ไม่กี่วินาทีเธอก็ถูกเขาล๊อกตัวไว้ แล้วมอบจุมพิตอันดุดันให้ ไม่นานเขาก็ตรึงเธอไว้กับผนังหน้าห้องนอน สองมือกดสองมือบางเอาไว้ ใบหน้าอันหล่อเหลาคมคายก็ตรึงใบหน้าสวยใสเอาไว้ด้วยจุมพิตอันร้อนแรง
ดูดดื่มสองกลีบนุ่มอย่างคนหิวกระหาย จนเจ้าของกลีบเข้าใจว่าเขาหมายจะฆ่าเธอให้ตายด้วยรอยจูบ
แม้อยากจะต่อต้านเขายังไง แม้อยากจะผลักไสเขาไปยังไง แต่มัสยาก็ไม่อาจจะช่วยตัวเองได้ เพราะเรี่ยวแรงของเขานั้นมหาศาลเหลือเกิน
ร่างกายก็สูงใหญ่กดแนบจนแผ่นหลังแทบจะบี้แบนกับผนังแล้วด้วยซ้ำ สองขาก็พาลจะหมดเรี่ยวแรงจนแทบจะยืนไม่อยู่
ไม่รู้ว่าอ่อนไหวไปกับจุมพิตเขาได้ยังไง รู้แต่ว่ามันมีอานุภาพร้ายแรงเกินต้านทาน รสริมฝีปากของเขาก็ช่างหอมหวาน อบอุ่นเกินบรรยาย ยิ่งความรุนแรงลดน้อยลง คงเหลือแต่ความอ่อนหวานแล้ว
ยิ่งตรึงเธอให้แน่นิ่ง ปล่อยให้เขาทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา และเขาก็ไม่คิดจะรอช้า เมื่อเห็นอีกคนไม่ต่อต้านใดๆ แล้ว จึงรีบใช้มือถลกเสื้อยืดพอดีตัวออกไปทางศีรษะเธออย่างรวดเร็ว
บราเซียร์ลูกไม้ก็มีอันต้องร้างลาจากสองปทุมไป แล้วมีอุ้งมืออุ่นของเขาเข้าไปห่อหุ้มโอบอุ้มไว้แทน
“อือ!”
มัสยาให้ตกใจกับสัมผัสแรกในชีวิตสาว เมื่อเขาใช้ปลายนิ้วบีบบี้ไปตรงปลายยอดชูชัน สลับกับกอบกำเนื้ออวบอูมอย่างเมามันส์
จมูกโด่งก็ซุกไซ้ไปตามพวงแก้มหอมนุ่ม ไล้ลงมาหาลำคอหอมกรุ่นกลิ่นไอสาวด้วยความหลงใหล ก่อนอุ้งปากจะหยุดที่บัวงาม
“อื๊อ!”
เจ้าของบัวรู้สึกวาบไหวแทบขาดใจ เมื่อเขาทำแบบนั้น สองเข่าก็ทำท่าจะทรุดลงกับพื้นให้ได้ จนต้องยกของแขนขึ้นโอบกอดต้นคอเขาเอาไว้ ผ่ามือก็ลูบไล้ไปตามเรือนผมนุ่มที่ตัดสั้นอย่างเรียบร้อยของเขา
หญิงสาวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเท้าลอยจากพื้นตอนไหน
รู้แต่ว่าแผ่นหลังกำลังทาบไปบนเตียงนุ่มในห้องนอนของตัวเอง แล้ว มีเขาตามลงมาติดๆ โดยไม่คิดจะปล่อยให้ขาดช่วงเลยด้วยซ้ำ ความหอมหวานในรสจุมพิตของเขา
เรียกร้องให้หญิงสาวตอบสนองเท่าที่จะทำได้ แม้จะไม่ประสาเอาเสียเลย เธอหยัดกายให้เขาดึงกางเกงขาสั้นออกจากปลายเท้าได้สำเร็จ
“โอว์! แม่เสือยิ้มยากของฉัน สวยเหลือเกิน สวยไปทั้งตัว”
เขมินท์ท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ใบหน้าอันหล่อเหลายิ้มน้อยๆ ออกมา เมื่อสองดวงตากำลังสำรวจเรือนกายงามได้รูปราวแกะสลักเอาไว้ ผิวกายขาวผุดผ่องเป็นยองใย ส่วนเว้าโค้งน่ามองน่าจับจองไปแทบทุกที่
โดยเฉพาะตรงที่มีแพนตี้ลูกไม้ห่อหุ้มเอาไว้ เขารีบสลัดเสื้อผ้าออกจากกายภายในเวลาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ สายตาก็ยังคงจ้องอยู่กับจุดโหนกนูนอย่างคนหิวกระหาย ก่อนจะก้มลงไปดอมดมอย่างรักใคร่
สองมือค่อยๆ ดึงแพนตี้ลงไปหาปลายเท้า เพื่อให้เขาได้เชยชมกับสิ่งซุกซ่อนภายในได้ด้วยหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ชายหนุ่มจ้องมองเนินเนื้อนูน ที่กำลังท้าทายความเป็นชายเหลือจะทานทน
ไหมอ่อนนุ่มปกคลุมรอยแยกเอาไว้ เพียงแค่สำรวจด้วยสายตา เขาก็เห็นว่า มันทั้งแคบและปิดสนิทไม่มีริ้วรอยใดๆ เขาอยากจะเดาว่าหญิงสาวไม่เคยเปิดเผยส่วนนี้ให้ชายใดกล้ำกรายแทบแย่ แต่ก็ไม่กล้าหวัง
และด้วยความหิวกระหายใคร่อยากลิ้มลอง เขาไม่รอช้า รีบใช้สองมือเปิดทางให้ได้เชยชมกายสาว ก่อนจะก้มลงไปดอมดม ตามด้วยลิ้นอุ่นไล้เบาๆ แต่ทำเอากายสาวสะดุ้งเฮือกๆ จนเขาต้องผงกศีรษะขึ้นไปดู
ก่อนจะก้มลงไปมองจุดเดิม ใช้ลิ้นไซร้ซอนไปตรงเนื้ออวบอูม เขาชื่นชอบในความหอมและสะอาดสะอ้านของเธอไม่น้อย จึงทั้งจูบทั้งลูบทั้งไล้ไปเสียทุกซอกทุกมุม
เขาไม่เคยรู้สึกราวกับอยู่ในฝันอย่างนี้มาก่อนก็ว่าได้ สาวน้อยตรงหน้าช่างสวยสดงดงาม น่าประทับใจเกินบรรยาย จนตกอยู่ในภวังค์ รู้สึกเคลิ้ม ครึ่งหลับครึ่งตื่น
“แม่เสือยิ้มยากของฉัน เธอช่างสวยและน่ากินเหลือเกิน”
ปากก็รำพึงรำพันไม่หยุด มือก็ลูบไล้ไปตามเรียวน่องนวลเนียน ปากก็ดูดดื่มน้ำหอมหวานที่ไหลรินออกมา บ่งบอกให้รู้ว่าเธอพร้อมสำหรับเขาแล้ว
แต่เขายังคงไม่ยอมละริมฝีปากไปไหน ปลายนิ้วก็แหวกทางให้ได้ดูดดื่มปุ่มสีชมพูที่ซุกซ่อนอยู่ภายในได้อย่างถนัดถนี่ขึ้น
“อ่าส์!”
มัสยาเกลียดตัวเองอีกแล้ว ที่เผลอเปล่งเสียงนี้ออกมา แต่นั่นก็เพราะไม่อาจจะทานทนกับความสะท้านไหว ในสัมผัสอันช่ำชองของเขาได้
เธอทั้งรักทั้งเกลียดปลายลิ้นของเขา ที่ทำเอาต้องหอบหายใจแรงๆ ด้วยคลื่นแห่งความปรารถนาที่ซุกซ่อนในกายมานานปี ซึ่งเธอไม่รู้ว่ามีอยู่กระทั่งวินาทีนี้
“อย่าบอกผมนะสาวน้อย ว่าผมโชคดีที่ได้เห็นคุณเป็นคนแรก”
เขมินท์ท์ไม่ได้ต้องการคำตอบจากเธอด้วยซ้ำ เพราะไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขาจะได้รู้แล้ว และเมื่อเห็นว่าเธอพร้อมแล้ว เขาจึงค่อยๆ ประคองกายกำยำที่ผงาดตั้ง พร้อมจะสู้ศึก
เขาไม่วายจ้องมองโคกเนื้ออันโดดเด่น รอยผ่าปิดแนบสนิท เปิดให้สายธารใสไหลรินออกมาอาบไล้อยู่เท่านั้น ชายหนุ่มนำพาท่อนแข็งแรงสอดแทรกลงไปตรงรอยแยกที่ดูเหมือนจะคับแน่นในความรู้สึก
“อื๊อ!!!”
มัสยาเจ็บปวดแทบจะทันที เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมล้วงล้ำเข้าไป ใบหน้าสวยปิดเปลือกตาแน่นเอาไว้ สองมือก็จับเอวเขาไว้แน่น พอเขาใช้ความพยายามจะนำกายเข้าไปอีก ฃ
หญิงสาวต้องรีบใช้สองมือบางดันแผงอกกว้างของเขาเอาไว้ มันช่างเจ็บอย่างไม่เคยพานพบมาก่อนก็ว่าได้
“อื๊อ! เจ็บค่ะ!”
ปากก็ร้อง สีหน้าก็แสดงอาการเจ็บปวดยิ่ง เขมินท์ท์รู้ได้ในทันทีว่านี่คือครั้งแรกของเธอ แต่เขาก็ไม่อาจจะห้ามตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว หรือจะพูดให้ถูกก็คือ เขาไม่มีความคิดนี้อยู่ในหัวตั้งแต่ได้กุญแจบ้านจากน้องชายเธอ ตอนเขาเอาเงินไปให้ด้วยซ้ำ