ตอนที่ 1 ชายแปลกหน้า (2)

1402 คำ
สองเท้าเหยียบย่ำไปบนพื้นทราย ลัดเลาะไปตามป่าสนที่เคยวิ่งเล่นบ่อยๆตอนเป็นเด็ก ลมทะเลพัดเข้ามาอ่อนๆพอได้สดชื่น มองเห็นท้องฟ้าอีกฟากกำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ายจะมีเมฆฝนตั้งเค้าตามที่สายป่านว่า หญิงสาวจึงรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ก้าวจากผืนทรายค่อยๆย่ำไปบนพื้นโคลนจนสองเท้าเปื้อนดินสีดำ เพียงไม่นานจึงมองเห็นโขดหินที่ยื่นออกไปจากฝั่งซึ่งเป็นที่ที่ตนเคยมาตกเบ็ดเล่นกับบิดาและสายป่านอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อมาถึงร่างเล็กจึงวางข้องคู่ใจไว้ข้างกายแล้วหยิบเหยื่อในกล่องมาเกี่ยวกับเบ็ดที่ทำขึ้นเอง จากนั้นจึงเหวี่ยงมันลงไปที่ทะเลเบื้องหน้าอย่างทะมัดทะแมง ห่างหายจากวงการไปนานแต่ก็ยังมั่นใจในฝีมือของตัวเอง เพราะแค่เพิ่งหย่อนเบ็ดลงไปปลาก็ติดกับอย่างง่ายดาย ผ่านไปหลายชั่วครู่ จนแน่ใจแล้วว่าได้ปลามาเยอะพอสมควร หญิงสาวจึงเก็บอุปกรณ์กลับใส่ในข้องตามเดิมเพื่อจะเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ทว่าสมาร์ทโฟนที่ถือติดมือมาด้วยกลับส่งเสียงดังขึ้นมาเสียก่อน ด้วยความกลัวว่าฝนจะตกสายน้ำจึงต้องหยิบมือถือขึ้นมากดรับสายไปด้วยแล้วจึงค่อยๆเดินย่ำไปบนโขดหินก้อนเล็กก้อนน้อยอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้พลาดตกลงไปในน้ำที่อยู่ทางฝั่งขวา (ฮัลโหล เงียบหายไปเลยนะแก) เสียงปลายสายดังมาพร้อมกับใบหน้าของเจ้าของเสียงที่ปรากฏอยู่บนจอ “ให้ฉันใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบบ้างไม่ได้รึไง” สายน้ำสวนกลับ ทศพล เพื่อนสนิทที่ภายนอกเป็นชายชาตรีแต่จิตใจกลับบอบบางเยี่ยงสตรีเพศ มิหนำซ้ำเจ้าตัวยังชอบให้เรียกตัวเองว่าแทยอง แทนที่จะเป็นทศพลตาความคลั่งไคล้ชื่นชอบส่วนตัวอีกต่างหาก (ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย นี่กำลังทำอะไรอยู่เหรอ) “มาตกเบ็ด หากับข้าว” เสียงใสตอบพลางหันเลนส์กล้องไปรอบๆตัวเพื่อนให้เพื่อนสาวชาวกรุงได้ชื่นชมธรรมชาติ (อิจฉาจริงจริ๊ง ได้กินปลาสดๆซะด้วย) ทศพลโอดครวญ “อิจฉาแล้วทำไมไม่มาล่ะ ชวนแล้วนี่” ร่างบางค้อนขวับพลางกระโดดจากหินก้องหนึ่งไปยังอีกก้อนด้วยความคล่องแคล่ว (ก็มัวแต่ทำเรื่องฝึกงานให้อยู่นี่ไง) “เดี๋ยวๆ ถามฉันก่อนเหอะว่าฉันอยากไปหรือเปล่า แกต่างหากที่บังคับขืนใจฉัน” (แหม ก็ถือซะว่าช่วยๆกันไง) ปลายสายอ้อนวอน “ก็ช่วยอยู่นี่ไง ถ้าไม่เห็นว่าแกช่วยฉันเรื่องเรียนนะ ฉันไม่ยอมไปหรอก” สายน้ำตอบไปตามความจริง เพราะเธอไม่ได้ชอบเรียนสายนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่ที่ต้องยอมเรียนเพราะเห็นแก่เจ้าของทุนการศึกษาที่อยากจะให้เรียนจบมาช่วยงานที่รีสอร์ทต่างหาก จากเด็กที่ไม่รู้ภาษาเลยก็พอจะจับพลัดจับผลูไปได้บ้างเพราะมีเพื่อนสนิทอย่างทศพลคอยช่วย เธอจึงต้องตามใจเออออไปตามที่ทศพลว่าเสียทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องสถานที่ฝึกงานในภาคเรียนสุดท้ายก่อนจบ (ฉันก็ช่วยแกมาตลอดอ่ะ นี่ก็จัดการเรื่องเอกสารพอเสร็จเนี่ยก็เลยจะโทรมาบอก) “ก็แล้วแต่แกเลยละกัน ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่” ร่างบางทิ้งตัวนั่งลงบนโขดหิน อาศัยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่เพื่อจะคุยธุระให้เสร็จสรรพ “แล้วเอกสารฉันล่ะ มีอะไรที่แกต้องการเพิ่มอีกไหม ฉันจะได้ขึ้นฝั่งส่งไปให้” (ตอนนี้ไม่มีอะไรขาดเหลือแล้วล่ะ รออีเมลตอบกลับมาจากโรงแรมที่ขอไปฝึกงาน ก็เป็นอันเสร็จสิ้น) “นี่ฉันคิดผิดหรือคิดถูกกันเนี่ย แกก็รู้ว่าภาษาฉันไม่ค่อยจะแข็งแรงอ่ะ” ร่างบางนวดขมับตัวเองเบาๆด้วยความกังวล เมื่อนึกถึงภาษาที่สามที่ตนเลือกเรียนซึ่งจะต้องนำมาใช้จริงๆในการฝึกงานครั้งนี้ด้วย (แหมแก..ไม่ต้องคล่องขนาดเป็นเจ้าของภาษาก็ได้ไหมล่ะ พูดภาษาอังกฤษเอาก็ได้) “ใช่สิ ก็แกชอบนี่” (ไม่ต้องมาทำบ่ายเบี่ยงเลย ยังไงแกก็ต้องไปกับฉัน รออีเมลยืนยันกลับมาฉันก็จะจองตั๋วเครื่องบินแล้วก็ที่พักแล้วเนี่ย) “อือ ได้เรื่องยังไงบอกฉันด้วยล่ะ ขอให้ไม่ผ่านที่เถอะ ฉันจะได้หาโรงแรมแถวนี้เอา” (นี่แก...) ตู๊ด ๆ ๆ ไม่ทันที่ปลายสายจะสวนกลับมาอีกชุดใหญ่ สายน้ำจึงรีบกดวางสายไปเสียก่อน จากนั้นจึงก้มลงเก็บมือถือเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วหันไปหยิบข้องขึ้นมาสะพายไว้ตามเดิมด้วยความรีบเร่งจึงไม่ทันได้ระวังมือสะบัดไปโดนกล่องใส่เหยื่อตกปลาที่วางอยู่บนข้องจนมันหล่นลงไปในทะเล สายน้ำถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะวางคันเบ็ดไว้บนหินก้อนเดิม แล้วจึงค่อยๆหย่อนเท้าลงไปในน้ำที่ลึกเพียงแค่น่อง แต่ด้วยพายุกำลังจะตั้งเค้าอีกไม่นานน้ำทะเลจึงค่อนข้างมีคลื่นสูงพัดพากล่องพลาสติกลอยน้ำไปอีกฟากหนึ่ง หญิงสาวจึงค่อยๆตะกายไปตามโขดหินอย่างทุลักทุเลเพื่อพยายามคว้ากล่องนั้นกลับคืนมา จนไม่รู้ตัวเลยว่าตนเดินมาไกลจากหินก้อนเดิมมาพอสมควร กระทั่งคว้ากล่องใบนั้นมาไว้ในมือได้จนสำเร็จ จึงหันกลับไปทางเดิมเพื่อจะเร่งกลับบ้าน ทว่าดวงตากลมโตกลับไปสะดุดเข้ากลับบางอย่างที่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่ตรงโขดหินซึ่งห่างออกไปไม่มากนัก ด้วยความอยากรู้หญิงสาวจึงค่อยๆขยับกายเข้าไปใกล้ช้าๆ แอบลอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆอย่างนึกกลัว บางอย่างที่เธอกำลังสงสัยดูคล้ายกับเป็นร่างคนกำลังคว่ำหน้าราบไปกับหินก้อนใหญ่ ส่วนปลายเท้ายังคงลอยเคว้งคว้างอยู่เหนือผิวน้ำ “ศะ...ศพหรือเปล่าอ่ะ” เสียงใสพึมพำออกมาแผ่วเบา เมื่อเลือกก้อนหินที่จับถนัดมือได้แล้วจึงจับมันไว้แน่นเพื่อพยุงร่างตัวเองให้ขึ้นจากน้ำ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหาร่างนั้นช้าๆ ทำใจดีสู้เสือทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าข้างๆกับร่างนั้น มองดูจากภายนอก การแต่งตัวดูภูมิฐาน เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากศีรษะซึ่งคาดว่าหัวน่าจะฟาดกับอะไรบางอย่าง รองเท้าก็คงจะถูกน้ำพักพาไปจนเหลือเพียงแค่ถุงเท้าเท่านั้น มองดูจากทางด้านหลังก็พอจะเดาออกว่าร่างนั้นเป็น...ผู้ชาย “คะ...คุณ...คุณ” สายน้ำมองหาท่อนไม้ขนาดใหญ่ข้างกาย แล้วหยิบมันขึ้นมาจิ้มไปที่สีข้างของร่างนั้น เมื่อเห็นว่าร่างนั้นยังนอนแน่นิ่ง หญิงสาวจึงใช้ไม้ท่อนเดียวกัน ดันร่างสูงนั้นให้พลิกตัวนอนหงายด้วยความทุลักทุเล เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม สายน้ำก็นิ่งเงียบชะงักงันไปชั่วขณะราวกับต้องมนตร์สะกด แม้จะมีเลือดสีแดงฉานไหลออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้าแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาดูดีมากเสียทีเดียว ทั้งคิ้วที่คมเข้มได้รูป จมูกที่โด่งเป็นสันช่างรับกับริมฝีปากบางรูปกระจับนั้นเสียจริง ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นใครที่มีเครื่องหน้าสมบูรณ์เพอร์เฟคขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆนอกจากในซีรี่ย์เกาหลีที่ทศพลชอบเปิดให้ดู แม้กระทั่งเตมินทร์ชายหนุ่มที่เธอแอบมีใจให้ เขาก็ยังสู้ชายหนุ่มเบื้องหน้านี้ไม่ได้ หรือฟ้าจะประทานเทพบุตรมาให้เธอถึงเกาะแห่งนี้กันนะ หญิงสาวส่ายหัวไล่ความคิดบ้าๆออก ก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปอังที่ปลายจมูกโด่งเป็นสันของร่างไร้สติ แต่แล้วก็ต้องรีบชักมือหนีเมื่อพบว่าร่างนั้น...ไม่ได้หายใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม