บทที่ 6 แขกไม่ได้รับเชิญ
หนึ่งปีผ่านไป
จันทราเก็บความสงสัยที่ทนมาเป็นปีไม่ไหวแล้ว เธอตัดสินใจเรียกหาคนสนิท เขาคือคนสนิทของบิดาและเป็นคนดูแลติดตามเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงไว้เนื้อเชื่อใจมากเป็นพิเศษ เมื่อต้องจัดการกับขยะของสามีก็มีแต่เขานี่แหละที่เธอไว้ใจ
“คุณหนูครับ”
“ว่าไงดำ”
“ทำไมคราวนี้ไปไกลล่ะครับ”
“ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน ถึงต้องตามไปดูให้เห็นกับตา มีธุระอะไรมากนักถึงไปหากันถี่แบบนี้ ถามทีไรก็บอกว่าไปหาสาธรๆ พอถามหนักๆ เข้าก็กลายเป็นมีปากเสียง ทำหน้าเครียดใส่จนลูกๆ เข้าหน้าไม่ติด”
พอนึกถึงลูกๆ เธอเองก็อยากมีลูกชายไว้สืบสกุลสักคน เธอรู้ว่าเขาคาดหวังกับเรื่องนี้มาก แต่เรื่องแบบนี้กำหนดเองไม่ได้ ที่มีอยู่ตอนนี้สี่คนจึงเป็นลูกสาวทั้งหมด
“หวังว่าเขาคงไม่ได้ไปติดพันใครอยู่ที่โน่น”
ดำเหลือบมองคุณหนูผ่านกระจกมองหลัง เห็นใบหน้าเคร่งเครียดของเธอก็รู้สึกเห็นใจ...
จันทรามาถึงบ้านของน้องชายสามีในช่วงกลางดึก เธอไม่ได้รักษามารยาทที่แขกควรจะมี สั่งให้คนของตนลงไปกดกริ่ง
“ไปเรียกสิ บอกว่าฉันมาขอพบคุณสาธร”
“จะดีหรือครับคุณหนู” ดำอยากแนะนำให้หญิงสาวหาที่พักในตัวเมืองซะก่อน ช่วงเช้าค่อยเดินทางมาใหม่ดีกว่า เพราะดูจากภายนอกตอนนี้ เจ้าของบ้านน่าจะอยู่ในช่วงกำลังหลับฝันหวาน
“ฉันสั่งให้ทำก็ทำสิ!”
“ครับคุณหนู” ดำเปิดประตูลงไป เดินยังไม่ถึงรั้วบ้านก็มีชายหนุ่มสองคนเปิดประตูออกมาชักหน้าเหี้ยมใส่
“มาหาใคร?”
“มาหาคุณสาธร ให้เรียนท่านว่าคุณจันทราภรรยาคุณสาธิตมาขอพบ”
“วันนี้นายท่านไม่อยู่หรอก พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่เถอะ” ลูกสมุนคนหนึ่งตอบตามคำสั่งที่นายเคยบอกไว้ ตั้งแต่คุณนายคลอดลูกท่านไม่เคยรับรองแขกที่บ้านนี้เลย เปลี่ยนไปรับรองที่คาเฟ่แทนทั้งหมด
“เขาไปไหน?” จันทราเปิดกระจก ชะโงกหน้าออกไปถาม
“ไม่ทราบครับ”
“ทำงานประสาอะไร เจ้านายไปไหนก็ไม่รู้”
“ผมเป็นแค่ลูกน้องครับ ถ้านายท่านไม่บอกผมไม่กล้าถามหรอกครับ”
จันทราขบฟันแน่นด้วยความโมโหเมื่อเจอตอกกลับมา “ฉันจะเข้าไปพักที่บ้านนี้ เปิดประตูให้ที”
“ที่นี่ไม่รับรองแขกครับ ถ้าคุณนายอยากพักเชิญไปพักที่คาเฟ่ดีกว่า” นายของเขาเพิ่งปรับปรุงคาเฟ่ใหม่ สร้างห้องพักเพิ่มอีกอีกหลายสิบห้องเพื่อรับรองแขกที่มาเที่ยว รวมถึงแขกที่สัญจรไปมา
“ดำขึ้นรถ” จันทราโมโหลูกน้องของสาธรมากแต่ทำอะไรไม่ได้ “แล้วคุณสาธิตล่ะท่านพักที่ไหน” นางเกือบลืมถามถึงสามีแล้วเชียว
“ผมยังไม่เห็นท่านมาที่นี่เลยครับ”
ดวงตาดำขลับไหววูบท่ามกลางความสลัว “พวกแกรู้จักคุณสาธิตใช่ไหม?” ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“รู้จักสิครับ ท่านมาที่นี่บ่อยๆ เมื่อประมาณสิบวันก่อนท่านก็มา” สมุนที่ทำหน้าที่ยามมองหน้ากัน สงสัยว่าผัวเมียคู่นี้กำลังเล่นอะไรกันอยู่
“แกว่าเขามาที่นี่บ่อยงั้นเหรอ”
“ครับ”
“มาทำไมพวกแกรู้ไหม”
“มาหาคุณสาธรครับ”
“ฉันรู้แล้วว่ามาหาเจ้านายของพวกแก แต่ฉันอยากรู้ว่าเรื่องอะไร” จันทราตะคอกใส่อย่างเหลืออด เธออยากรู้เหตุผลลึกๆ ไม่ใช่คำตอบโง่ๆ ตื้นๆ แบบนี้
“ถ้าคุณนายอยากทราบ ทำไมไม่ถามจากคุณสาธิตหรือคุณสาธรเอาเองล่ะครับ” หนึ่งในสองคนตอบแบบนอบน้อม แต่แฝงไว้ด้วยคำพูดประชดประชัน
“ดำออกรถ” จันทราบอกกับคนสนิทด้วยอารมณ์ขุ่นมัว สงสัยหนักยิ่งขึ้นที่รู้ว่าเขาไม่ได้โกหกเรื่องมาหาสาธร แต่เขามาทำไมบ่อยๆ พรุ่งนี้เธอต้องรู้คำตอบให้ได้...
“ไม่ไปทำงานหรือคะ” เอมอรส่งยิ้มให้สามีเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนอนของลูกน้อย ปกติเวลานี้เขาต้องแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว แต่นี่ยังอยู่ในชุดนอนอยู่เลย
“ลูกหลับเหรอ”
“ค่ะ กินข้าวอิ่มก็หลับเลย แล้วคุณธรทำไมยังไม่ไปทำงานคะ”
“วันนี้บ้านเราจะมีแขกคนสำคัญ” หลังจากที่เธอและลูกกินข้าวเสร็จแล้วพากันขึ้นมาที่ชั้นบน ลูกน้องได้เข้ามารายงานเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง เขาจึงตั้งใจรอการมาถึงของจันทรา
“ใครคะ?” เอมอรเลิกคิ้วเล็กน้อย แปลกใจว่าทำไมสามียังรับรองแขกที่บ้านหลังนี้อีก ตั้งแต่ลูกเกิดจนตอนนี้ลูกเดินได้แล้ว เพิ่งมีงานเลี้ยงไปครั้งเดียวคือเลี้ยงรับขวัญลูกชาย และอีกงานที่จะจัดขึ้นก็คือวันครบรอบหนึ่งขวบของลูกชายในอีกหนึ่งอาทิตย์ที่จะถึงนี้
“พี่สาธิต” เขาบอกและสังเกตดูท่าทีของเธอ เห็นเธอถอนหายใจอ่อนแรง
“อรไม่อยากให้คุณท่านมาที่นี่เลยค่ะ อรกลัว..”
“บอกฉันได้ไหมว่ากลัวอะไร?” พี่ชายเขามันประเภทดื้อด้าน ยิ่งห้ามก็ยิ่งมา เขามักจะอ้างว่ามาเยี่ยมหลานชายเพราะคิดถึง แต่ตนรู้เจตนาที่แท้จริงของเขา.. แล้วเป็นลูกชายซะด้วย จะไม่หลงได้ยังไง ที่มีอยู่ก็เป็นผู้หญิงทั้งสี่หน่อ
“ตราบใดที่คุณท่านมาวนเวียนอยู่แบบนี้ อรไม่ไว้ใจเลยค่ะ”
“กลัวเมียเขาจะสงสัยใช่ไหม?”
“อรกลัวคุณจันทราจะมาเจออรที่นี่ เจอลูกของอรแล้วทำร้ายเขา”
“ลูกของเรา ตาปูนเป็นลูกของฉันกับอรจำไว้ให้ขึ้นใจ” เขารับไม่ได้ที่ต้องเป็นส่วนเกินของแม่ลูกคู่นี้ ภาสกรคือลูกของเขาตั้งแต่วันที่รับเธอเข้ามาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายเธอกับลูก แต่ถ้าทำเขาไม่เก็บมันไว้แน่
สาธรและเอมอรใช้เวลาว่างที่แขกยังมาไม่ถึงขลุกอยู่ในห้องของลูกน้อย นั่งคุยกันถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น ช่วยกันคิดช่วยกันหาวิธี
ก๊อกๆๆ
ชื่นเปิดประตูเข้าไปเมื่อเคาะให้สัญญาณแล้ว
“ใคร?” สาธรเป็นฝ่ายถามโดยไม่รอให้อีกฝ่ายรายงาน
“คุณจันทราครับนาย”
เอมอรเขยิบเข้าไปใกล้สามีอย่างลืมตัว กอดแขนเขาไว้มั่นอย่างต้องการที่พึ่ง
“เดี๋ยวกูลงไป”
“ครับนาย” ชื่นจากไปอย่างรู้หน้าที่
“อรไม่อยากเจอคุณจันทราเลยค่ะ อรขอไม่ลงไปได้ไหม?” รอชื่นปิดประตูแล้วจึงเอ่ยกับสามี
“อรจะอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ ถ้าอรรักลูกอรต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน กล้าเผชิญหน้ากับเธอ ตาปูนคือลูกของเราลืมแล้วเหรอ?” มือใหญ่บีบกระชับมือบางที่เกี่ยวแขนเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ
“คุณธรจะทิ้งอรหรือคะ?” ดวงตาหวานฉ่ำของเธอตอนนี้เริ่มมีน้ำตาคลอหน่วย
สาธรรวบร่างบางไว้แนบอก พรมจูบซับน้ำตา สุดท้ายหยุดนิ่งที่ริมฝีปากพูดจาไร้สาระเนิ่นนานจึงปล่อย
“ถึงฉันจะเจ้าชู้ แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะทิ้งเธอกับลูกนะ เราเคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ที่ฉันบอกว่าเธอจะอยู่แบบนี้ตลอดชีวิตไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเอาคนอื่นมาแทนที่เธอ แต่ฉันไม่อยากให้เธอหนี และเอาแต่หลบหน้าอยู่ในบ้านแบบนี้ อยากให้เธอได้ออกไปข้างนอก พาลูกไปเปิดหูเปิดตาบ้างเท่านั้นจริงๆ”
“อรเข้าใจแล้วค่ะ” เธอกลัวเขาทิ้งเพราะเป็นห่วงอนาคตลูกน้อย ไม่อยากให้ลูกต้องลำบาก ถึงแม้จะมีเงินสะสมที่เขาให้ไว้ทุกเดือน แต่ถ้าออกไปอยู่เองไม่นานก็คงหมด แล้วลูกเธอจะเป็นยังไง เขาต้องโตขึ้นทุกวัน เขาต้องเรียนอีกมาก