สงสัย

1266 คำ
เชยและชื่นยืนตัวตรงประสานมือกันไว้ที่ด้านหน้า รอนายใหญ่อยู่ในห้องทำงานด้วยใจที่จดจ่อ “นายเรียกมึงกับกูทำไมวะไอ้เชย?” มีเรื่องสำคัญอะไรหนักหนาหรือเปล่า นายถึงเรียกให้พวกเขามาหากลางดึกแบบนี้ ชื่นสงสัย “คงเรียกมาถามเรื่องที่มึงแอบรักน้องอรกระมัง” เชยทำหน้าตายียวนพร้อมแสยะยิ้มกวนบาทาใส่เพื่อน “ไอ้เชย! ไอ้นะ..นาย” คำด่าไม่ทันหลุดปากออกไปก็ต้องกลืนลงท้องไปก่อน เพราะเจ้านายของพวกเขามายืนอยู่ใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สาธรเดินเลยไปนั่งที่เก้าอี้หนังตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงาน คำพูดที่สองคนคุยกันเขาได้ยินเต็มสองหูเพราะเปิดประตูเข้ามาพอดี เสียดายก็ที่พวกมันดันเห็นเขาซะก่อนไม่งั้นคงได้ยินอะไรมากกว่านี้ “นายมีงานด่วนหรือครับ ถึงเรียกหาพวกเรากลางดึกแบบนี้?” เชยถามเจ้านาย “ไม่ด่วนแต่กูอยากรู้ มึงสองคนจะช่วยกูได้ไหม?” “ได้ครับ” ทั้งสองรับคำพร้อมเพรียง รอฟังคำสั่งอย่างตั้งใจ “กูอยากรู้เรื่องของเอมอร พวกมึงอยู่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุดน่าจะรู้ดี” “เรื่องอะไรครับนาย” อย่าบอกนะว่าเรื่องที่เขาแอบชอบเธอ ชื่นคิด “ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ เธอเคยออกไปข้างนอกบ้างหรือเปล่า?” “ตอนที่ผมอยู่ผมไม่เคยเห็นเธอไปไหนนะครับนาย มึงล่ะไอ้ชื่นเคยเห็นน้องอรเค้าออกไปไหนหรือเปล่า?” เชยถามเพราะบางครั้งเขาก็ออกไปทำธุระให้เจ้านาย มีแต่ชื่นที่อยู่กับเธอ “..ไม่นะครับ ผมไม่เคยเห็นน้องอรเค้าออกไปไหนเหมือนกันครับนาย” ชื่นคิดก่อนตอบ          “แสดงว่าของใช้ส่วนตัวทุกอย่างที่เธอต้องการ ก็เป็นหน้าที่ของพวกเอ็งงั้นรึ?”          “ใช่ครับนาย น้องอรคนสวยเค้าจะจดใส่กระดาษให้พวกผมช่วยซื้อให้ ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าอะไรบ้างแค่เอากระดาษไปยื่นให้ร้านค้า จ่ายเงินแล้วก็หิ้วของกลับมาเท่านั้นแหละครับ” เชยเป็นชายหนุ่มขี้เล่น คำเรียกคำจาจึงหวานหู ทำให้คนฟังรู้สึกหมั่นไส้อย่างแรง          ปัง!          เสียงตบโต๊ะดังลั่นจนลูกน้องทั้งสองสะดุ้ง          “ต่อไปนี้พวกมึงต้องเรียกเธอว่าคุณอรเข้าใจไหม! เพราะเขาไม่ใช่คนใช้หรือลูกน้องกูเหมือนพวกมึง!”          “ครับนาย” ทั้งสองรับคำและสงสัยเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องโมโหด้วย แล้วถ้าเธอไม่ใช่ลูกน้องแล้วเธอเป็นใครล่ะ อยู่ที่นี่ในฐานะอะไร          “แล้วเรื่องที่คิดๆ กันไว้ก็หยุดแค่นี้นะ อย่าให้รู้ว่าใครกล้าขัดคำสั่ง กูจะยิงทิ้งแม่งเลย” พวกมันคงเข้าใจนะว่าเขาหมายถึงเรื่องความมักมากอยากได้ของพวกมัน          “พวกเราไม่กล้าหรอกครับนาย สุขภาพเธอไม่ค่อยดีเราไม่กล้าทำอะไรหรอกครับ แค่เธอหุงหาอาหารให้เรากินก็เพียงพอแล้ว ผมเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวจริงๆ ครับนาย” ชื่นรีบเก็บความรู้สึกที่เริ่มกรุ่นๆ ขึ้นมาในช่วงหลังๆ เข้าสู่ก้นบึ้งของหัวใจ แล้วโบกปูนทับอย่างแน่นหนาทันที          “จริงครับนาย ถึงแม้พวกผมจะเป็นประเภทคลำไม่มีหางแล้วเอาไม่เลือก แต่ผมก็รู้จักแยกแยะนะครับ” เชยรีบเสริม ถ้าเธอไม่มีความสำคัญพอคงไม่มีสิทธิ์อยู่ที่บ้านหลังนี้ ยิ่งกว่านั้นเธอได้พักที่ตึกใหญ่ของเจ้านายด้วย ไม่ใช่เรือนเล็กเหมือนพวกเขา          “ดี ไอ้เชยมึงบอกว่าคุณอรเค้าสุขภาพไม่ดีเหรอ อาการเธอเป็นยังไงบอกมาให้ละเอียดซิ” สาธรเริ่มจับเรื่องที่สงสัยปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน เมื่อลูกน้องคนสนิทเกริ่นขึ้นมา          “บางวันก็เป็นลม บางวันก็อาเจียนครับนาย พอถามเธอก็บอกว่าทำงานหนักไม่ค่อยไหวเพราะร่างกายอ่อนแอ ถ้าเหนื่อยมากจะเป็นลมหรือบางทีก็อาเจียนออกมาเลยครับนาย ร่างกายเธอคงอ่อนแอจริงๆ นะครับนาย บางทีแค่ทำกับข้าวเธอก็จะเป็นลมแล้ว ผมถึงไม่อยากให้เธอทำงานหนัก”          “งานหนักอะไร?”          “เรื่องซักผ้า รีดผ้าครับนาย วันก่อนเธอยืนตากผ้าอยู่ดีๆ ก็เป็นลม ดีนะที่ผมอยู่ด้วยจึงรับไว้ทัน”          เพล้ง!          แก้วเหล้าที่ถือติดมือเข้ามาด้วยตอนแรกกระแทกกับผนังจนแตกละเอียด          ปัง! สองมือตบโต๊ะ ยืนประจันหน้ากับลูกน้องโดยมีโต๊ะทำงานคั่นกลาง          “เรื่องเสื้อผ้าเป็นหน้าที่ใคร?!”          “ส่งให้พี่นีซักครับ” เชยตอบเสียงดังฟังชัด พี่นีคือเมียของเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานรับใช้เจ้านายเหมือนกัน เธอรับจ้างซักรีดเสื้อผ้าอยู่ในตลาดตัวเมือง ส่วนใหญ่พวกหนุ่มโสดที่ทำงานให้เจ้านายมักจะผูกขาดเรื่องซักรีดกับเธอทั้งนั้น          “แล้วทำไม?..” เขาเว้นไว้ให้พวกมันเข้าใจเอาเอง          “เธอบอกว่าไม่ต้องส่งเพราะอยากทำให้นายครับ” เชยรีบตอบเอาใจ แต่ไม่ได้เพี้ยนจากความจริงเท่าไหร่นัก เธอเคยบอกเขาว่าเสื้อผ้าแค่วันละชุดสองชุดเธอซักได้ ทำไมต้องจ้างให้เปลืองเงิน เก็บเงินไว้ซื้อกับข้าวดีกว่า สรุปสั้นๆ ก็เข้าใจตามนั้น          เธอบอกว่าอยากทำให้เขาเหรอ ทำไมรู้สึกตื้อๆ ที่หัวใจแบบนี้นะ เขารีบสลัดความคิดในหัวทิ้ง “กฎของบ้านหลังนี้มีอะไรบ้างบอกมาซิไอ้เชย”          “เสื้อผ้าส่งให้พี่นีอาทิตย์ละครั้ง งานบ้านประจำวันทั่วไปผมกับไอ้ชื่นช่วยกันทำ พี่ไก่ พี่ดา พี่จุ๋มมาทำความสะอาดครั้งใหญ่ให้อาทิตย์ละครั้งครับ” สามคนที่เอ่ยถึงก็เป็นเมียๆ ของเพื่อนร่วมงานเหมือนกัน          เมื่อเพื่อนไล่หน้าที่ของมันให้นายฟังแล้ว ไอ้ชื่นไม่ต้องรอให้นายถามรีบอ้าปากรายงานต่ออย่างรู้หน้าที่          “ผูกปิ่นโตอาหารเย็นกับป้าน้อยข้างบ้าน แต่อันนี้นายอนุญาตให้เลิกแล้วนะครับ สวนหย่อมต้นไม้ในบ้านผมกับไอ้เชยรับผิดชอบ ถ้ามีแขกมาที่บ้านให้ผมติดต่อกับพี่ชาส่งผู้หญิงและอาหารมาต้อนรับครับ” พี่ชาก็คือหนึ่งในลูกน้องที่มีหน้าที่ดูแลคาเฟ่ให้เจ้านาย          “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้พวกมึงทำตามกฎเดิมอย่างเคร่งครัด ยกเว้นเรื่องกับข้าวอย่างเดียว” ถึงแม้ป้าน้อยจะทำกับข้าวอร่อยแต่เขาชอบกินฝีมือเธอมากกว่า “อีกเรื่องที่พวกมึงต้องมารายงานกู เอาบิลที่เธอฝากซื้อของมาให้กูดูทุกครั้ง”          “แล้วถ้าเธอถามหาบิลล่ะครับนาย?” ชื่นทำหน้าเครียด เอมอรรอบคอบจะตายซื้อของแต่ละครั้งต้องมีขอบิลตลอดเพื่อลงบัญชีค่าใช้จ่าย ฉาด!          เชยอดไม่ไหวกับความโง่ของเพื่อนจึงตบศีรษะมันไปหนึ่งทีแรงๆ          “มึงก็ให้แม่ค้าเขาก๊อปปี้ให้สิเวลาที่ซื้อของน่ะ หรือถ้ามึงขยันนักก็ลอกไว้เองก็ได้ไอ้โง่” ด่าเพื่อนแล้วรีบมองหน้าเจ้านายคลี่ยิ้มเอาใจ “ผมจะทำตามที่นายสั่งอย่างเคร่งครัดเลยครับ”          สาธรทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หนัง “พวกมึงต้องดูแลคุณอรเขาดีๆ กลับไปพักได้แล้ว”          “ครับนาย” ทั้งสองตอบรับก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของนาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม