พริมโรสรู้สึกหิวน้ำ จึงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย พยายามตั้งสติอยู่ชั่วครู่ โฟกัสไปรอบๆ ห้อง คิดอยู่ในใจว่าน่าจะเป็นบ้านของโฮสต์เลยคลายความระวังตัว ลุกขึ้นเดินจะไปเปิดประตู แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อสายตาไปปะทะกับร่างสูงที่นอนหลับสนิทเหยียดยาวอยู่บนโซฟา
หญิงสาวระงับความไม่พอใจเอาไว้ หลังจากได้คิดว่าคงเป็นการแสดงบทบาทให้สมจริงของเขาอีกแล้ว เพื่อให้ข้อมูลสอดคล้องกันตั้งแต่เริ่มแรก เธอมองเขาด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนที่จะเปิดประตูออกไปข้างนอก
“มิสนรากร สวัสดีตอนเช้าค่ะ” พริมโรสคิดในใจว่าผู้หญิงหน้าตาเป็นมิตรคนนี้คงจะเป็นภรรยาเจ้าของบ้าน จึงยิ้มตอบอย่างอบอุ่น
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ มิสซิสซัลมาใช่ไหมคะ?”
“ค่ะ ฉันชื่ออัลวานี ส่วนสามีฉันบาซิม” บาซิมซึ่งอยู่ไม่ไกล หันมายิ้มอย่างสุภาพ พริมโรสยิ้มตอบ แล้วผงกศีรษะนิดหนึ่ง
“เรียกฉันว่าพริมก็ได้ค่ะ เอ่อ..พอดีหิวน้ำ อยากจะหาน้ำดื่มสักแก้ว”
“อ๋อ ได้สิคะ น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นดีคะ?” อัลวานีกุลีกุจอหยิบแก้วใสทรงดอกทิวลิปมาวางตรงหน้าพร้อมจานรอง
“อะไรก็ได้ค่ะ”
“งั้นแนะนำให้เป็นชาดีกว่า ชาวเปเรซชอบดื่มชาค่ะ จะมีติดบ้านไว้เสมอ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณ”
อัลวานีเดินกระฉับกระเฉงไปที่กาต้มชาอลูมิเนียมแบบสองชั้น จัดแจงรินน้ำชาเข้มข้นจากกาชั้นบนก่อนประมาณครึ่งแก้ว แล้วตามด้วยน้ำต้มจากกาชั้นล่าง รินจนเกือบเต็มแก้ว จากนั้นก็คีบบาคลาวาออกมาจากกล่องสูญญากาศ ซึ่งเป็นขนมที่มีลักษณะคล้ายกับขนมพายหลายๆ ชั้น ในแต่ละชั้นจะสอดไส้ถั่วพิสตาชิโอ เนย และน้ำผึ้ง
หญิงสาวสูดกลิ่นหอมของชาพื้นเมืองจนเต็มปอด ก่อนที่จะยกขึ้นดื่ม สายตาก็มองตามอัลวานีเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกล่องไอศกรีมที่ทำมาจากน้ำนมแพะมาเปิด แล้วตักโปะลงบนบาคลาวาในจานตรงหน้าเธอ ซึ่งไอศกรีมน้ำนมแพะนี้ เป็นของโปรดของเธอตั้งแต่สมัยเรียนที่อิสราเอล นอกจากน้ำนมแพะที่เป็นส่วนผสมหลักแล้ว ยังมีน้ำตาลและผงจากหัวกล้วยไม้ป่าด้วย ทำให้มีรสชาติหวานมัน เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มละมุน
“ฉันทำเองลองชิมดูค่ะ แล้วคุณจะชอบ”
“ขอบคุณค่ะ”
พริมโรสตักคำแรกเข้าปากก็รู้สึกพอใจ เป็นขนมที่เข้ากันดีกับชารสเข้มสไตล์อาหรับ เพียงคำแรกก็สามารถสร้างความสุขในการบริโภคมื้อแรกของวันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เธอออกปากชมและอยู่คุยอีกเล็กน้อย จากนั้นก็ขอตัวขึ้นข้างบน
ขณะที่เปิดประตูเข้าไป ภาพของบุรุษร่างสูงที่อยู่ร่วมห้อง ในลักษณะที่ท่อนบนยังไม่ได้ใส่เสื้อก็ปะทะเข้าสายตาเต็มๆ เผยให้เห็นมัดกล้ามของเขาในระยะเผาขน หญิงสาวอ้าปากค้างแล้วรีบหันหลังให้ทันที
จากนั้นก็เอามือป้องหน้าข้างที่เขายืนอยู่ แล้วเดินหลีกไปยังกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่มุมห้อง รื้อค้นภายในอยู่ชั่วครู่ พอได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็เอามือป้องหน้าอีกครั้ง เดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ พร้อมๆ กับบ่นไปด้วย
“คนบ้า! ไม่รู้จักอายเสียบ้าง!”
ชายหนุ่มเดินไปปิดประตูห้อง แล้วหันมายกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ในขณะที่มือก็กลัดกระดุมเชิ้ตไปด้วย มองตามหลังร่างบางที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำจนประตูปิดลง เขาฟังไม่ออกว่าหญิงสาวพูดว่าอะไร แต่คงไม่ใช่คำชมแน่ๆ
…
พริมโรสอาบน้ำแต่งตัวในห้องน้ำเสร็จสรรพ ก็แง้มประตูเปิด ค่อยๆ ยื่นหน้าออกมามอง พอเห็นว่าอยู่คนเดียวก็ถอนใจโล่งอก เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำงานมาวางเรียงที่โต๊ะหน้าโซฟา วันนี้เธอจะเริ่มแกะรอยจากสนามบินก่อน
หญิงสาวจัดการเสียบอุปกรณ์ต่อพ่วงอย่างคล่องแคล่ว เปิดคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงไซส์เอสี่ และโปรเจคเตอร์โฟร์เคแบบพกพาที่มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ เธอจะใช้ผนังห้องแทนจอภาพจะได้เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
อิฟราอิมเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดในมือ บนนั้นมีแก้วชาสองแก้ว และจานขนมบาคลาวา เขาวางถาดลงบนโต๊ะ แล้วมายืนด้านหลังโซฟามองดูมือเรียวสวยพิมพ์รัวเร็วไปบนคีย์บอร์ดที่วางอยู่บนตัก คล้ายกำลังเขียนโค้ดอะไรสักอย่าง หลังกดเอ็นเตอร์โปรเจคเตอร์ก็ทำงาน ยิงภาพจากกล้องวงจรปิดของสนามบินในมุมต่างๆ ไปที่ผนังห้อง
แล้วเธอก็เปิดหน้าต่างคอมมานด์ไลน์ขึ้นมาใหม่ พิมพ์ใส่โค้ดรัวเร็วอีกครั้ง จึงปรากฎหน้าต่างป๊อบอัพของโปรแกรมควบคุมกล้องวงจรปิด หญิงสาววางคีย์บอร์ดบนโต๊ะ ใช้เมาส์เลือกหาวันและเวลาที่เกิดเหตุ และดาวน์โหลดไฟล์ลงเครื่องไว้ทั้งหมด
จากนั้นก็ปิดระบบของทางสนามบิน แล้วเปิดไฟล์จากตัวเครื่องขึ้นมาแทนเพื่อแสกนหาใบหน้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ชัดที่สุด ตัวโปรแกรมดึงกรอบหน้าขึ้นมาเรียงกันร่วมสิบกว่าภาพ แล้วปริ้นออกมาในเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กที่วางใกล้ๆ กับบรรดาอุปกรณ์ที่วางเกลื่อนกลาดบนโต๊ะ
อิฟราอิมเดินอ้อมโซฟาแล้วมานั่งลงข้างๆ
“ระบบสนามบินประเทศผมมันเจาะได้ง่ายขนาดนั้นเชียว?”
ชิ! ทำมาเป็นโยนหินถามทาง จะหลอกล่อให้เราแสดงความเบาปัญญาออกมางั้นสิ!
“ก็ไม่ง่ายหรอกค่ะ แต่ดูเหมือนว่าหน่วยข่าวกรองประเทศคุณจะเปิดช่องโหว่ไว้ให้ฉันได้เข้ามาสืบข่าวเองเสียมากกว่า”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจในความฉลาดของเธอ เพราะสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง หน่วยข่าวกรองเปเรซสามารถระบุตำแหน่งของพระชนนีได้ และออกติดตามแล้ว แต่คนของทางทีแลนด์เองไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นอยู่อย่างไร จึงต้องให้ติดตามกันเองน่าจะได้ผลเร็วกว่า
เขาหยิบกระดาษขึ้นมาพิจารณา
“ผมจะจัดการเอง”
“ขอแบบละเอียดเลยนะคะ บางทีเราอาจจะต้องตามดูทีละคน ตัวประกันอาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่พวกมันต้องการให้เรารู้เสมอไป ส่วนอันนี้เป็นสถานที่ที่พาสปอร์ตแสดงพิกัดออกมา ขอพิมพ์เขียวของอาคารพวกนี้ด้วยค่ะ” หญิงสาวหยิบกระดาษข้างตัวส่งให้
“พาสปอร์ตงั้นรึ? คุณแสกนเจอได้ยังไง?”
“เป็นความลับทางราชการไม่สามารถเปิดเผยได้ ใช้ในกรณีที่ภารกิจผิดพลาด เพื่อที่จะได้ติดตามค้นหาตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ที่สูญหาย”
“ได้ จะให้คนเร่งจัดการให้ แล้ววันนี้แพลนคุณมีอะไรบ้าง?”
“คงต้องหลังจากได้แบบแปลนสถานที่ที่พิกัดโชว์ไว้มาก่อน แล้วค่อยวางแผนอีกทีค่ะ แล้วพระชนนีล่ะคะ คุณได้ตำแหน่งมาหรือยัง?”
“ได้แล้ว สมาชิกราชวงศ์ทุกคนจะมีชิปประจำตัว ทำขึ้นเผื่อมีกรณีที่ไม่คาดฝันแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนอันนี้ของคุณ”
พริมโรสเงยหน้าขึ้นมองแหวนทองคำขาวล้อมเพชรเม็ดเล็กๆ รอบวงในมือเขา แล้วมองหน้า
“อะไรคะ?”
“แหวนคู่รัก! เราจำเป็นต้องใส่ไว้เพื่อความแนบเนียน แสดงตัวว่าเพิ่งจะหมั้นกันเองไม่นานนี้ แต่จริงๆ แล้วฝังชิปไว้สำหรับติดตาม”
“จำเป็นต้องใช้ของดีขนาดนี้เลย?”
“ประเทศผมรวย แค่นี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย” หญิงสาวมองเขาตาโตอย่างหมั่นไส้ แล้วย่นจมูก
อวดรวยใส่เราเสียอีก!!
พริมโรสยื่นมือจะไปหยิบแหวนในมือเขามาใส่เอง แต่เขาเบี่ยงหนี แล้วจับมือซ้ายของเธอขึ้นมาสวมแหวนให้ ทำให้เธอแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว
เขาเหลือบตาขึ้นมองเธอแว่บหนึ่ง ก่อนจะก้มลงหมายจะจุมพิตมือที่สวมแหวน พริมโรสเห็นประกายตาระยิบนั้นแล้วก็รู้ทันทีว่าเขาต้องการจะแกล้งให้เธออารมณ์ขึ้นจึงดึงมือออก แต่เขาคว้าข้อมือไว้ได้ทัน เธอพลิกหงายฝ่ามือขึ้น ทำให้มือของอีกฝ่ายอยู่ด้านล่าง จากนั้นก็ออกแรงดึงออกมา พร้อมๆ กับพุ่งหมัดอีกข้างไปที่หน้าเขาอย่างรวดเร็ว
เขาเอาท่อนแขนกันรับไว้ได้แล้วพลิกมือมาจับแขนไว้ หญิงสาวจึงใช้หมัดอีกข้างต่อยไปที่หน้าท้อง แต่เขาก็ยังเอามือบังไว้ได้ทันอีก เธอจึงโถมขึ้นทั้งตัวดันคางเขาจนหงายหลังไปที่เท้าแขนของโซฟา พลันประตูก็เปิดออก
พริมโรสและอิฟราอิมชะงักหันไปมองประตูทั้งคู่ ซึ่งผู้มาใหม่สองคนรวมถึงอัลวานีที่ยืนอยู่หน้าประตู ต่างก็มองเข้ามาอย่างตาค้างไปตามๆ กัน ภาพที่พวกเขาเห็นคือ ชายหนุ่มนอนหงายหลังอยู่ที่เท้าแขนโซฟา ในขณะที่หญิงสาวดันคางไว้ด้วยฝ่ามือข้างหนึ่ง ส่วนข้อมืออีกข้างถูกชายหนุ่มจับไว้แน่นกดไว้ที่พนักพิง เข่าของหญิงสาวอยู่ตรงกลางระหว่างขาของคนด้านล่าง ในลักษณะโถมเอนทั้งตัว คล้ายกำลังจะบังคับกระทำชำเราอีกฝ่ายยังไงยังงั้น
“พะ..พวกคุณกำลังทำอะไรกัน?” เสียงหนึ่งของผู้มาใหม่ทักขึ้นอย่างตกใจ
“ไม่ๆ!…ไม่ใช่อย่างที่พวกนายคิดนะ! คือ..เรากำลังต่อสู้กัน!” หญิงสาวแก้ตัวตะกุกตะกัก ทั้งๆ ที่ยังชะงักค้างอยู่ในท่าเดิม
“ถ้างั้น..พวกคุณสู้กันให้เสร็จก่อน เดี๋ยวพวกเราค่อยมาใหม่ก็ได้!” เขาพูดจบก็ปิดประตูให้อย่างเรียบร้อย
“ไม่ใช่นะ!..เดี๋ยวก่อน!” หญิงสาวตะโกนเรียก พอประตูปิดก็หันขวับมามองคนที่อยู่ใต้ร่างอย่างเอาเรื่อง ยิ่งสบประกายตาพราวระยับในดวงตานั้นแล้วก็ยิ่งโมโห จึงยกมือที่ดันคางขึ้นแล้วฟันสับไปที่คออย่างรวดเร็ว เขาปัดมือเธอออก แล้วเด้งตัวขึ้นพลิกกลับมากดเธอให้อยู่ใต้ล่างอีกฟากหนึ่งของโซฟาแทน
เธอดันอกเขาไว้ ดึงสองขาลอดระหว่างขาเขาขึ้นมาแล้วถีบแรงไปที่ท้อง เขาหงายหลังกระเด็นออกห่าง หญิงสาวรีบลุกจะถอยออกให้ห่างจากโซฟา จึงทำให้มือปัดไปโดนถาดที่มีทั้งแก้วชาและจานขนมลอยละลิ่วลงพื้นไปด้วย
โครม! เคร้ง! เพล้ง!
เสียงของตกแตกกระทบพื้นที่ดังมาจากห้องข้างบน มีผลให้คนที่นั่งล้อมวงกันอยู่ด้านล่างในห้องรับแขกมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก อัลวานีหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่บาซิมกลั้นขำอย่างเต็มที่
“ถ้าผมรู้ว่าเขาจะเสียวแซ่บขนาดนี้ คงทำใจกล้าจีบเขาไปนานแล้ว!”
“อ่าว ก็เคยเห็นแอบมองอยู่ ทำไมไม่กล้าจีบแต่แรก!” อีกคนถามขึ้นอย่างสงสัย
“นายก็รู้ว่าข่าวลือนั่นเป็นความจริง! มือเท้าหนักแบบนี้ เป็นใครก็กลัวหัวหดกันหมดแหละ! จำเด็กใหม่ที่เข้าไปนอนหยอดน้ำเกลือเมื่อเดือนที่แล้วได้หรือเปล่า ฉันได้ยินแล้วยังขนหัวลุกไม่หาย!” แล้วเขาก็ทำท่าขนลุกขึ้นมาจริงๆ
โครม! ปัง! ตึง!
“ตายจริง! แล้วจะเป็นไรกันไหมคะนั่น!” อัลวานีชักเริ่มเป็นห่วง เมื่อเสียงปึงปังในห้องยังดังไม่หยุด แต่บาซิมกลับหัวเราะออกมาด้วยความสนุก
“ช่างเถอะน่า! ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เจอม้าพยศแบบนี้ เจ้าทะเลทรายของเราจะเอาอยู่ไหม ฮ่าๆๆ”
“คุณก็! มันใช่เรื่องที่จะมานั่งหัวเราะแบบนี้ไหม ฉันก็เป็นห่วงคุณพริมเหมือนกันนะ!” อัลวานีรู้สึกกังวล อีกใจก็หงุดหงิดสามีที่เอาแต่นั่งขำ ไม่ช่วยกันคิดแก้ปัญหา
“ผมว่า..คุณเป็นห่วงคุณคนนั้นดีกว่าครับ จากประวัติของเหยื่อที่ผ่านๆ มา นอนโรงพยาบาลกันเป็นเดือนเลยครับกว่าจะกลับมาทำงานได้ปกติ!”
“ตายจริง! ฉันจะเป็นห่วงใครดีล่ะทีนี้!”
เพล้ง! ตึง! โครม! ปัง!
…………………….
ป๊อบอัพวินโดว์ - พื้นที่แสดงส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก โดยปกติจะเป็นหน้าต่างเล็กๆ ที่ใช้การเขียนสคริปต์หรือสำหรับโฆษณา
คอมมานด์ไลน์ (Command Line ) - คือส่วนประสานงานกับผู้ใช้ ในรูปแบบหน้าต่างสีดำที่รับโค้ดคำสั่งที่เป็นตัวอักษรไปให้คอมพิวเตอร์ทำงาน