บ้านหลี่นั้นเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีลูกชายถึงสามคนด้วยกัน และมีลูกสาวคนโตหนึ่งคนซึ่งแต่งงานออกไปตั้งหลายปีแล้ว และตอนนี้กำลังมีหลานคนที่สองให้พวกเขา ส่วนพี่ชายคนโตนั้นเป็นนายทหารยศสูง ที่แต่งงานกับลูกสาวของนายทหารด้วยกัน พี่ชายคนรองของเขากำลังจะแต่งงานในช่วงสิ้นปีหน้า เนื่องจากทางบ้านฝ่ายหญิงได้สูญเสียคนในครอบครัวไปจึงต้องเลื่อนงานมงคลออกไปก่อน เพื่อเป็นการให้เกียรติครอบครัวฝ่ายหญิง
ส่วนหลี่ซื่อหมิงนั้นเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านหลี่ที่ค่อนข้างจะหัวรั้น ไม่ยินยอมทำตามที่แม่ของเขาต้องการสักเท่าไหร่ และยังครองตัวเป็นชายหนุ่มโสด ในวัย 23 ปี ที่ได้ย้ายมาประจำที่โรงพยาบาลในเมืองซานตงเมื่อครึ่งปีก่อน
“ อาหมิง แม่ให้พี่มาตามนายกลับบ้าน “ หลี่ซื่อหมิ่นพี่ชายคนรองเอ่ยบอกในขณะที่น้องชายยังนั่งเงียบไม่ได้สนใจในคำพูดของเขาสักเท่าไหร่
“ พี่รอง ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งนิสัยตรงไปตรงมา ผมอยากทำความรู้จักกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจผม “ เขาเอ่ยให้พี่ชายฟัง
ซึ่งหลี่ซื่อหมิ่นนั้นตกใจไม่น้อยที่จู่ๆน้องชายของเขาเอ่ยถึงผู้หญิงที่เขาสนใจขึ้นมา
“ หล่อนไม่สนใจนายงั้นหรือ มีด้วยหรือ ที่สาวๆจะไม่สนใจนาย “ เขาเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เพราะด้วยหน้าที่การงานและชื่อเสียงของพวกเขาแล้ว ย่อมไม่มีหญิงสาวคนใดที่จะปฏิเสธ
“ อืม “ เขาจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พี่ชายคนรองฟังด้วย
” ฉันว่า หล่อนแค่อยากเรียกร้องความสนใจมากกว่า “ เขาเอ่ยขึ้นมาพร้อมยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ความคิดดูหมิ่นหญิงสาวแวบขึ้นมาในหัว เขาไม่เชื่อที่น้องชายเอ่ยบอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจลูกชายบ้านหลี่คนเล็กที่เป็นแพทย์คนนี้ นอกเสียจากว่าหล่อนจะมีสามีแล้ว !
” เธอไม่น่าจะเป็นคนอย่างนั้น อีกอย่างเธอมีร้านค้าเป็นของตัวเองด้วย “ เมื่อได้ยินน้องชายบอกง่าเธอมีร้านค้าเป็นของตัวเอง ความคิดเมื่อครู่ก็เลือนหายไปทันที เขาชักอยากจะเจอเธอเสียแล้วสิ
“ แล้วนายจำร้านนั้นได้หรือเปล่า “
“ อืม “
ไม่คาดคิดว่าตอนนี้สองพี่น้องบ้านหลี่มาหยุดยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของร้านค้าที่ไป๋เฟิ่งจื่อเปิดแล้ว ทั้งสองจ้องมองดูเธอทำงานในร้านด้วยตนเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเรียงหรือแม้แต่การขาย เธอล้วนทำด้วยตนเองทั้งสิ้น
“ ผู้หญิงคนนั้นหรอ “
“ อืม เป็นเธอ “
“หน้าตาสวย แต่ไม่รู้ว่า … “ ภายใจจะดีด้วยหรือเปล่า เขาหมายถึงภายในจิตใจของหล่อน ที่ดูจากภายนอกก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจนี่น่า ไวกว่าความคิดก็คือสองขาของเขา เขาเดินเข้าไปในร้านอย่างไม่รู้ตัว หลี่ซื่อหมิ่นรู้สึกตัวก็ตอนที่ถูกน้องชายดึงแขนเอาไว้ แต่นั่นก็ตอนที่เขามาถึงร้านของเธอแล้ว
“ คุณนั่นเอง มาซื้อของหรือคะ เชิญเลือกดูด้านในได้เลยค่ะ “ เธอเอ่ยบอกเพราะคิดว่าเขาคงมาซื้อของในร้าน จึงไม่ได้สนใจที่จะถามไถ่หรือแม้แต่พูดคุยอะไรให้มากความ
มาถึงตอนนี้หลี่ซื่อหมิ่นจึงได้รู้ว่าหล่อนไม่ได้สนใจน้องชายของเขาจริงๆ
“ เอ่อ สวัสดีครับ ผมเป็นพี่ชายของเขา “
“ ค่ะ “ เธอเอ่ยตอบรับคำแต่ไม่ได้เงยหน้าไปมองหรือให้ความสนใจเขาอีก ยังคงจัดเรียงของในร้านอย่างเป็นระเบียบ
“ คุณไม่คิดที่จะสนใจเขาบ้างหรอครับ “
“ พี่รอง !”
“ แล้วทำไมฉันต้องสนใจเขาล่ะคะ คุณไม่เห็นหรอว่าฉันไม่ว่าง “ เธอเอ่ยถามเขาพร้อมทั้งจ้องมองเขาด้วยสายตาที่คมดุ ทำเอาหลี่ซื่อหมิ่นหน้าเสียไปเล็กน้อยกับสายตาที่จ้องมาของเธอ
“ ผมขอโทษแทนพี่ชายด้วยครับ หวังว่าคุณจะไม่ถือสา “ หลี่ซื่อหมิงเอ่ยขอโทษเธอก่อนจะพาพี่ชายออกจากร้านของเธอไปอย่างรวดเร็ว
“ เป็นบ้าอะไรกัน คนพวกนี้ ” ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยบ่นตามหลัง จากนั้นก็สนใจงานในมือของตนเองต่อไปจนถึงเวลาที่ปิดร้านเธอก็เพียงแค่ปิดประตูล็อคให้แน่นหนา เพราะคืนนี้เธอค้างคืนที่นี่ ไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้าน
หลังจากที่ได้เจอกับเขาพร้อมกับพี่ชายเมื่อวานนี้แล้ว เธอก็ได้เจอเขาทุกเช้าพร้อมกับโจ๊กผักที่เขาซื้อมาฝากตอนเช้า
“ ผมไปกินโจ๊กร้านนี้มาเห็นว่ารสชาติดีก็เลยซื้อมาฝากคุณ “ เธอรับโจ๊กจากเขามาแล้วกล่าวขอบคุณจากนั้นก็ทำความสะอาดร้านในช่วงเช้าก่อนที่จะเปิดขายตามปกติ
ซึ่งเขาจะซื้อโจ๊กมาฝากเธอในบางวัน และบางวันก็จะซื้อขนมในห้างมาฝาก ซึ่งเธออยากจะบอกกับเขาเหลือเกินว่า เธอมีขนมมากมายในมิติที่รสชาติดีและอร่อยกว่าที่เขาซื้อมาให้ตั้งเยอะ ! แต่ก็ไม่อยากให้เขาต้องเสียน้ำใจจึงไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
“ ขอบคุณค่ะ ส่วนในกล่องนี้เป็นอาหารกลางวัน ฉันทำเยอะเกินไปก็เลยแบ่งให้กินได้กินด้วย “ เธอเอ่ยบอกก่อนจะส่งกล่องข้าวกลางวันให้เขาไป
“ ขอบคุณครับผมจะกินให้หมด “ เขาเอ่ยบอกแล้วกลับไปทำงานของตนเอง ตอนเย็นก็แวะมานั่งเล่นพูดคุยกับเธอที่ร้านและอยู่รอจนเธอปิดร้านแล้วเขาจึงกลับไปพักผ่อน
ไป๋เฟิ่งจื่อกลับมาที่หมู่บ้านในตอนค่ำ เธอขี่รถสามล้อมาจอดในรั้วบ้านของตนเองได้ไม่นานนักก็มีเสียงดังตะโกนเรียกชื่อของเธอเอาไว้
“ ไป๋เฟิ่งจื่อรอก่อน รอฉันก่อน “ หญิงสาวในหมู่บ้านที่ไม่ค่อยคุ้นตานักเอ่ยเรียกชื่อของเธอทำให้ไป๋เฟิ่งจื่อต้องยืนรอ
“ มีอะไรกับฉันหรือคะ “
” ช่วยฉันหน่อย ได้โปรด แฮ่กๆๆ ช่วย ส่งแม่ของฉันไปโรงพยาบาลหน่อย ขอร้องล่ะ “ หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยท่าทีที่เหนื่อยหอบเพราะวิ่งออกมาจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไป๋ของเธอไปอีกฝั่งของหมู่บ้าน
“ ได้ รีบขึ้นมา แล้วบอกทางไปบ้านของเธอมาเร็วๆ “ เธอเอ่ยตอบแล้วขี่รถสามล้อออกไปยังบ้านของหญิงสาวที่มาขอความช่วยเหลือ