปหมดเลย”
“กูไม่ให้!!! กูไม่ได้เอา มึงก็ต้องไม่ได้เอา จบไหม แยกย้ายกลับบ้าน กูหงุดหงิด ไอ้เพื่อนเวร เคาะจนกูหมดอารมณ์เลย”