ที่สำนักทนายความใบบัวกับมาร์คนั่งทำงานด้วยกันอย่างตั้งใจ เขาอยากเป็นนักกฎหมายที่เก่งแต่คนเป็นพ่ออยากให้เรียนจบจากนั้นก็มาดูแลธุรกิจของพ่อซึ่งเขาไม่อยากทำและไม่มีความคิดที่อยากจะทำ
"เป็นอะไรมาร์คนั่งคิดอะไรอยู่"
ใบบัวเดินมานั่งลงตรงข้ามกับเขาและวันนี้มาร์คดูกังวลแปลกๆ ไม่ยิ้มแย้มเหมือนที่ผ่านมา
"ทะเลาะกับพ่อมานะสิ"
"ไม่ถามนะว่าเรื่องอะไร"
ใบบัวยิ้มออกมาก่อนจะเปิดเอกสารอ่านต่อ เธอไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นและคิดว่าถ้าเขาอยากระบายหรืออยากเล่าก็คงพูดออกมาเอง เราไม่ควรจะกดดันคนอื่นไม่ว่าจะกับใครทั้งนั้น มาร์คถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงจริงจัง
"เรื่องธุรกิจของพ่อ"
"แล้วไงต่อ"
"จริงๆเราไม่ควรบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้นแต่เราจะบอกใบบัวเพราะคิดว่าใบบัวจะไม่เอาไปพูดต่อ เราอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจจริงๆ"
มาร์คเอ่ยออกมาเสียงเบาและเป็นที่สงสัยสำหรับหญิงสาวมากกับเรื่องที่เขากำลังจะพูดออกมา ทำไมรู้สึกกลิ่นไม่ค่อยดียังไงไม่รู้
"เรื่องอะไรมาร์ค"
"เราแอบได้ยินพ่อคุยกับใครคนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องค้าไม่เถื่อน บอกตามตรงเราไม่สบายใจเลยเรื่องเลวร้ายพวกนี้ เราพยายามเตือนสติให้พ่อหยุดแต่เขาไม่ฟังและยังยืนยันจะทำต่อ"
ใบบัวตกใจไม่น้อยไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ลูกเรียนกฎหมายแต่พ่อกลับทำผิดเสียเองคนเป็นลูกก็คงลำบากใจมากแหละ
"แล้วทำไมถึงเล่าให้เราฟังล่ะ"
"เพราะคนที่พ่อเราคุยด้วยคือพี่ชายของใบบัวไง ทั้งสองคนทำธุรกิจด้วยกันและแน่นอนว่าเขารู้ดี'
"ไม่จริง พ่อเลี้ยงไม่ทำแบบนั้น"
ใบบัวส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ ชายหนุ่มคือคนที่เธอมองว่าดีที่สุดมาเสมอและไม่มีทางยุ่งกับธุรกิจผิดกฎหมาย มาร์ครู้ว่าใบบัวรักพี่ชายมากและคงเสียใจถ้าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
"ลองไปถามดูสิเราบอกเท่าที่รู้มาเท่านั้น"
หญิงสาวเงียบไปอย่างรู้สึกสับสนกับตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อเลยเรื่องนี้แต่มาร์คไม่เคยโกหก เขาพูดเรื่องจริงเสมอและคงไม่กุเรื่องมาใส่ร้ายพ่อของตัวเองหรอก
"เราจะกลับไปคุยกับพ่อเลี้ยงเย็นนี้"
และทั้งวันใบบัวไม่เป็นอันทำงานอะไรใครถามก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะในใจมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เธอเคยบอกเขาไปแล้วว่าถ้าเขาทำแบบนั้นเธอคงผิดหวังมากและยิ่งตอนนี้เขามีฐานะเป็นสามีของเธอด้วยความเป็นห่วงเธอมีสิทธิ์ที่จะถามและตักเตือนในสิ่งที่เขากำลังทำถ้ามันผิดพลาดไปแล้ว
"ใบบัวโอเคมั้ยเนี่ย ไม่ไหวกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนดีมั้ยพี่ว่าใบบัวทำงานเยอะมันเครียดใช่มั้ย"
"ใบบัวขอโทษนะคะพี่นับดาววันนี้ใบบัวทำเสียงานหมดเลย"
เธอยอมรับผิดอย่างไม่มีข้อแก้ตัวใดๆและนับดาวก็เข้าใจดีในเรื่องนี้ การทำงานมันก็ต้องมีเครียดบ้างเพราะฉะนั้นต้องไปผ่อนคลายให้เบาสมองแล้วค่อยกลับมาลุยต่อ
"ไม่เป็นอะไรเลยกลับไปพักผ่อนก่อนนะพรุ่งนี้มาลุยกันใหม่"
"ขอบคุณนะคะงั้นใบบัวขอตัวกลับก่อน"
"จ้ะไปเถอะ"
ใบบัวยกมือไหว้บอกลาพี่ๆก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที หญิงสาวกดโทรศัพท์เรียกให้พี่เลี้ยงมารับแล้วและตอนนี้พวกเขาก็รออยู่ตรงทางเข้าสำนักงาน
"นายหญิงเลิกงานเร็วเหรอคะ"
"อืม... พาใบบัวไปส่งที่ไร่หน่อยอยากเจอพ่อเลี้ยง"
"ได้ค่ะงั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ"
ฟ้าพาใบบัวไปขึ้นรถจากนั้นก็พากลับไปยังไร่อย่างรวดเร็ว พ่อเลี้ยงแทนไทในตอนนี้กำลังดูคนงานขนของขึ้นรถเพื่อเตรียมขนส่งข้ามประเทศ หญิงสาวที่ลงจากรถก็เดินตามหาชายหนุ่มทั่วไร่และในที่สุดก็เจอเขาตรงโกดังเก็บของ
"พ่อเลี้ยง"
พ่อเลี้ยงแทนไทได้ยินเสียงของภรรยาก็หันไปมองหาทางด้านหลัง เมื่อเจอหน้าก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินไปหาพร้อมกับดึงหญิงสาวเข้ามาใกล้
"ทำไมเลิกงานเร็วจังเลย พี่ว่าจะไปรับด้วยตัวเองนะวันนี้"
"ไม่เป็นไรค่ะแต่ใบบัวมีเรื่องจะคุยกับพ่อเลี้ยงค่ะ กลับไปที่บ้านก่อนได้มั้ยคะใบบัวมีเรื่องสำคัญจะคุยกับพ่อเลี้ยงจริงๆ"
เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนสุดๆจนชายหนุ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่มันไม่ค่อยจะดี และภาวนาขอให้เป็นเรื่องไร้สาระหรืออะไรก็ได้บอกตามตรงเขาไม่อยากทะเลาะกับเธอเลยในช่วงนี้
"ได้สิคะงั้นเรากลับกัน"
เขากุมมือภรรยาพาไปขึ้นรถจากนั้นก็พากลับมาที่ไร่ในเวลาต่อมา และเมื่อมาถึงที่บ้านเราก็สั่งลูกน้องให้ออกไปจากตัวบ้านให้หมดเหลือแค่เขากับใบบัวเท่านั้น
"มีอะไรจะคุยกับพี่เหรอว่ามาสิ"
เขามองใบบัวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามและดูสีหน้าของภรรยาในตอนนี้ดูซีเรียสมาก เธอขยับเข้ามาใกล้ชายหนุ่มกุมมือเขาไว้แน่นก่อนจะเอ่ยเสียงสั่น
"พ่อเลี้ยงไม่ได้ทำธุรกิจผิดกฎหมายกับเสี่ยหมีใช่มั้ยคะ บอกใบบัวให้ชื่นใจหน่อยว่าพ่อเลี้ยงไม่ทำแบบนั้น"
เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนขอให้เขาพูดอะไรก็ได้ให้เธอสบายใจหน่อย แต่ชายหนุ่มดูอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าใบบัวจะรู้เรื่องนี้และไม่มีทางที่เธอจะรู้ได้ถ้าไม่มีใครเอาไปบอก
"ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน"
"พ่อเลี้ยงแค่ตอบใบบัวค่ะว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ตอบมาสิคะว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง พ่อเลี้ยง! ตอบใบบัวสิคะ"
"มันไม่ใช่เรื่องของเด็กนะใบบัวอย่ายุ่งเรื่องนี้"
พ่อเลี้ยงสวนกลับหญิงสาวเสียงแข็งและนั่นทำให้เธอช็อคไปเลยเมื่อเจอพ่อเลี้ยงใช้น้ำเสียงไม่ดีใส่แถมยังไม่แก้ตัวกับเธออีก พ่อเลี้ยงแทนไทเหมือนจะได้สติยื่นมือไปดึงเธอมากอดไว้แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะมองเขาเปลี่ยนไป
"นี่พ่อเลี้ยงทำจริงๆใช่มั้ยคะ"
"ใบบัวใจเย็นก่อนแล้วฟังพี่"
เขาพยายามทำให้เธอใจเย็นและอยากให้เธออย่าเอาตัวเองมายุ่งกับเรื่องพวกนี้แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเพราะหญิงสาวเป็นคนคิดมากและถ้าเธอได้รู้เรื่องอะไรสักอย่างแล้วมันจะทำให้เธอไม่เป็นคนสดใสเหมือนเดิมแถมยังจะเครียดหนักเข้าไปอีก
"พ่อเลี้ยงทำให้ใบบัวผิดหวังมากเลยนะ ใบบัวคิดมาตลอดว่าพ่อเลี้ยงคือคนที่ดีที่สุดแต่วันนี้มันไม่ใช่ ฮึก! ใบบัวเหมือนไม่รู้จักพ่อเลี้ยงเลย"
"พี่อยากให้ใบบัวอยู่เฉยๆไม่ต้องยุ่งกับเรื่องนี้ แล้วทุกอย่างมันจะดีเอง"
"ใบบัวไม่อยากอยู่กับคนเลวได้ยินมั้ยคะ ใบบัวไม่อยากอยู่กับพ่อเลี้ยงแล้ว"
เธอสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่มก่อนจะวิ่งออกไปจากตรงนั้นและไม่รู้ว่าเธอจะไปที่ไหนเพราะตั้งแต่เกิดมาทั้งชีวิตเธอก็มีแค่เขาและครอบครัวของเขาเท่านั้น
"ฮืออออ ทำไมพ่อเลี้ยงต้องทำแบบนั้นด้วย ใบบัวผิดหวังในตัวพ่อเลี้ยงมากเลยนะ คนนิสัยไม่ดี ฮึก"
พ่อเลี้ยงแทนไทสบถออกมาอย่างหัวเสียวิ่งตามหญิงสาวออกไปแต่ไม่ทันแล้วเพราะเธอขึ้นรถและสั่งให้ลูกน้องพาออกไปจากที่ไร่แล้ว หมูวิ่งเข้ามาหาเจ้านายด้วยใบหน้าแตกตื่น เห็นนายหญิงของบ้านร้องไห้วิ่งออกมาซึ่งเดาว่าคงจะทะเลาะกับพ่อเลี้ยง
"เกิดอะไรขึ้นครับพ่อเลี้ยงให้ผมเอารถออกมั้ยครับ"
"ไม่ต้องตามปล่อยใบบัวไปก่อน"
เขาตัดสินใจว่าจะไม่ตามเธอและจะเคลียร์เรื่องพวกนี้ให้จบเร็วที่สุดแล้วค่อยอธิบายให้ใบบัวเข้าใจทีหลัง ถึงแม้ว่าเขาจะห่วงและไม่อยากให้เธออยู่ไกลหูไกลตาแต่มันอาจจะเป็นวิธีเดียวที่เธอจะปลอดภัยจากเรื่องพวกนี้
"พ่อเลี้ยงจะปล่อยนายหญิงไปแบบนี้เหรอครับ"
เขาหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาสารวัตรภาคินและแน่นอนว่าสองคนนั้นจะต้องเป็นคนดูแลภรรยาให้เขาซึ่งการอยู่กับสองคนนั้นใบบัวจะปลอดภัยที่สุด
"สารวัตรมาวินผมขอคุยกับภรรยาของคุณหน่อย"