หลังจากที่เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วก็มีการแลกเบอร์กันเรียบร้อย มีไลน์ของกันและกัน ส่วนการติดตามในโซเชียลฉันมีทั้งหมดแล้วอย่างว่าฉันชอบเขามากี่ปี ฉันเดินเข้าบ้านด้วยจิตใจที่มึนงง เพราะคำพูดที่ไม่คิดในตอนนั้น มันทำให้ได้คบกันในวันนี้...
จะว่ามีความสุขก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นเพราะรู้ดีว่ากระทิงตอบตกลงเพราะอะไรแต่ฉันก็พร้อมที่จะดันเขาออกถึงแม้ระหว่างทางมันอาจจะเจ็บปวดกก็ตามแต่ถ้ามันสำเร็จก็คุ้มไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อเขาเปิดโอกาสให้ฉันเข้าไปแล้ว ฉันจะทำมันให้ดีที่สุด
ฉันคิดแบบนั้นเมื่อมีโอกาสก็ควรรีบคว้าเอาไว้สิ ใช่ไหม? ลองสักครั้งถ้ามันเป็นผลดีถือว่า แต่ถ้าไม่ก็เจ็บไปแค่ไหนเพราะฉันเองก็ปล่อยให้ยืดเยื้อมาตั้งหลายปีโดยไม่ทำอะไร ขอเปลี่ยนจากตัวประกอบเป็นตัวเอกหน่อยเถอะ ถึงแม้จะมีโอกาสกลับไปเป็นแบบเดิมก็ตาม...
เช้าบ้านต่อมา
บ้านลิเคียว
ถึงแม้เมื่อคืนจะนอนดึกแค่ไหนก็ต้องตื่นเช้าไปเรียนอยู่ดี เหอะๆ
“ไงเราเมื่อคืนกลับตอนไหน?” เมื่อเดินลงมาจากห้องก็พบมนุษย์พ่อที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์และเปิดทีวีไปด้วย ไม่รู้ว่าทำไมไม่เลือกสักอย่าง
“อืมมม ตี 3 มั้ง?” ฉันตอบไปกวนๆ
“แม่ละภูมิใจจริงลูกสาวกลับบ้านตี 3 แต่ยังมีแรงตื่นไปเรียน” แปะๆๆๆ แม่ฉันยืนตบมือยิ้มร่า
บ้านของฉันค่อนข้างเป็นกันเองนะและให้อิสระฉันมากที่เดียวจะกินจะดื่มหรือสูบบุหรี่พ่อแม่ฉันรู้หมอเพราะพวกท่านเองก็ทำเหมือนกันแต่นั่นมันเมื่อก่อนนะพอมีฉัน พ่อแม่ก็เลิกไป เลยกลายเป็นฉันที่ติดแทนแต่พอถึงวันหนึ่งก็คงต้องเลิกนั่นแหละทั้งเหล้าและบุหรี่
“ให้ท้ายแต่เรื่องดีๆทั้งนั้น” พ่อฉันพูดแต่ตายังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เก่งจริงๆวะพ่อใคร?
“เมื่อก่อนคุณก็เป็นเถอะ” แล้วแม่ฉันก็สะบัดหน้าหนีไปแล้ว งอนกันเป็นเด็กๆแต่นี่แหละเสน่ห์ของพ่อแม่ฉันที่รักกันมายืนนนยาวววว
“อ้าว! ที่รักไปไหน!?” พ่อฉันโวยวายถามและตามแม่ไป ฉันได้แต่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ
“งั้นลิเคียวไปเรียนก่อนน้า~” ฉันตะโกนบอกตามหลังไป
“เออๆจะไปไหนก็ไป๊!” เหอะๆ ดูพ่อฉันตอบ
ฉันเลิกสนใจพ่อแม่และเดินออกมาเพื่อจะไปเรียน โดยการนั่งรถเมย์นั่นแหละ แค่ 10-15 นาทีก็ถึงแล้ว แต่ระหว่างเดินออกจากบ้านก็มีพวกนักมวยพ่อที่ตื่นมาวอมร่างกายกันนั่นแหละ และก็มีทักทายกันบ้างตามประสาคนรู้จัก นักมวยพ่อประมาณ 15 คน ล้วนแล้วเป็นผู้ชายทั้งหมด
“ไปส่งไหม?” บูรพาหรือบลู ถามฉันเขาเป็นนักมวยมือหนึ่งของค่ายและเป็นคนที่พ่อฉันเก็บมาเลี้ยงไม่สิเป็นลูกบุญธรรมซึ่งเราก็ค่อนข้างสนิทกันอยู่เหมือน เมื่อก่อนหนะนะเพราะพอเข้ามหาลัยฉันก็ยุ่งๆไม่ค่อยเจอ เจอก็ไม่ได้คุยอะไรมากมายและยิ่งพอฉันรู้ตัวว่าชอบกระทิงยิ่งหายหน้าบอกเลย
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวนั่งรถเมย์ไป” ฉันปฏิเสธไป
“มะ”
ปรี๊กๆ
แต่ไม่ทันที่บลูจะพูดอะไรจบหน้าบ้านก็มีเสียงบีบแตรของรถ ใครมากัน? ฉันเดินออกไปดูก็พบ..
“กระทิง...” รถของเขาจอดอยู่บ้านฉันและไม่ต้องรอให้เขารีบ ฉันรีบเดินไปที่รถทันทีความจริงแล้วฉันพวกสโลไลพอสมควร ฉันค่อนข้างใช้ชีวิตแบบช้าๆไม่กระตือรือร้นเท่าไรแต่พอเป็นเรื่องเขามันทำให้ฉันต้องร้อนร้นตลอดเลย
“ไปเรียน..” กระทิงเปิดกระจกและพูดกับฉัน ฉันพยักหน้ารับและเดินไปที่รถทันทีไม่รอช้าก็เปิดประตูเข้าไปนั่งเรียบร้อย
“คิดไงมารับ?” ฉันถามขณะที่คาดเข็มขัดไปด้วย
“ทางผ่านพอดี”
“อ๋อ..”
“ไหนบอกบ้านอยู่ทางเดียวกับกู?” กระทิงหันหน้ามาถาม อ่า ตอนนั้นที่นั่งกินเบียร์กัน..
“ตอนนั้น.. แค่อยากนั่งเป็นเพื่อน” ฉันตอบไปตรงๆ
“คนละทางกันแหะ”
“หะ?” เพราะกระทิงพึมพำอะไรบางอย่างแต่ฉันได้ยินไม่ชัดเท่าไร
“เปล่า..”
“อืม” จากนั้นเราก็ไม่มีเรื่องอะไรคุยกันอีกเลย
มหาวิทยาลัย S
ฉันกับกระทิงมาถึงมหาลัยแล้วและต้องเดินไปพร้อมกันแต่ระหว่างทางคนมองเพียบ! ไม่เคยเห็นคนหรือไง?
“มองห่าไร? ไม่เคยเห็นคนหรือไง!!?” แต่เหมือนจะมีคนพูดแทนความคิดฉันไปแล้ว
“หึหึ”
“ขำอะไรวะ?” กระทิงตะวัดสายตามามองฉันเมื่อได้ยินเห็นขำเบาๆของฉัน ขนาดพยายามกั้นแล้วยังได้ยินอีก
“เปล่า แค่นายพูดในสิ่งที่ฉันคิดอยู่” ฉันยักไหล่และเดินนำเขาไป
“เฮ้ย รอด้วยยย” กระทิงวิ่งตามหลังมา เราเดินมาเข้าห้องเรียนพร้อมกันซึ่งมันเป็นอะไรที่รู้สึกดีมากๆเลย พอมาถึงห้องเรียนทุกคนก็หันมามองอย่างพร้อมเพียง เหอะๆ
ฉันไม่สนใจและเดินไปหาเพื่อนๆของฉันที่ตอนนี้พวกมันกำลังนั่งมองอย่างช็อคๆและน้ำลายไหลอยู่ พวกมันคงมีคำถามมากมายแน่ๆ เฮ้อออ ขี้เกียจตอบ
“มึง..กับกระทิง?” พอนั่งลงบนเก้าอี้ปุบเมลมันก็เริ่มถามทันทีกลัวไม่รู้เรื่องหรือไง?
“เอ่อ..”
“มึงอย่าช้าดิ! พวกกูอยากรู้” ไอ้วุ้นเขย่าแขนฉันอย่างแรงเพราะความอยากรู้อยากเห็น
“เลิกเรียนเดียวเล่าให้ฟัง...” ฉันเลี่ยงคำถาม
“ไม่เอา พวกกูอยากรู้ตอนนี้ค่ะ” ไอ้เมลพูดกระแทกเสียง
“อาจารย์มาแล้ว..” แต่เหมือนอาจารย์จะช่วยชีวิตฉันไว้พอดี
“เชอะ! ฝากไว้ก่อนเถอะย่ะ!” เมลมันสะบัดคอซะจะหักไหมหนะ?
หลังจากนั้นเราก็เริ่มเรียนกันปกติ และปกติของฉันก็คือนั่งมองกระทิงไปด้วยนั่นแหละ แต่คราวนี้มันมีความรู้สึกที่แปลกไป เพราะเราเป็นแฟนกันแล้วมั้ง?
พรึ่บ!
“เห้ย!” ฉันร้องตกใจเมื่อขณะที่กำลังมองกระทิงอยู่จู่ๆเขาก็หันมามองฉันเฉยเลย... ตึกตักๆๆๆ-////- ใจมันเต้นลัวไปหมดแล้ว
“นักศึกษาเป็นอะไรครับ?” อาจารย์ถามเมื่อฉันส่งเสียงดังออกไป
“เอ่อ..ปะเปล่าค่ะ” ฉันตอบพร้อมเกาหัวอย่างเขินๆ
“ครับ งั้นต่อไป...” และอาจารย์ก็สอนไป ฉันหันไปมองกระทิงอีกครั้งและเขาก็กำลังมองฉันอยู่เหมือนกัน...ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!
ใจเต้นแรงกว่าเดิม...
...เพราะกระทิงเขา ‘ยิ้ม’ ให้ฉัน?
“บ้าที่สุด-//-” ฉันบ่นกับตัวเอง
“ลิเคียวเป็นอะไร?” แก้วใสถามคงได้ยินเสียงบ่นของฉันมั้ง
“เปล่า...”
“แต่..หน้าแดงจัง?” แก้วใสยื่นมาใกล้ๆฉันจนต้องหลบหนี
“ร้อน..” แถไปเรื่อยทั้งๆที่ห้องแอร์แท้ๆ
“อ๋อออ คงงั้นแหละ” แล้วมันก็หันไปสนใจหน้าห้องเรียนเดิมเหมือน ส่วนฉันหันไปมองกระทิงอีกครั้งพบว่าเขาไม่ได้มองฉันแล้ว ฉันจึงหันไปสนใจเรียนบ้าง...
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้และอย่าลืมไปอ่านหนังสือเพื่อสอบในคาบหน้า..” อาจารย์พูดจบก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้นักศึกษาที่กำลังร้องโอดโอยเพราะต้องสอบเอาไว้ นักศึกษาก็แบบนี้เรียนไปสอบไป คะแนนเต็มแค่ 5 คะแนนจาก 100 ข้อ เหอะๆ คะแนนเก็บ 20 คะแนนสอบ 80 ฉันผ่านมาได้จนปี 4 ก็ถือว่ามีบุญมากแล้ว
“โอ๊ยยยยย จะสอบอะไรนักหนา~” เมลร้องและเอามือยี้หัวตัวเอง
“นั่นดิ เปิดมาแค่อาทิตย์เดียวเองนะโว้ยยยย จะเอาอะไรมาสอบว่ะ” ลูกคู่อย่างวุ้นก็ไม่ยอมน้อยหน้าร้องดิ้นอยู่ที่โต๊ะเหมือนกัน
“อาจารย์ถึงบอกให้ไปอ่านไง” แก้วใสคนดี คนเดิม พูดด้วยเสียงใส ตาใส
“จ้า มึงไปคนเดียวเถอะจ้า~”
“พวกมึงจะไม่อ่าน?” ฉันถามพวกมัมนสองคนที่นอนดิ้นไม่ขยับไปไหนสักทีหิวแล้วนะ
“อ่าน!” / “อ่านดิวะ!”
“แล้วจะบ่นเพื่อ?” ฉันเลิกสนใจและหมุนตัวเตรียมออกจากห้อง เพื่อไปหาข้าวกินดีกว่า
ปึก
“โอ๊ย!” แต่พอหันไปก็ชนกับอะไรไม่รู้แข็งๆ
“เดินไม่ดูเลยมึง...” อ่า ฉันเดินชนกระทิงนี่เอง
“ขอโทษ...” ฉันพูดเบาๆพร้อมจับตรงรอยที่โดนชน
“ไหนดูดิวะ” เขาจับหน้าฉันด้วยมืออุ่นๆทั้งสองข้างของเข้า กระทิงพลิบหน้าฉันไปมา ส่วนก็มองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าเขาจะทำแบบนี้...
“เดี๋ยวนะ? พวกกูพลาดอะไรไปหรือเหล่า?” ไผ่ถามอย่างสงสัยและทุกคนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ไม่นิ” กระทิงตอบแต่เขายังไม่ปล่อยมือออกไปจากหน้าของฉัน
“อีเคียว” เมลเรียกฉันเสียงดัง
“อะไร??” ฉันดึงมือกระทิงออกทั้งๆที่ไม่อยากเอาออกด้วยซ้ำเพราะไอ้เมลตัวดีแท้ๆ
“ไม่ต้องมาเสียงขุ่นย่ะ นี่คือ....?” มันถามและชี้ฉันกับกระทิงสลับไปมา
“เอ่อ..” ฉันเลิ่กลักเพราะไม่รู้จะตอบยังไง
“มึงหิวยัง?” แต่กระทิงก็ถามขึ้น
“หะ? อ๋อ หิวยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“แหม นี่มึงเมินคำถามกูไปตอบกระทิงก่อนได้ไงว่ะ?” เมลมันโวยวายเมื่อฉันไม่ได้ตอบคำถามมัน
“เอ่อ..” ไปไม่ถูกเลยแหะ
“ป่ะ” หมับ กระทิงจับมือและจะพาเดินออกไป
“เดี๋ยววว มึงจะพาลิเคียวไปไหน?” ชินห้ามไว้และถามกระทิง
“ส่วนมึงก็ตามเขาไปเลยนะ มันน่าตีนักเพื่อนกูเนี่ย” วุ้นยกมือทำท่าจะตีฉัน
“ไปเดท...”
“หะ0_0?” ฉันตาโตอย่างตกใจเมื่อกระทิงพูดออกไป
“อ๋ออออ” ทุกพยักหน้าแต่เดี๋ยวก็จะตกใจเหมือนฉัน >_<
“หะ!!! เดท!!!?” X6 !
“เป็นแฟนก็ต้องไปเดท แปลกตรงไหน?” และก็ลากฉันเดินตามออกมา ตึกตักๆๆๆๆๆ ทุกคนนนได้ยินเสียงอะไรไหม? มันคือหัวใจฉันที่มันกำลังจะระเบิดออกมา!!
ส่วนข้างในก็กำลังโวยวายกับสิ่งที่ได้ยินอยู่~