เช้าวันใหม่ในขณะที่พระอาทิตย์เริ่มทำงานสาดส่องความสว่างและความร้อนของอากาศไปทั่วทุกมุมของบ้านหลังใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท
ชายหนุ่มที่นอนหลับฝันดีตลอดทั้งคืนก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองข้างกาย ก่อนจะแสดงสีหน้าประหลาดใจที่ไม่เห็นภรรยานอนอยู่บนเตียง จึงหันไปมองนาฬิกาปรากฏว่าเป็นเวลาเกือบเจ็ดโมงเช้า
อชิวาระรู้ในทันทีว่าเวลานี้ภรรยาต้องอยู่ในห้องลูกชายแน่ จึงไม่รอช้ารีบลุกจากเตียงแล้วเดินไปยังประตูห้อง ที่ทำเชื่อมกันระหว่างห้องของตนเองกับลูก จากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดอย่างแผ่วเบา
ภาพที่คุณพ่อลูกหนึ่งเห็นคือคุณแม่คุณลูกกำลังนอนกอดกันกลมภายใต้ผ้าห่มอันแสนอบอุ่น
“หนีมานอนกอดกันแบบนี้ได้ยังไง ไม่ยุติธรรมเลย”
เอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาหวิวพร้อมกับเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงฝั่งที่ภรรยานอนก่อนจะล้มตัวลงแล้วดึงเธอเข้ามากอด ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยทำอะไรอย่างนี้ แต่นึกครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมา อยากแกล้งมาริษาเสียอย่างนั้น
“พี่คริส” มาริษาสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจเมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนมากอดตนเองจากทางด้านหลัง
“อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวลูกตื่นหรอก” อชิวาระขู่เสียงเข้มพร้อมกับมองไปยังลูกชายที่ยังหลับอย่างแสนสุข หาได้สนใจเสียงรบกวนไม่
“กี่โมงแล้วคะ วันนี้พี่คริสไม่ไปทำงานเหรอ”
“วันนี้วันหยุด ใครเขาทำงานกัน เลิกถามมากได้แล้ว นอนต่อเถอะวันนี้ขอตื่นสายสักวัน”
“พี่คริสนอนกับลูกไปนะคะ เดี๋ยวริไปดูอาหารเช้าก่อน” เธอทำท่าจะลุกขึ้นมาแต่โดนสามีจับกดให้นอนตามเดิม
“ไม่ต้องหรอกน่า แม่บ้านจัดการได้ นอนเถอะ ถ้าไม่นอนฉันจะจับเธอทำอย่างอื่น” เขาขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาเริ่มแปลก ๆ เมื่อก้มลงไปมองหน้าอกตูมของเมียที่ไร้เสื้อชั้นใน
มาริษาจึงพยักหน้าหงึก ๆ ยินยอมอย่างว่าง่ายพร้อมกับหันไปกอดลูกแล้วหลับตาทันที กลัวโดนผัวหื่นจับกินตับตั้งแต่เช้า
“กลัวผัวจับกินขนาดนั้นเชียว ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงคืนนี้ก็โดน”
คุณพ่อลูกหนึ่งยิ้มร้ายในขณะลูบไล้ไปตามสัดส่วนเรือนร่างของภรรยาที่นอนตัวแข็งทื่อด้วยความเสียว ก่อนเอาเจ้าลูกชายตัวดีไปถู ๆ
ไถ ๆ ตรงก้นของเธอด้วยความชอบใจ
การได้แกล้งเมียคืองานถนัดของอชิวาระ จากนั้นไม่นานสองสามีภรรยาก็หลับอีกครั้งราวกับเป็นครอบครัวสุขสันต์ก็ไม่ปาน หากใครได้มาเห็นภาพนี้ต้องไม่เชื่อแน่ว่าชายหนุ่มไม่ได้รักหญิงสาว ตรงกันข้ามพวกเขาจะคิดว่ารักมากต่างหาก
เนื่องจากวันนี้คุณพ่อไม่ต้องไปทำงาน ทำให้อาหารเช้าของพวกเขาสายกว่าวันปกติเกือบชั่วโมง เด็กชาย อชิระ แอมเมอร์สัน หรือ น้องพบรัก ยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นของโปรดบนโต๊ะ ซึ่งวางอยู่ในจานยั่วน้ำลายเขาเหลือเกิน
หนูน้อยจึงไม่รอช้ารีบตักใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย สร้างความปลาบปลื้มให้มารดาเป็นอย่างมาก ที่ลูกน้อยของตนเองกินอิ่มนอนหลับ ไม่ค่อยงอแงแต่ซนตามประสาเด็กก็เท่านั้น
“อร่อยไหมครับพี่รัก” มารดาเอ่ยถามลูกชายด้วยรอยยิ้มสุขใจ ชีวิตเธอก็มีเพียงลูกเท่านั้นที่ทำให้ยิ้มได้
“อร่อยมากเลยคับมามี้” เด็กน้อยยิ้มแป้นตอบรับมารดาหลังจากเคี้ยวข้าวและกลืนลงคอเสร็จ ตามที่ถูกสอนมาอย่างดีว่าในขณะรับประทานอาหารห้ามพูด ต้องเคี้ยว ต้องกลืนให้เสร็จก่อนถึงจะพูดได้ ปากที่เลอะคราบอาหารสร้างความเอ็นดูแก่สองสามีภรรยาไม่น้อย ใบหน้าของทั้งคู่จึงเต็มไปด้วยความสุข
“อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะครับ หนูจะได้ร่างกายแข็งแรง”
“คับมามี้ นี่คับ พี่รักป้อนมามี้”
“ขอบคุณครับ อืม อร่อยจริง ๆ ด้วย”
“ป้อนแต่มามี้ ไม่เห็นป้อนปาป๊าบ้างเลย น้อยใจแล้วนะ”
“โอ๋ ๆ อย่าน้อยใจคับ นี่คับของปาป๊า อ้าม”
คุณพ่อสุดหล่อทำเป็นน้อยใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ที่ไม่ยอมป้อนตนเองบ้างหลังจากเห็นอชิระป้อนแต่ภรรยาคนเดียว เด็กน้อยจึงไม่รอช้าตักอาหารในจานป้อนบิดาด้วยคนพร้อม ๆ กับรอคอยคำตอบว่าอร่อยเหมือนที่ตนเองบอกไหม
“อร่อยมากเลยครับ”
“เย้ ๆ เห็นไหมพี่รักบอกแล้ว”
เด็กน้อยยิ้มแป้นด้วยความภาคภูมิใจ ที่บิดามารดาบอกว่าอาหารอร่อยเหมือนที่ตนเองบอก ทำให้บนโต๊ะรับประทานอาหารเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของสามคนพ่อแม่ลูก
แต่แล้วเสียงหัวเราะก็หยุดชะงักลงเมื่อมีคนมาเยี่ยมพวกเขา
ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะเขาคือ ครูซ อธิวราห์ แอมเมอร์สัน น้องชายฝาแฝดของคุณพ่อลูกหนึ่งนั่นเอง
พวกเขาเป็นแฝดเทียมทำให้หน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด บอกใครก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่านี่คือฝาแฝด คนหนึ่งหล่อแบบเข้ม คนหนึ่งหล่อแบบเกาหลี
“อาครูซสุดหล่อสาหวัดดีคับ” หลานชายยกมือขึ้นไหว้อย่างสวยงาม
“สวัสดีครับหลานพบรักสุดหล่อของอา” คุณอายิ้มรับด้วยความปลื้มใจที่หลานจำได้ว่าต้องเรียก 'คุณอาสุดหล่อ' อย่างที่ตนเองได้สอน
“มาบ้านพี่ทำไมตั้งแต่เช้า”
อชิวาระหรี่ตามองน้องชายพร้อมตั้งคำถาม
“ผมก็มาเยี่ยมหลานกับแม่ของหลานสิพี่คริส คิดว่าพี่ไม่อยู่บ้านน่ะเนี่ย” คุณอายังโสดตอบคำถามพี่ชายหลังจากเดินไปยีหัวหลานตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยวเสร็จ ก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามสามคนพ่อแม่ลูก
“วันหยุดพี่ก็ต้องอยู่บ้านสิ”
“ก็ปกติไม่เห็นจะอยู่เลยถามไง”
“อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลยค่ะ สองคนพี่น้อง ว่าแต่พี่ครูซกินอะไรมาหรือยัง”
“ยังเลยน้องริ พี่กะว่าจะมาฝากท้องที่บ้านนี้สักมื้อ”
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวพี่ครูซรอแป๊บนะคะ ริไปตักข้าวมาให้”
“ขะ” / “ไม่ต้อง ไอ้ครูซมันมีมือมีเท้า ให้มันไปตักเองสิ”
“แต่พี่ครูซเป็นแขกของเรานะคะ เสียมารยาทตายเลย รอแป๊บนะคะเดี๋ยวริมาค่ะ” ภรรยาไม่สนใจไม่ฟังคำสั่งบ้าบอคอแตกของสามี ลุกจากเก้าอี้เสร็จก็เดินฉับ ๆ ไปทางห้องครัวด้วยความกระตือรือร้นสร้างความไม่พอใจแก่อชิวาระไม่น้อยจึงแสดงสีหน้าบึ้งตึงออกมาอย่างไม่รู้ตัว