ตอนที่1 เมียที่ไม่รัก
เสียงรถยนต์ที่คุ้นหูขับเข้ามาจอดภายในบ้านที่เป็นเรือนหอหลังใหญ่ใจกลางเมือง 'เมษา' ดีใจจนออกนอกหน้าเพราะวันนี้จะได้พบเจอสามีที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมานานเป็นอาทิตย์ ฝ่าเท้าเรียวเล็กถึงกับรีบวิ่งออกมารับอย่างหน้าชื่นตาบาน
"พี่ซัน กลับมาแล้วเหรอคะ?"
รอยยิ้มหวานส่งทักทายผู้เป็นสามี เป็นเช่นนี้เสมอเมื่อได้พบเจอหน้ากัน แต่ดูเหมือนว่าอีกคนยังคงทำเมินเฉยใส่และไม่เคยจะสนใจกันเลยแม้แต่นิด เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นสีหน้าเบื่อโลกของสามีรูปหล่อที่แสดงออกให้ได้เห็น
"หิวข้าวหรือยังคะ เมษาทำอาหารที่พี่ชอบไว้รอด้วยนะ"
"ฉันกินมาจากข้างนอกแล้ว ขอบใจ"
น้ำเสียงดุดันที่ฟังดูไม่ลื่นหูเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานกันแล้ว ก็แน่ล่ะเพราะเขาไม่ได้เต็มใจที่จะรับผิดชอบกับเรื่องราวในค่ำคืนวันนั้นที่เกิดขึ้น แต่ที่ต้องตกลงปลงใจเพียงเพราะว่าขัดคนเป็นพ่อไม่ได้เลยสักอย่าง
"ทำงานเหนื่อยไหมคะวันนี้?"
"ทำงานมันก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้วไหม จะให้สบายเหมือนคนนั่งนอนเล่นอยู่กับบ้านได้หรือไง?"
เหมือนกับไม่ใช่คำตอบที่อยากจะได้ยิน สายตาคมที่จับจ้องมองมา เขากระแนะกระแหนคนเป็นเมียอย่างชัดเจนที่สุด หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบลงอย่างห้ามไม่ได้อีกครั้ง ไม่มีเลยสักครั้งที่ 'ตะวันฉาย' จะพูดจาดี ๆ ให้ชื่นอกชื่นใจบ้าง
"ขอโทษค่ะ เมษาไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่ซันหงุดหงิด ขอตัวก่อนนะคะ"
ร่างผอมเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรู้สึกไม่ดีอีกครั้ง อยากหนีไปอยู่ในที่ที่จะทำให้ตัวเองได้ผ่อนคลายอารมณ์ขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่
ห้องดูหนังที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษคือสถานที่ที่เมษามักจะชอบเข้าไปนั่งร้องไห้ปลดปล่อยอารมณ์อยู่ในนั้นตามลำพัง รู้ว่าเขาไม่เคยรัก แม้จะพยายามทำตัวดีเพื่อเอาชนะใจตะวันฉายให้ได้ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งพยายามทำให้มากเท่าไหร่ อีกคนก็ยังไม่เคยจะเห็นค่ากันเลยสักนิด
หนึ่งปีที่อยู่ร่วมบ้านกันมา ยังไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ตะวันฉายจะพูดจาหวานหูชวนให้เคลิ้มฝัน นอกจากเวลาที่เขาปรารถนาบางสิ่งจากร่างกายเพียงเท่านั้น ถึงจะได้ยินน้ำเสียงออดอ้อนชวนน่าฟัง
บางครั้งก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองมีค่ากับเขาเพียงแค่ความใคร่ที่อยากปลดปล่อยเท่านั้นหรือเปล่า แต่มันก็เป็นหน้าที่ของภรรยาที่ดี ถ้าสามีอยากได้ก็ต้องปรนเปรอให้จนพึงพอใจ เพราะถ้าไม่อยากให้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามีออกไปหากินอาหารจานด่วนนอกบ้าน ถึงจะเจ็บปวดฝืนทนมากแค่ไหนก็ต้องจำใจยอมรับให้ได้
เสียงร้องไห้และท่าทีของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ภายในห้องนั้น ถูกจับจ้องมองผ่านมือถือของคนที่เป็นสามี บางทีก็อยากสงสาร แต่ในเมื่ออีกคนใช้วิธีสกปรกกับเขาก่อน เขาก็ควรจะสงสารตัวเอง เพราะต้องผิดใจกับแฟนสาวรุ่นน้องที่คบหากันมานานถึงห้าปี แทนที่จะได้ลงเอยกับ 'แพทย์หญิงกรกนก' อย่างที่วาดฝันอนาคตที่มีร่วมกันเอาไว้ แต่เขากลับต้องมาแต่งงานเพื่อรับผิดชอบเพียงเพราะการกระทำที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นแค่ครั้งเดียว
แม้ใจอยากจะปล่อยให้อีกคนเดินออกจากชีวิตไป แต่ความผูกพันที่มีหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาก็ยังอยากมีเมษาอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน รับรู้ดีว่าอีกคนแอบรักและชอบพอตนมานานมากแค่ไหนแล้ว ถ้าหากไม่รักเมษาคงไม่ทนอยู่ด้วยนานมากขนาดนี้ได้
"ครับพ่อ"
เสียงทุ้มทักทายขึ้นตามสาย เมื่อเห็นบิดาโทรศัพท์เข้ามาอีกครั้ง จำต้องละสายตาจากคนตัวเล็ก และปล่อยให้อีกคนนั่งร้องไห้อยู่เงียบ ๆ คนเดียวแบบนั้นต่อ
"เรื่องที่ฉันสั่งให้แกจัดการ จะลงมือได้วันไหน?"
"ทำไมต้องทำแบบนั้น ในเมื่อผมไม่ได้อยากเอาหุ้นบริษัทของเมษาเขานะเลยนะพ่อ"
"ฉันสั่ง แกไม่อยากได้ แต่ว่าฉันอยากได้!"
"อยากได้พ่อก็หาทางทำเองสิครับ ทำไมต้องมาใช้ผมให้ไปทำเรื่องที่น่ารังเกียจแบบนั้นด้วย"
"แกเป็นผัวเมียกัน มันน่ารังเกียจตรงไหนไม่ทราบ ของเมียก็เหมือนของผัว แกรู้ไหมว่าหุ้นที่เมียแกมีอยู่ มันทำให้ฉันได้ขึ้นเป็นประธานแทนพ่อตาแกได้เลยนะ ไอ้กีรติมันจะได้เลิกข่มเหงฉันได้สักที!"
"แต่ผมไม่ได้อยากให้พ่อทำกับเขาแบบนั้นนะพ่อ มันไม่ดี พ่อกับเขาเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง เขาก็รักพ่อออกปานนั้น พ่ออย่าไปหักหลังพวกเขาเลยนะครับ"
"แกจะเลือกเมียหรือเลือกพ่อ?"
คำถามที่ทำให้ตะวันฉายหนักใจทุกครั้งที่บิดายื่นข้อเสนอแบบนี้ให้ก็เกิดขึ้นอีกหน
"ไม่เลือกใครทั้งนั้นแหละครับพ่อ ผมขออยู่ตรงกลาง ผมทำงานมาเหนื่อยมากเลย อย่าเอาเรื่องพวกนี้มาใส่หัวผมจะได้ไหม ขอร้องล่ะ"
"ถ้าทำงานเป็นหมอแล้วมันเหนื่อย ทำไมแกไม่ออกมาทำงานแทนเมียแกวะไอ้ซัน แกก็เห็นว่าครอบครัวเมียแกกิจการเขาเจริญรุ่งเรืองมาก กำไรปีปีหนึ่งกี่พันล้าน แกไปทำงานเป็นหมอเงินเดือนแค่หลักแสนนี่นะ มันจะพอกินอะไรวะ!"
"แต่มันก็เป็นงานที่ผมรักนะครับพ่อ ถึงจะเงินเดือนน้อยหรือไม่ได้สักบาทผมก็ยังจะทำอยู่แบบนั้น"
"ช่างเรื่องของแกเถอะ แต่ที่ฉันสั่งฉันขอให้แกทำด่วนที่สุด! แค่นี้ล่ะฉันหวังว่าแกจะทำเพื่อฉันได้นะซัน"
สายโทรศัพท์ถูกตัดลง ไม่รอให้ตะวันฉายได้ตอบรับหรือปฏิเสธได้เลยสักอย่าง เขาที่เป็นคนกลางย่อมหนักอกหนักใจกับเรื่องนี้มากที่สุด แม้จะไม่อยากทำเพื่อบิดา แต่ถ้าอยากให้เรื่องนี้มันจบโดยที่บิดาจะเลิกโทรมาหาเช้ากลางวันเย็นขนาดนี้ก็ควรจะต้องทำมันสินะ....