บทที่ 4 ความลับ
เอมอรตักข้าวใส่ปากคำแล้วคำเล่า เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับชายหนุ่มที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ฝั่งตรงข้าม
“อยากออกไปเที่ยวในตัวเมืองดูบ้างไหม?” เขาเบื่อที่จะต้องชวนเธอคุยก่อนเสมอ เมื่อไหร่เธอจะเลิกกลัวเขา และทำตัวเป็นกันเองเหมือนทำกับไอ้ชื่นไอ้เชยบ้าง
“ไม่ค่ะ อรรู้สึกปลอดภัยกว่าเมื่ออยู่แต่ที่บ้าน”
“ไปกับฉันเธอจะกลัวทำไม?”
“แต่คุณคงไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวคุณจันทรา” เธอเตือนความจำ เขาเคยพูดไว้แบบนั้นเมื่อเกือบสี่เดือนก่อน
“เธอยังกลัวพี่สะใภ้ฉันอยู่เหรอ เห็นเธออิ่มเอิบมีน้ำมีนวลนึกว่าเลิกกลัวไปแล้ว” ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันที่พูดแบบนั้นคือชมจากใจหรือต้องการประชดกันแน่
มันไม่เกี่ยวกันซะหน่อย เอมอรโต้แย้งอยู่ในใจและเลี่ยงการตอบโต้ด้วยการกิน
“พรุ่งนี้ตอนเช้าแต่งตัวไว้นะ” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนลุกออกไปจากโต๊ะอาหาร
เอมอรรีบลุกจากเก้าอี้ รีบเดินตามเขาให้ทันเพื่อดักหน้า แต่ขาเขายาวกว่าเธอมากนัก จึงตัดสินใจคว้าแขนเขาเอาไว้
“ไปไหนคะ? อรไม่ไปนะ”
สาธรมองลึกลงไปในดวงตาเปล่งประกายอ้อนวอนของเธอ ยิ่งทำให้เขามั่นใจในความคิดของตน สองเดือนมาแล้วที่เขาตรวจเช็คการซื้อของของเธอ พบว่าสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยสั่งซื้อเลยสักชิ้น มันสอดคล้องกับอาการที่ไอ้ชื่นไอ้เชยบอกเขาอย่างมาก
“จะพาเธอไปหาหมอไง” บอกตรงๆ สบตากับเธอ
“ไปหาหมอทำไมคะ อรไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย” คิ้วโก่งสวยขมวดมุ่น ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปหาหมอด้วย
“ไปฝากท้องไงล่ะ...”
เธอเบิกตากว้างมองเขาด้วยความตกใจ ก่อนจะทรุดฮวบลงไป แต่เขาก็ไวพอ รีบคว้าเธอไว้ทันควัน
“คุณธรทราบหรือคะ?” ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขารู้เรื่องนี้ เธอสบตากับเขา รอฟังคำตอบ
“คิดจะปิดฉันไปถึงเมื่อไหร่ ท้องเธอจะเล็กแบบนี้จนถึงวันคลอดหรือไง ทำไมไม่บอกกันตรงๆ” เขายังโอบกอดเธอไว้ ใบหน้าก้มต่ำลงไปหาเหมือนโดนสะกดจิต หยุดนิ่งอยู่ที่แก้มนุ่มหอมกรุ่นกลิ่นแป้งของเธอเนิ่นนาน
เอมอรเองก็อึ้งกับการกระทำที่จาบจ้วงแต่อ่อนโยนของเขาไม่น้อย เธอไม่ต่อต้านผลักไสและไม่เรียกร้องรุกเร้า นิ่งเงียบดูทีท่าของอีกฝ่ายอย่างมั่นคง ยังไงซะเธอต้องยึดที่นี่เป็นหลักของชีวิต ไม่ว่าเขาต้องการให้ทำอะไรเธอก็ต้องทำ เพื่อความปลอดภัยของลูกและตัวเอง
สาธรผละจมูกออกจากแก้มนุ่มอย่างเสียดาย เว้นระยะห่างระหว่างใบหน้าเพียงแค่ฝ่ามือแทรกกลาง
“ฉันไม่สนอดีตที่ผ่านมา..แต่สัญญาได้ไหมว่าต่อไปนี้เธอจะร่าเริงและยิ้มให้ฉัน ไว้ใจฉันเหมือนฉันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ” เขาเชื่อว่าเด็กในท้องของเธอคือหลานในไส้ของตัวเอง จึงเต็มใจที่จะรับผิดชอบอย่างไม่มีเงื่อนไข
หญิงสาวไม่พูด แต่เลือกที่จะกอดตอบอย่างแนบแน่นเป็นการยืนยัน ไม่ว่าเขาจะเจ้าชู้หรือเลวแค่ไหน ขอแค่เขาดูแลเธอและลูกอย่างดี เธอจะมอบความซื่อสัตย์ทั้งหมดให้เขาแต่เพียงผู้เดียว
“พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรส และพาไปฝากท้องที่โรงพยาบาล บอกกับหมอว่านายสาธร สกุลจตุรงค์เป็นพ่อของเด็กนะ”
“...ขอบคุณค่ะคุณธร ฮึกๆ” เธอพยายามกลั้นก้อนสะอื้น ไม่ยอมร้องไห้เด็ดขาด
สาธรดันร่างอวบอิ่มออกจากอ้อมกอดช้าๆ เขารู้สึกว่าร่างกายของเธอมีการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว ยกมือเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขา กระตุกยิ้มบางๆ ที่มุมปากเมื่อเห็นรอยยิ้มและแววตามีความสุขของเธอเป็นครั้งแรก
“ฉัน..ขอจูบเธอได้ไหม?” อยากจะบ้ากับตัวเองที่ใช้ผู้หญิงเปลืองยิ่งกว่าเสื้อผ้า แต่กลับประหม่ากับหญิงสาวหน้าหวานแสนซื่อคนนี้
หญิงสาวคลี่ยิ้ม ยกมือโน้มต้นคอเขาลงมาแล้วหลับตาพริ้ม ฉันจะตอบแทนคุณด้วยความซื่อสัตย์และจงรักภักดี เรียวปากอวบอิ่มเผยอขึ้น เมื่อถูกริมฝีปากได้รูปของเขาประทับลงมา
วงแขนแข็งแรงของสาธร ตวัดเอาเรือนร่างอวบอิ่มของเอมอรขึ้นมาอุ้มไว้ ก้มลงไปจูบริมฝีปากที่อมยิ้มน้อยๆ ของเธออย่างอดใจไม่อยู่ แถมท้ายด้วยการดอมดมเอาความหอมที่แก้มนวลนั้นอีกหนึ่งที แล้วจึงอุ้มเธอเดินขึ้นไปยังชั้นบน ตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของตน...
“ลูก” เอมอรดันอกของชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อเขาวางเธอลงบนเตียง แล้วทาบร่างใหญ่ตามลงมา
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะระวังอย่างดี” พูดจบก็แนบร่างลงไปให้สนิทกับเธอ แต่ก็ใช้ศอกพยุงไว้เพื่อไว้ให้น้ำหนักทั้งหมดอยู่บนตัวหญิงสาว มอบจูบดูดดื่ม เลียไล้เรียวปากหวานละมุนอย่างหลงใหล แล้วจึงล้วงลึกเข้าไปในช่องปาก ทักทายกับปลายลิ้นของเธอ
สาธรค่อยๆ ผละกายออกจากเรือนร่างของเอมอรอย่างอ้อยอิ่ง ยันแขนกับเตียงนอนแล้วมองลึกลงไปในดวงตากลมโตคู่นั้น
“ฉันไม่ได้ฝืนความรู้สึกของเธอใช่ไหม”
เอมอรมองตอบสายตาดุดันคู่นั้น ไม่มีคำตอบจากปากแต่เป็นมือของเธอที่ยกสูงขึ้นไปที่อกของเขา แกะกระดุมทีละเม็ดๆ จนหมด แล้วสอดแขนไปในเสื้อโอบกอดเนื้อแท้รอบลำตัวนั้นไว้
การกระทำของเธอคือคำตอบอันแสนวิเศษสุด สาธรจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเอง ตามด้วยของเธอ จนเหลือเพียงเนื้อแท้ซึ่งกันและกัน เขามองอกอวบที่ตั้งเด่นเป็นสง่าล่อตาล่อใจคู่นั้น ก้มลงไปหามันแล้วใช้ปลายลิ้นทักทายที่ยอดถัน ดูดดื่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนพอใจจึงละออก เอื้อมมือต่ำลงไปเพื่อสำรวจความพร้อมของเธอ หยอกเย้ากับสิ่งนั้นจนมั่นใจว่าพร้อมเต็มที่แล้ว จึงนำความเป็นตัวตนที่แท้จริงชำแรกแทรกลงไปในเรือนกายของเธอ
เอมอรขบริมฝีปากเข้าหากันแน่น เมื่อถูกความยิ่งใหญ่ของบางอย่างรุกล้ำดินแดนของตน แต่มันก็เป็นความต้องการที่ยากจะปฏิเสธ ยิ่งเมื่อเขาเริ่มขยับจังหวะขึ้นลง มันก็ยิ่งซาบซ่านปั่นป่วนไปทั่วเรือนร่าง สิ่งที่ทำได้ตอนนี้จึงเป็นการโอบกอดเขาไว้แน่น พร้อมกับปล่อยเสียงครวญครางให้หลุดออกมาเพียงเบาๆ
ความรักอันแสนอบอุ่นที่สาธรมอบให้อย่างนุ่มนวล ทำให้เธอพาลพบกับความสุขครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่เขาจะพาตัวเองทะยานไปพร้อมกับเธอเป็นครั้งสุดท้ายของบทรักในครั้งนี้...